สวัสดีเจ้าค่ะเพื่อนๆทุกๆท่าน
ไม่ได้มาอัพเดทเม้าท์มอยคุณวิญญาณมาตั้งนานแล้ว
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องผีสยองขวัญ ช่วยข้ามๆหวานใจไปนะคะ เพราะหวานใจเป็นคนเขียนเรื่องแนวนี้ไม่เคยออกมาน่ากลัวเลย
เรื่องของหวานใจส่วนใหญ่ออกแนวน่ารักมุ้งมิ้ง สวยๆ ตามสไตล์สาวคิดบวก ^___^
เรื่องบางเรื่องอ่านจะอ่านแล้วขัดใจใครหลายๆคน นั่นก็เพราะชีวิตจริงมันไม่เหมือนนิยายเสมอไป
หวานใจเพียงหวังให้คนอ่าน อ่านแล้วเลิกกลัวคุณวิญญาณ โดยเฉพาะใครก็ตามที่ไม่มีลมหายใจ
แต่ยังคงตามเราอยู่เพราะความรัก หนทางที่จะแก้ไข ไม่ใช่การกลัว
หากแต่เราควรสื่อสารคุยกับเค้าให้รู้เรื่องว่าเค้าต้องการสิ่งใด
และควรชี้นำเค้าไปในทางที่ถูกที่ควรตามหลักกฏแห่งกรรม เพราะไม่มีใครหนีพ้นแรงกรรมไปได้
การที่เค้ารักเรา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรผูกเค้าให้ติดกับเราจนฝืนกฏแห่งกรรม ไม่ยอมไปไหนเสียที
มันจะยิ่งเป็นการสร้างกรรมไปไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเรารักเค้าจริง เราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อย และสอนให้เค้าปล่อยวางเช่นกัน
เรื่องบางเรื่องอาจฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่มันก็เคยเกิดขึ้นจริงกับชีวิตของคนๆหนึ่ง
การที่พบเจอไม่เหมือนคนอื่น ถ้าใครจะคิดว่าคนที่เจอเรื่องแบบนี้เป็นคนบ้าจิตไม่ปกติ หวานใจก็ขอน้อมรับค่ะ
ขอ tag ความเชื่อส่วนบุคคล ไสยศาสตร์ และเรื่องสยองขวัญนะคะ
มีเพื่อนๆหลังไมค์มาถามข่าวคราว รวมทั้งอยากรู้เรื่องราวอัพเดทเกี่ยวกับพี่สุดหล่อกันหลายคน
เดี๋ยววันนี้หวานใจจะมาเล่าให้ฟังนะคะ เร่เข้ามาๆ
หมายเหตุ สำหรับใครที่เพิ่งเคยเข้ามาอ่าน รบกวนอ่านเรื่องย่อใน ความเห็นที่ 1
หรือตามไปอ่านกระทู้มหากาพย์ตามลิงค์ที่ให้ไว้ในความเห็นที่ 1 ได้เลยค่ะ
ก่อนที่จะเล่าเรื่องพี่สุดหล่อ หวานใจขอนำเสนอเรื่องรักข้ามภพค่ะ แต่รักข้ามภพที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นความรักของแม่
ขอตั้งชื่อว่า
“บ้านที่รอเจ้าของ(รักของแม่)”
ถ้าใครเคยอ่านกระทู้เก่าๆ คงพอจะทราบกันนะคะว่าหวานใจซื้อบ้านหลังหนึ่ง
โดยคำแนะนำของพี่สุดหล่อว่าให้เลือกบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ได้บ้านมาก็ไม่เคยได้อยู่
แบบว่าทำงานอยู่ไกล ก็เลยค่อยๆซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านทีละนิดทีละหน่อยตามกำลัง
โดยบางครั้งก็ให้เพื่อนขับรถไปรับของแทน จุดเริ่มต้นมันเกิดจาก เมื่อต้นปีที่แล้วหวานใจซื้อชุดเตียงและที่นอนจากเพื่อนของเพื่อน
พอวันที่เค้าจะมาส่ง หวานใจก็ให้เพื่อนไปอยู่รอรับของให้ ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร
