[SR] [Mr. Coffee รีวิว 4/2560] สยามสแควร์ (ไม่สปอยล์)

สยามสแควร์ - ไม่ธรรมดา ทั้งความน่ากลัว mechanic ของผี ความไซไฟ? ทั้งที่เป็นหนังวัยรุ่น เข้าใจไม่ง่ายเพราะยังเล่าเรื่องไม่คมพอ


    สวัสดีครับ เมื่อวันองคารที่ผ่านมา ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "สยามสแควร์" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทางค่ายสหมงคลฟิล์ม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

    "สยามสแควร์" หนังไทยที่ในช่วงแรก ที่การโปรโมททำให้คนส่วนใหญ่นึกไปถึงหนังรักวัยรุ่นระดับตำนานอย่าง "รักแห่งสยาม" ด้วยการปล่อยภาพนักแสดงวัยรุ่นมากมาย หลายคนคงคิดไปถึงหนังรักหลายคู่ หลากหลายความสัมพันธ์ ข่าวนักแสดงที่ออกมาก็ดูเหมือนทำท่าว่าหนังจะออกไปทางนั้น แต่..

    เมื่อตัวอย่างปล่อยออกมา อ้าวเฮ้ย.. กลายเป็นหนังผี ผีที่สยามสแควร์เนี่ยนะ??? ยอมรับว่าสงสัยมากว่าสถานที่มีผีมีตั้งเยอะ แต่หนังเรื่องนี้กำลังจะเล่าเรื่องผีที่สยามสแควร์.... ความรู้สึกมันไม่ต่างอะไรกับผีที่สยามพารากอน หรือเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งแค่คิดก็ไม่เวิร์คแล้ว และตัวอย่างหนังเรื่องนี้ มันไม่ค่อยซื้อใจผมได้นะ เพราะปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั่นแหล่ะ ซึ่งก็ตรงกับที่หลายคนคิดว่ามันพลิกล็อก ผิดคาด ดีนะที่ไม่ทำตัวอย่างแบบ "รักแห่งสยาม" ตัดแต่ฉากใสๆมา ผมว่ารับรองโดนด่าไม่แพ้กัน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังอยากดู ว่ามันจะทำให้น่ากลัวได้ยังไงอยู่ดี

     ช่วงแรก หนังค่อนข้างเล่าเรื่องแปลก ใช้การตัดสลับเวลาบางส่วน และพอหนังเข้าสูช่วงแรกที่ปูเรื่อง ผมว่าหนังค่อนข้างอืดและช้า การปูเรื่องก็ดูเหมือนไม่ค่อยเจาะจงนัก ดูเหมือนจะเน้นความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนมากกว่า และเมื่อหนังอืดๆ มาเจอตัวขโมยซีนอย่างเบสท์ ณัฐสิทธิ์ ความฮาจึงบังเกิดจากตัวเขาเป็นผู้นำ ส่วนในเรื่องความน่ากลัว ตรงนี้ดูน่าสนใจพอสมควรว่าจะพาเรื่องไปในทิศทางไหน

    ช่วงกลาง เมื่อเส้นเรื่องหลักคือเรื่องผี เริ่มเข้มข้น มันก็ดูน่าสนใจขึ้น ผมชอบจังหวะตลกที่หนังทำเรื่องนี้ทำได้ฮาและโดน ส่วนผี ถึงจะออกแนวผีตุ้งแช่ไปบ้าง แต่ก็น่ากลัวใช้ได้ และเรื่องราวก็เริ่มมีความลึกลับมากขึ้น ที่น่าสนใจคือ หนังเรื่องนี้มีรายละเอียดแบบแว้บผ่าน ที่ต้องสังเกต โปรยมาตามทางพอสมควร แถมไม่มีตัวละครใดพูดถึงหรือพูดย้ำด้วย ทำให้ถ้าใครดูแล้วหลุดไป เชื่อเลยว่าจะเกิดปัญหาในช่วงท้ายของหนังอย่างแน่นอน

    ช่วงท้าย พอหนังพาเรื่องมาถึงจุดสำคัญ เฮ้ย! เล่นแบบนี้เลยหรือ แถมพอเริ่มนึกย้อนไปถึงความผิดปกติที่สังเกตได้ก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าหนังโปรยคำใบ้มาตลอดรายทาง โอ้โห คิดได้ยังไงครับ ไม่ธรรมดา ผมชอบมากเลยนะวิธีนี้ ไม่น่าเชื่อตรงมันลงล็อกที่สงสัยพอดีทั้งหมด แต่พอพ้นจากนั้น ผมมองว่าเหมือนหนังไม่ควรลากต่อมา เพราะส่วนที่ต่อมา มันดูไม่ลงตัวนัก ยิ่งเจาะลงในรายละเอียด จะเกิดคำถามว่า มายังไง มาทำไม ซึ่งทำให้ตอนจบดูขาดพลังอย่างน่าเสียดาย

     การแสดงของหนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจตรงที่ดูเหมือนว่าบทจะถูกกระจาย และแคสมาตามความสามารถในการแสดงของนักแสดง มันจึงดูลงตัวพอประมาณ เบสท์นั่นเป็นระดับพิเศษไปแล้ว เลยดูเหนือกว่าทุกคนไปมาก ส่วนน้องพลอย ศรนรินทร์ คนนี้ประสบการณ์สูงกว่าคนอื่น และก็ทำได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนนักแสดงที่เหลือ ผมมองว่าทำหน้าที่ได้ดีพอประมาณตามศักยภาพ ที่ดีมากคือการแต่งหน้า แต่งเป็นเด็กมัธยมใสๆกันได้ดี

