ผมยังประทับใจการต่อบอลติ๊กต่อก จับบอลแค่หนึ่งหรังหวะแล้วจ่ายทะลุช่อง จนกระทั่งเป็นคิลเลอร์พาส สวย ๆ ทำให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ในช่วง 2 - 3 ปีก่อน แต่ในการคัดบอลโลกรอบสุดท้ายของทวีปเอเชีย ที่ผ่านมาแล้ว 7 นัด ผมแทบไม่เห็น
ผมไม่คิดว่าความสามารถของนักเตะไทย สู้ญี่ปุ่น ซาอุ ยูเออี หรือแม้กระทั่ง ออสเตรเลียไม่ได้ แต่ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในทางลบที่เกิดขึ้นช่วงคัดบอลโลกรอบสุดท้ายนี้ เกิดจาก "ทัศนคติ" หรือ Attitude (บางคนก็นิยมใช้ทับศัพท์)
ขอย้อนไปในช่วงที่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เมื่อประมาณ 3 หรือ 4 ปีก่อนนั้น พอจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงสูญญากาศ ของวงการฟุตบอลไทย ประธานเทคนิคสมัยนั้น ชอบฟุตบอลครับ แตให้ตายเถอะ ท่านเป็นคนตลก ช่วงสูญญากาศบอลไทย เลยนานไปหน่อย แต่พอทนได้ครับ เพราะชาวเราได้ดูตลกตอนพักครึ่งหลายครั้ง ^^ ซึ่งในช่วงนั้นผมไม่ได้สนใจทึมชาติไทยเลย แล้วเขาคนนั้นก็ได้เข้ามา......
ผมจำได้อย่างแม่นยำว่า ซิโก้ ได้ประกาศอย่างชัดเจนหลังจบนัดอำลาสนามว่า วันหนึ่งเขาจะกลับมาเป็นโค้ชทีมชาติไทย แล้วก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ
พอเริ่มทำงานก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ซิโก้มีพร้อม ทั้งฝีมือ และความมุ่งมั่น เริ่มจากตั้งเป้าหมายชัดเจน และเขาก็สามารถดึงศักยภาพของนักเตะทีมชาติไทยให้ก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น ๆ อย่างงดงาม บรรดานักเตะเริ่มเปล่งประกายเป็นที่ชื่นชมของคนไทยทั้งชาติ และทีมชาติไทยก็เป็นทร์เกรงขามไปทั่วเอเซียอาคเนย์ นักเตะทุกคนเล่นบอลด้วยความสนุกอย่างเห็นได้ชัด คนเชียร์อย่างผมก็พลอยปลื้มใจ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูบอลทีมชาติไทย และเวลาที่ได้สนทนากับผองเพื่อน ทั้งคนไทย และต่างชาติ จะพูดคุยเรื่องทีมชาติไทยด้วยความภาคภูมิใจเสมอ
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ผมเริ่มแปลกใจที่มีคนมาตั้งกระทู้ไล่ซิโก้ในพันทิป บางครั้งผมยังเข้าไปเถียงแทนซิโก้ ถ้าตรรกะนั้น ๆ มันไม่ใช่
พอมาถึงวันนี้ ความคิดของผมได้เปลี่ยนไปในบางมุม ผมดูนักเตะไทย เล่นกับญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้แล้ว รู้สึกอึดอัด ไม่เหมือนการเชียร์บอลไทยในรอบคัดเลือกรอบแรก ผมเห็นว่านักเตะทุกคนตั้งใจอย่างที่สุดที่จะได้แต้มในนัดนี้ หรือช่วงท้าย ๆ เป้าหมายกลายเป็น ขอแค่ได้ประตู ทุกคนเล่นอย่างเต็มที่แล้วครับ ผมเชื่อ แต่ขอโทษนะ ผมทนดูจนจบไม่ได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ปวดท้องหนักมากหลังเกมผมเดินไปหาคุณพ่อ ที่บ้านท่าน คุยสัพเพเหระจนกระทั่งถึงเรื่องฟุตบอล ท่านบอกผมว่า คนเราถ้าไม่มีคู่แข่ง หรือคิดว่าตัวเองนั้นเก่งอยู่แล้ว คนเหล่านี้เกือบทุกคนจะไม่มีพัฒนาการ หรือมีก็น้อย นักเตะที่ซิโก้ใช้งาน เกือบทั้งหมดจะเป็นคนเดิม ๆ ถ้าไม่เจ็บป่วย หรือลาคลอด (อันนี้พ่อไม่ได้กล่าว) ยังไงก็ได้ลง มันจึงไม่เกิดการแข่งขัน หรือดิ้นรน หาทางต่อสู้แย่งตำแหน่งในทีม ส่งผลให้ทั้งทีมไม่มีพัฒนาการ ซึ่งคุณพ่อผมท่านพูดสรุปสั้น ๆ ว่า ซิโก้ ไม่ได้ต่อยอดจากผลงานที่ได้ทำไว้ อย่างดีเยี่ยมก่อนหน้านี้ ซึ่งผมเห็นด้วยกับท่านครับ จึงเป็นที่มาของกระทู้ยาว ๆ นี้