คุณแม่เพื่อนของเพื่อนเป็นคนเอาของมาส่ง พอเอาของมาส่ง อยู่ดีๆคุณแม่ก็เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วคุยกับใครก็ไม่รู้
สรุปใจความได้คร่าวๆว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาวมาปรากฏตัว แล้วบอกคุณแม่เพื่อนว่า
ท่านอยู่ดูแลบ้านให้หวานใจ ถ้าวันไหนหวานใจจะเข้ามาอยู่ ให้เอาผลไม้ 9 อย่างมาไหว้ท่านก่อนย้ายเข้าบ้าน
แล้วท่านจะช่วยทำให้หวานใจอยู่ดีมีสุข ท่านเป็นมังสวิรัติ ไม่ทานเนื้อสัตว์ แล้วทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า.....รอหวานใจมานานหลายร้อยปีแล้ว
ตอนนั้นหวานใจยังอยู่ทางใต้อยู่เลย พอได้ฟังก็เออ แปลกดีเนาะ คุณแม่เพื่อนก็ไม่ใช่หมอดูคนทรงอะไร
มีการเดินเข้าบ้านมีบางอย่างทักทายฝากข้อความไว้ด้วย แล้วหวานใจก็พากันเดากันกะเพื่อนๆว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครน๊า
มาอยู่เฝ้าบ้านให้หวานใจ....เป็นกิ๊กพี่สุดหล่อหรือเปล่า หรือพี่สุดหล่อสั่งให้มาดูแล (คิดตามประสาเด็กเกรียน)
พอเมื่อต้นปี หวานใจก็เพิ่งได้ฤกษ์ย้ายเข้าบ้าน ช่วงที่เพิ่งย้ายบ้านก็มีน้องน.มาช่วยจัดของ
หวานใจให้น้องนอนที่บ้าน ส่วนตัวหวานใจยังนอนอยู่ห้องริมน้ำที่เดิมอยู่ พอตกค่ำ น้องน.ก็โทรมาถามหาว่าสบู่
อุปกรณ์อาบน้ำอยู่ไหน บอกแล้วน้องแกก็ก็ไปรื้อๆของในถุงต่างๆที่หวานใจแพ็คไว้
ช่วงที่กำลังรื้อๆหาๆอยู่นั้น คุณน้องน.ก็หันไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาว ถามว่า
“ หาอะไรอยู่ มีอะไรให้ช่วยไหม” ด้วยความเคยชินที่มองเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยๆ
คุณน้องน.ก็เลยตอบไปว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่จะหาของเฉยๆ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
เป็นอย่างไรล่ะค่ะ ท่านเจ้าที่ดูแลบ้านอย่างดี มีเป็นห่วงกลัวคนมารื้อของเจ้าบ้านตอนเจ้าบ้านไม่อยู่อีก
พอเช้ามาวันนั้นหวานใจก็กลับเข้ามาบ้าน เตรียมผลไม้มาไหว้เจ้าที่ตามที่เค้าเคยบอกไว้
ระหว่างที่ไหว้อยู่นั้นก็ให้น้องน.ช่วยดูว่า เจอผู้หญิงชุดขาวคนนั้นไหม แต่น้องน.ก็ไม่เห็น เอางัยดีล่ะทีนี้
ต่อมเผือกทำงานอย่างหนัก เลยเรียกเจ้าลูกชายหวานใจที่เป็นกุมารลูกรักพี่สุดหล่อมา
ปกติช่วงหลังๆน้องไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่รู้หายไปไหน หวานใจสัมผัสไม่ค่อยได้เลย ครั้งนี้พอเรียกน้องก็มา น้องน.เลยถามให้
สรุปความได้คร่าวๆ เจ้าลูกรักพี่สุดหล่อก็บอกว่า
“ พ่อบอกว่าให้มา วันนี้แม่มีของให้กินด้วย ไม่รู้เลยว่าจะไม่มีขนม” (ดูดู๊ ท่าทางหนูจะผิดหวังน่าดูที่อดกินขนม คุณแม่ก็ลืมลูก)
แล้วหวานใจก็ถามต่อว่าตกลงบ้านนี้มีใครบ้าง คุณลูกบอกว่ามีหนูแล้วก็ยาย...............ยาย????