    หนังเรื่องนี้ ผมชอบในส่วนของประเด็นหลักในเรื่องผี และไซไฟ? แนวคิดมันเจ๋ง และสดใหม่ ซึ่งยอมรับว่าผมโชคดี ที่เก็ทและโอเคกับมัน ส่วนตวามสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนั้น ยอมรับว่าไม่ค่อยอินนัก แต่อาจจะเป็นที่อายุ ความแก่ ฯลฯ และอาจเป็นปัญหาของผมเองที่ไม่เข้าใจ ซึ่งผมมองว่าตรงนี้ถ้าวัยรุ่นดู อาจจะชอบมากและมองต่างจากผมไปเยอะเลยก็เป็นได้

    แต่ส่วนที่มีปัญหา กลายเป็นวิธีการเล่าเรื่อง ที่การพยายามกระจายบทให้นักแสดงหลัก 10 คน มันเป็นไปแทบจะไม่ได้ จะให้คนดูจำชื่อให้หมดได้ยังยากเลย และทั้งๆที่หนังมีรายละเอียดมากมายในเส้นเรื่องหลัก แต่หนังก็ต้องมาเสียเวลากับเส้นเรื่องย่อยที่ตัดออกได้อย่างแน่นอน เพราะชัดเจนว่าตอนจบก็ไม่เห็นใช้อะไร ถ้าเหลือนักแสดงหลักเท่าที่จำเป็นสัก 6 คน ผมว่าน่าจะลงตัวกว่านี้เยอะ รวมถึงการที่หนังใช้ท่ายากในการเล่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ที่ผมมองว่าเดินเรื่องแบบมีคนเล่าเรื่องก็ไม่น่าจะเสียหาย และน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าการพยายามให้คนดูเข้าใจความสัมพันธ์ะระหว่างตัวละครจากบทสนทนา สีหน้า แววตา การแชท รายละเอียดมันเยอะนะครับ ทั้งหมดนี่ผมยังไม่นับเส้นเรื่องหลักคือเรื่องผี รายละเอียดมันก็เยอะจะแย่อยู่แล้ว

    ส่วนที่สำคัญที่ผมอยากบอกทุกท่านคือ หนังเรื่องนี้ดู "ยาก" ครับ ความยากของหนังเรื่องนี้คือวิธีการโปรยรายละเอียด คำใบ้ต่างๆ ความสัมพันธ์ สารพัดสิ่ง ไว้ตามรายทาง ถ้าตอนช่วงท้ายไม่มีบทของนิวตันมาช่วยอธิบาย ผมรับรองว่า "งงเด้ งงเด้" กันทุกคนแน่นอน ผมเห็นรายละเอียดต่างๆ และโชคดีที่ผมเก็บมาปะติดปะต่อกันในหัวจนเข้าใจและร้องอ๋อออกมาได้ แต่มันไม่ใช่ระดับความเข้าใจในหนังทั่วๆไปครับ ถ้ามันยากกว่านี้ มันจะเท่ากับหนังไทยเรื่อง "ห้องหุ่น" เวอร์ชั่นล่าสุด ที่โปรยคำใบ้ตลอดเรื่อง แล้วสุดท้ายจะให้คนดูเอาจิ๊กซอว์ทั้งหมดมาประกอบตอนจบ มันไม่ไหวครับ สมองคนปกติทำไม่ได้ มันต้องเฉลยทีละขั้น ดีที่เรื่องนี้ยังไม่ไปถึงขั้นเรื่องนั้น เอาเป็นว่า มันไม่ต้องเล่าเรื่องให้ยากขนาดนี้ก็ได้ คนดูไม่ใช่คนทำหนังนะครับที่รู้บทและกำกับหนัง คือคนดูไม่รู้อะไรเลย อย่าเข้าใจเอาเองว่าคนดูจะเก็ทได้เหมือนกันหมด

     สรุป - มันเป็นหนังผีไทยที่พัฒนาไปอีกขั้น แต่พัฒนาในแบบที่ยังไม่ลงตัวเป๊ะ แต่ก็ขอชื่นชมที่งานที่กล้าทำอะไรที่ไม่อยู่กรอบเดิมๆ และไม่พยายามให้มันอาร์ตจนเกินไป ส่วนสำหรับวัยรุ่น ผมเชื่อว่าน่าจะชอบหนังเรื่องนี้ และน่าจะอินกับประเด็นที่หนังเสนอ ส่วนคอหนังทั่วไป หนังผีเรื่องนี้ก็ถือเป็นหนังที่ยังมีสิ่งที่ทำให้ร้อง "เฮ้ย" และอึ้งได้อยู่ เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ดีครับ เป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ

ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังกลางๆ / ดีกว่าที่หวังไว้

เกรดหนัง – พอน่าดู

คะแนนเฉลี่ย  6.25/10 (ถ้าเป็นวัยรุ่นก็ +1 ถึง +1.5 ได้เลย)

****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***
ชื่อสินค้า:   สยามสแควร์
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่