ยายคือใคร ใครคือยาย แบบนี้ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นแก่อ่ะสิ
สักพักผู้หญิงคนนั้นก็มาปรากฏตัวให้น้องน.เห็น บอกว่าท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านเลย
เพราะรู้ว่าวันหนึ่งหวานใจจะต้องกลับมา ท่านก็เลยมาอยู่รอหวานใจ รอมาหลายร้อยปีแล้ว ท่านบอกว่า
“ ตั้งแต่ลูกออกเรือนไป แม่ก็ไม่เคยเจอลูกอีกเลย รู้ข่าวอีกทีลูกก็ตายเสียแล้ว
แม่ก็เลยปฏิบัติธรรมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ลูกจนถึงทุกวันนี้ หวังเพียงให้ลูกอยู่สุขสบายและปลอดภัย คิดถึงมาก”
หวานใจเริ่มงง เอ้า แม่ไหนอีกละ ก็ยุคพี่สุดหล่อ คุณแม่ยุคนั้นตอนนี้ก็มาเกิดเป็นคุณแม่ปัจจุบันของหวานใจ
แล้วนี่ใคร.....พอให้น้องน.ถามให้ ท่านก็ตอบว่า
“ พระองค์ดำ” แล้วคุณแม่ท่านก็บอกว่า
ทุกวันนี้เวลาที่ลูกขับรถไปไหนไกลๆ แม่ก็คอยตามไปด้วยตลอด เพราะรถลูกไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆคอยคุ้มครองเลย
ทุกครั้งที่หวานใจขับรถ ท่านก็จะตามหวานใจไปตลอดด้วยความเป็นห่วง แม่ไม่กล้ามาให้หวานใจเห็น
ท่านกลัวว่าถ้าหวานใจเห็นท่าน หวานใจจะกลัวแล้วไม่กล้าอยู่บ้านหลังนี้ (คือเป็นห่วงความรู้สึกหวานใจตลอด)
สรุปง่ายๆก็คือ ตอนที่หวานใจเดินทางทุกครั้ง บ้านหวานใจก็จะไม่เหลือใครอยู่ดูแลบ้านเลย
แต่ทั้งนี้คุณแม่ท่านเป็นเพื่อนกับเจ้าที่ข้างบ้าน มีการฝากเจ้าที่ข้างบ้านให้ช่วยดูแลบ้านให้เป็นครั้งคราว เก๋ๆ ^__^
หวานใจเป็นมนุษย์เกรียนๆ ปกติอยู่กับกระเทยเยอะเลยออกแนวก๋ากั่น วี๊ดว๊ายกระตู้วู๊ ทีนี้พอหวานใจมาอยู่บ้าน เวลาเม้าท์กะเพื่อน(น้องน.)
เม้าท์เพลินไปหน่อย เสียงแหลมปรี๊ด งานนี้คุณแม่โผล่มาเลยจ้า คุณแม่บอกว่า
"แม่เป็นคนเรียบร้อยมากกกก ทุกวันพระให้ลูกไปสวดมนต์นั่งสมาธิกับแม่ที่ห้องพระนะ จะได้นิ่งๆ"
หวานใจเลยให้น้องน.ถามแม่ว่า แล้วยุคโน้น หวานใจเรียบร้อยไหม ท่านก็ส่ายหน้า ^__^
โถ คุณแม่ ยุคโน้นลูกก็ยังไม่เป็นกุลสตรี เหตุใดท่านแม่จึงคิดว่ายุคนี้ลูกจะเรียบร้อยได้ล่ะเจ้าคะ
ถ้าเป็นหลายคนเจอแบบหวานใจไม่รู้ว่าจะกลัวหรือเปล่า แต่หวานใจรู้สึกอุ่นใจมาก
เรานี้เกิดมาช่างโชคดี แม้ชาตินี้จะไม่ค่อยมีใครรักเท่าไหร่ แต่เอาวะ อย่างน้อยๆก็มีคนนั้นคนโน้นจากยุคไหนๆที่ยังรักและห่วงเราเสมอ
บ้านนี้ช่างอบอุ่น มีทั้งแม่ มีทั้งลูก(กุมาร) ไหนเลยจะมีคนรักที่นานๆแอบแว๊บมาสอดส่องที(แม้สื่อสารไม่ค่อยได้แล้ว)
โอ๊ย ชีวิตชะนีช่างดี๊ดี ^__^
ถ้าถามหวานใจว่ารู้สึกอย่างไร บางเรื่องมันก็แปลก แต่หวานใจก็แค่รับรู้ว่ามันมีแบบนี้ๆนะ
ส่วนชีวิตก็ยังดำเนินไปตามปกติ ไม่ได้ปักใจหรือหมกมุ่นคอยตามหาเรื่องราวว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร
มีคนรักก็ดี หรือไม่ใช่คน แต่รักเราก็ถือเป็นเรื่องดี เช่นเดียวกับคนหรือไม่ใช่คนที่เกลียดเราก็คงมีเช่นกัน
แต่ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปเกลียดเค้า แต่ความรักของคุณแม่คนนี้ หวานใจจะจดจำไว้
รู้สึกอบอุ่นใจที่มีใครรักและห่วงใยเราเสมอ รักแบบไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าเราจะเกเร หรือลืมแม่ แม่ก็ไม่เคยลืมเรา
ยังห่วงเรา เป็นบ่วงผูกแม่ไว้จนถึงทุกวันนี้ แม่เลยไม่ได้ไปเกิดที่ไหน เพราะเฝ้ารอเรากลับมา
บริเวณบ้านหลังนี้คงเป็นบ้านของหวานใจมาหลายยุคหลายสมัย ใครที่มาซื้อถึงมีอุปสรรค ซื้อไม่ได้สักที
จนมาถึงมือหวานใจ เพราะเค้ารอหวานใจมานานเหลือเกิน "บ้านที่รอเจ้าของ"
พูดถึงรักของคุณแม่คนนี้ ตามประสาคนรักเสียงเพลง หวานใจคิดถึงเพลงๆหนึ่ง
เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง "บ่วง" ลองฟังกันนะคะ
เนื้อเพลง
จบเรื่องของคุณแม่แต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวมาต่อเรื่องคุณพี่สุดหล่อของสาวๆกัน
รอแป๊บเน้อ
เรื่องเล่าจากหวานใจว่าด้วยเรื่องรักข้ามภพ(ของแม่)และพี่สุดหล่อ
ไม่ได้มาอัพเดทเม้าท์มอยคุณวิญญาณมาตั้งนานแล้ว
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องผีสยองขวัญ ช่วยข้ามๆหวานใจไปนะคะ เพราะหวานใจเป็นคนเขียนเรื่องแนวนี้ไม่เคยออกมาน่ากลัวเลย
เรื่องของหวานใจส่วนใหญ่ออกแนวน่ารักมุ้งมิ้ง สวยๆ ตามสไตล์สาวคิดบวก ^___^
เรื่องบางเรื่องอ่านจะอ่านแล้วขัดใจใครหลายๆคน นั่นก็เพราะชีวิตจริงมันไม่เหมือนนิยายเสมอไป
หวานใจเพียงหวังให้คนอ่าน อ่านแล้วเลิกกลัวคุณวิญญาณ โดยเฉพาะใครก็ตามที่ไม่มีลมหายใจ
แต่ยังคงตามเราอยู่เพราะความรัก หนทางที่จะแก้ไข ไม่ใช่การกลัว
หากแต่เราควรสื่อสารคุยกับเค้าให้รู้เรื่องว่าเค้าต้องการสิ่งใด
และควรชี้นำเค้าไปในทางที่ถูกที่ควรตามหลักกฏแห่งกรรม เพราะไม่มีใครหนีพ้นแรงกรรมไปได้
การที่เค้ารักเรา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรผูกเค้าให้ติดกับเราจนฝืนกฏแห่งกรรม ไม่ยอมไปไหนเสียที
มันจะยิ่งเป็นการสร้างกรรมไปไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเรารักเค้าจริง เราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อย และสอนให้เค้าปล่อยวางเช่นกัน
เรื่องบางเรื่องอาจฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่มันก็เคยเกิดขึ้นจริงกับชีวิตของคนๆหนึ่ง
การที่พบเจอไม่เหมือนคนอื่น ถ้าใครจะคิดว่าคนที่เจอเรื่องแบบนี้เป็นคนบ้าจิตไม่ปกติ หวานใจก็ขอน้อมรับค่ะ
ขอ tag ความเชื่อส่วนบุคคล ไสยศาสตร์ และเรื่องสยองขวัญนะคะ
มีเพื่อนๆหลังไมค์มาถามข่าวคราว รวมทั้งอยากรู้เรื่องราวอัพเดทเกี่ยวกับพี่สุดหล่อกันหลายคน
เดี๋ยววันนี้หวานใจจะมาเล่าให้ฟังนะคะ เร่เข้ามาๆ
หมายเหตุ สำหรับใครที่เพิ่งเคยเข้ามาอ่าน รบกวนอ่านเรื่องย่อใน ความเห็นที่ 1
หรือตามไปอ่านกระทู้มหากาพย์ตามลิงค์ที่ให้ไว้ในความเห็นที่ 1 ได้เลยค่ะ
ก่อนที่จะเล่าเรื่องพี่สุดหล่อ หวานใจขอนำเสนอเรื่องรักข้ามภพค่ะ แต่รักข้ามภพที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นความรักของแม่
ขอตั้งชื่อว่า “บ้านที่รอเจ้าของ(รักของแม่)”
ถ้าใครเคยอ่านกระทู้เก่าๆ คงพอจะทราบกันนะคะว่าหวานใจซื้อบ้านหลังหนึ่ง
โดยคำแนะนำของพี่สุดหล่อว่าให้เลือกบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ได้บ้านมาก็ไม่เคยได้อยู่
แบบว่าทำงานอยู่ไกล ก็เลยค่อยๆซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านทีละนิดทีละหน่อยตามกำลัง
โดยบางครั้งก็ให้เพื่อนขับรถไปรับของแทน จุดเริ่มต้นมันเกิดจาก เมื่อต้นปีที่แล้วหวานใจซื้อชุดเตียงและที่นอนจากเพื่อนของเพื่อน
พอวันที่เค้าจะมาส่ง หวานใจก็ให้เพื่อนไปอยู่รอรับของให้ ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร
คุณแม่เพื่อนของเพื่อนเป็นคนเอาของมาส่ง พอเอาของมาส่ง อยู่ดีๆคุณแม่ก็เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วคุยกับใครก็ไม่รู้
สรุปใจความได้คร่าวๆว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาวมาปรากฏตัว แล้วบอกคุณแม่เพื่อนว่า
ท่านอยู่ดูแลบ้านให้หวานใจ ถ้าวันไหนหวานใจจะเข้ามาอยู่ ให้เอาผลไม้ 9 อย่างมาไหว้ท่านก่อนย้ายเข้าบ้าน
แล้วท่านจะช่วยทำให้หวานใจอยู่ดีมีสุข ท่านเป็นมังสวิรัติ ไม่ทานเนื้อสัตว์ แล้วทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า.....รอหวานใจมานานหลายร้อยปีแล้ว
ตอนนั้นหวานใจยังอยู่ทางใต้อยู่เลย พอได้ฟังก็เออ แปลกดีเนาะ คุณแม่เพื่อนก็ไม่ใช่หมอดูคนทรงอะไร
มีการเดินเข้าบ้านมีบางอย่างทักทายฝากข้อความไว้ด้วย แล้วหวานใจก็พากันเดากันกะเพื่อนๆว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครน๊า
มาอยู่เฝ้าบ้านให้หวานใจ....เป็นกิ๊กพี่สุดหล่อหรือเปล่า หรือพี่สุดหล่อสั่งให้มาดูแล (คิดตามประสาเด็กเกรียน)
พอเมื่อต้นปี หวานใจก็เพิ่งได้ฤกษ์ย้ายเข้าบ้าน ช่วงที่เพิ่งย้ายบ้านก็มีน้องน.มาช่วยจัดของ
หวานใจให้น้องนอนที่บ้าน ส่วนตัวหวานใจยังนอนอยู่ห้องริมน้ำที่เดิมอยู่ พอตกค่ำ น้องน.ก็โทรมาถามหาว่าสบู่
อุปกรณ์อาบน้ำอยู่ไหน บอกแล้วน้องแกก็ก็ไปรื้อๆของในถุงต่างๆที่หวานใจแพ็คไว้
ช่วงที่กำลังรื้อๆหาๆอยู่นั้น คุณน้องน.ก็หันไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาว ถามว่า
“ หาอะไรอยู่ มีอะไรให้ช่วยไหม” ด้วยความเคยชินที่มองเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยๆ
คุณน้องน.ก็เลยตอบไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่จะหาของเฉยๆ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
เป็นอย่างไรล่ะค่ะ ท่านเจ้าที่ดูแลบ้านอย่างดี มีเป็นห่วงกลัวคนมารื้อของเจ้าบ้านตอนเจ้าบ้านไม่อยู่อีก
พอเช้ามาวันนั้นหวานใจก็กลับเข้ามาบ้าน เตรียมผลไม้มาไหว้เจ้าที่ตามที่เค้าเคยบอกไว้
ระหว่างที่ไหว้อยู่นั้นก็ให้น้องน.ช่วยดูว่า เจอผู้หญิงชุดขาวคนนั้นไหม แต่น้องน.ก็ไม่เห็น เอางัยดีล่ะทีนี้
ต่อมเผือกทำงานอย่างหนัก เลยเรียกเจ้าลูกชายหวานใจที่เป็นกุมารลูกรักพี่สุดหล่อมา
ปกติช่วงหลังๆน้องไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่รู้หายไปไหน หวานใจสัมผัสไม่ค่อยได้เลย ครั้งนี้พอเรียกน้องก็มา น้องน.เลยถามให้
สรุปความได้คร่าวๆ เจ้าลูกรักพี่สุดหล่อก็บอกว่า
“ พ่อบอกว่าให้มา วันนี้แม่มีของให้กินด้วย ไม่รู้เลยว่าจะไม่มีขนม” (ดูดู๊ ท่าทางหนูจะผิดหวังน่าดูที่อดกินขนม คุณแม่ก็ลืมลูก)
แล้วหวานใจก็ถามต่อว่าตกลงบ้านนี้มีใครบ้าง คุณลูกบอกว่ามีหนูแล้วก็ยาย...............ยาย????
ยายคือใคร ใครคือยาย แบบนี้ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นแก่อ่ะสิ
สักพักผู้หญิงคนนั้นก็มาปรากฏตัวให้น้องน.เห็น บอกว่าท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านเลย
เพราะรู้ว่าวันหนึ่งหวานใจจะต้องกลับมา ท่านก็เลยมาอยู่รอหวานใจ รอมาหลายร้อยปีแล้ว ท่านบอกว่า
“ ตั้งแต่ลูกออกเรือนไป แม่ก็ไม่เคยเจอลูกอีกเลย รู้ข่าวอีกทีลูกก็ตายเสียแล้ว
แม่ก็เลยปฏิบัติธรรมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ลูกจนถึงทุกวันนี้ หวังเพียงให้ลูกอยู่สุขสบายและปลอดภัย คิดถึงมาก”
หวานใจเริ่มงง เอ้า แม่ไหนอีกละ ก็ยุคพี่สุดหล่อ คุณแม่ยุคนั้นตอนนี้ก็มาเกิดเป็นคุณแม่ปัจจุบันของหวานใจ
แล้วนี่ใคร.....พอให้น้องน.ถามให้ ท่านก็ตอบว่า “ พระองค์ดำ” แล้วคุณแม่ท่านก็บอกว่า
ทุกวันนี้เวลาที่ลูกขับรถไปไหนไกลๆ แม่ก็คอยตามไปด้วยตลอด เพราะรถลูกไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆคอยคุ้มครองเลย
ทุกครั้งที่หวานใจขับรถ ท่านก็จะตามหวานใจไปตลอดด้วยความเป็นห่วง แม่ไม่กล้ามาให้หวานใจเห็น
ท่านกลัวว่าถ้าหวานใจเห็นท่าน หวานใจจะกลัวแล้วไม่กล้าอยู่บ้านหลังนี้ (คือเป็นห่วงความรู้สึกหวานใจตลอด)
สรุปง่ายๆก็คือ ตอนที่หวานใจเดินทางทุกครั้ง บ้านหวานใจก็จะไม่เหลือใครอยู่ดูแลบ้านเลย
แต่ทั้งนี้คุณแม่ท่านเป็นเพื่อนกับเจ้าที่ข้างบ้าน มีการฝากเจ้าที่ข้างบ้านให้ช่วยดูแลบ้านให้เป็นครั้งคราว เก๋ๆ ^__^
หวานใจเป็นมนุษย์เกรียนๆ ปกติอยู่กับกระเทยเยอะเลยออกแนวก๋ากั่น วี๊ดว๊ายกระตู้วู๊ ทีนี้พอหวานใจมาอยู่บ้าน เวลาเม้าท์กะเพื่อน(น้องน.)
เม้าท์เพลินไปหน่อย เสียงแหลมปรี๊ด งานนี้คุณแม่โผล่มาเลยจ้า คุณแม่บอกว่า
"แม่เป็นคนเรียบร้อยมากกกก ทุกวันพระให้ลูกไปสวดมนต์นั่งสมาธิกับแม่ที่ห้องพระนะ จะได้นิ่งๆ"
หวานใจเลยให้น้องน.ถามแม่ว่า แล้วยุคโน้น หวานใจเรียบร้อยไหม ท่านก็ส่ายหน้า ^__^
โถ คุณแม่ ยุคโน้นลูกก็ยังไม่เป็นกุลสตรี เหตุใดท่านแม่จึงคิดว่ายุคนี้ลูกจะเรียบร้อยได้ล่ะเจ้าคะ
ถ้าเป็นหลายคนเจอแบบหวานใจไม่รู้ว่าจะกลัวหรือเปล่า แต่หวานใจรู้สึกอุ่นใจมาก
เรานี้เกิดมาช่างโชคดี แม้ชาตินี้จะไม่ค่อยมีใครรักเท่าไหร่ แต่เอาวะ อย่างน้อยๆก็มีคนนั้นคนโน้นจากยุคไหนๆที่ยังรักและห่วงเราเสมอ
บ้านนี้ช่างอบอุ่น มีทั้งแม่ มีทั้งลูก(กุมาร) ไหนเลยจะมีคนรักที่นานๆแอบแว๊บมาสอดส่องที(แม้สื่อสารไม่ค่อยได้แล้ว)
โอ๊ย ชีวิตชะนีช่างดี๊ดี ^__^
ถ้าถามหวานใจว่ารู้สึกอย่างไร บางเรื่องมันก็แปลก แต่หวานใจก็แค่รับรู้ว่ามันมีแบบนี้ๆนะ
ส่วนชีวิตก็ยังดำเนินไปตามปกติ ไม่ได้ปักใจหรือหมกมุ่นคอยตามหาเรื่องราวว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร
มีคนรักก็ดี หรือไม่ใช่คน แต่รักเราก็ถือเป็นเรื่องดี เช่นเดียวกับคนหรือไม่ใช่คนที่เกลียดเราก็คงมีเช่นกัน
แต่ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปเกลียดเค้า แต่ความรักของคุณแม่คนนี้ หวานใจจะจดจำไว้
รู้สึกอบอุ่นใจที่มีใครรักและห่วงใยเราเสมอ รักแบบไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าเราจะเกเร หรือลืมแม่ แม่ก็ไม่เคยลืมเรา
ยังห่วงเรา เป็นบ่วงผูกแม่ไว้จนถึงทุกวันนี้ แม่เลยไม่ได้ไปเกิดที่ไหน เพราะเฝ้ารอเรากลับมา
บริเวณบ้านหลังนี้คงเป็นบ้านของหวานใจมาหลายยุคหลายสมัย ใครที่มาซื้อถึงมีอุปสรรค ซื้อไม่ได้สักที
จนมาถึงมือหวานใจ เพราะเค้ารอหวานใจมานานเหลือเกิน "บ้านที่รอเจ้าของ"
พูดถึงรักของคุณแม่คนนี้ ตามประสาคนรักเสียงเพลง หวานใจคิดถึงเพลงๆหนึ่ง
เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง "บ่วง" ลองฟังกันนะคะ
เนื้อเพลง
จบเรื่องของคุณแม่แต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวมาต่อเรื่องคุณพี่สุดหล่อของสาวๆกัน
รอแป๊บเน้อ