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และส่วนครอบครัวของผมนะครับ หากผิดพลาดประการใด ยินดีรับคำชี้แนะ หรือใครมีมุมมองอื่นที่น่าสนใจ ลองมาคุยกันดูนะครับ
การต่อบอลสวย ๆ หายไป
ผมไม่คิดว่าความสามารถของนักเตะไทย สู้ญี่ปุ่น ซาอุ ยูเออี หรือแม้กระทั่ง ออสเตรเลียไม่ได้ แต่ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในทางลบที่เกิดขึ้นช่วงคัดบอลโลกรอบสุดท้ายนี้ เกิดจาก "ทัศนคติ" หรือ Attitude (บางคนก็นิยมใช้ทับศัพท์)
ขอย้อนไปในช่วงที่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เมื่อประมาณ 3 หรือ 4 ปีก่อนนั้น พอจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงสูญญากาศ ของวงการฟุตบอลไทย ประธานเทคนิคสมัยนั้น ชอบฟุตบอลครับ แตให้ตายเถอะ ท่านเป็นคนตลก ช่วงสูญญากาศบอลไทย เลยนานไปหน่อย แต่พอทนได้ครับ เพราะชาวเราได้ดูตลกตอนพักครึ่งหลายครั้ง ^^ ซึ่งในช่วงนั้นผมไม่ได้สนใจทึมชาติไทยเลย แล้วเขาคนนั้นก็ได้เข้ามา......
ผมจำได้อย่างแม่นยำว่า ซิโก้ ได้ประกาศอย่างชัดเจนหลังจบนัดอำลาสนามว่า วันหนึ่งเขาจะกลับมาเป็นโค้ชทีมชาติไทย แล้วก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ
พอเริ่มทำงานก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ซิโก้มีพร้อม ทั้งฝีมือ และความมุ่งมั่น เริ่มจากตั้งเป้าหมายชัดเจน และเขาก็สามารถดึงศักยภาพของนักเตะทีมชาติไทยให้ก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น ๆ อย่างงดงาม บรรดานักเตะเริ่มเปล่งประกายเป็นที่ชื่นชมของคนไทยทั้งชาติ และทีมชาติไทยก็เป็นทร์เกรงขามไปทั่วเอเซียอาคเนย์ นักเตะทุกคนเล่นบอลด้วยความสนุกอย่างเห็นได้ชัด คนเชียร์อย่างผมก็พลอยปลื้มใจ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูบอลทีมชาติไทย และเวลาที่ได้สนทนากับผองเพื่อน ทั้งคนไทย และต่างชาติ จะพูดคุยเรื่องทีมชาติไทยด้วยความภาคภูมิใจเสมอ
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ผมเริ่มแปลกใจที่มีคนมาตั้งกระทู้ไล่ซิโก้ในพันทิป บางครั้งผมยังเข้าไปเถียงแทนซิโก้ ถ้าตรรกะนั้น ๆ มันไม่ใช่
พอมาถึงวันนี้ ความคิดของผมได้เปลี่ยนไปในบางมุม ผมดูนักเตะไทย เล่นกับญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้แล้ว รู้สึกอึดอัด ไม่เหมือนการเชียร์บอลไทยในรอบคัดเลือกรอบแรก ผมเห็นว่านักเตะทุกคนตั้งใจอย่างที่สุดที่จะได้แต้มในนัดนี้ หรือช่วงท้าย ๆ เป้าหมายกลายเป็น ขอแค่ได้ประตู ทุกคนเล่นอย่างเต็มที่แล้วครับ ผมเชื่อ แต่ขอโทษนะ ผมทนดูจนจบไม่ได้ครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังเกมผมเดินไปหาคุณพ่อ ที่บ้านท่าน คุยสัพเพเหระจนกระทั่งถึงเรื่องฟุตบอล ท่านบอกผมว่า คนเราถ้าไม่มีคู่แข่ง หรือคิดว่าตัวเองนั้นเก่งอยู่แล้ว คนเหล่านี้เกือบทุกคนจะไม่มีพัฒนาการ หรือมีก็น้อย นักเตะที่ซิโก้ใช้งาน เกือบทั้งหมดจะเป็นคนเดิม ๆ ถ้าไม่เจ็บป่วย หรือลาคลอด (อันนี้พ่อไม่ได้กล่าว) ยังไงก็ได้ลง มันจึงไม่เกิดการแข่งขัน หรือดิ้นรน หาทางต่อสู้แย่งตำแหน่งในทีม ส่งผลให้ทั้งทีมไม่มีพัฒนาการ ซึ่งคุณพ่อผมท่านพูดสรุปสั้น ๆ ว่า ซิโก้ ไม่ได้ต่อยอดจากผลงานที่ได้ทำไว้ อย่างดีเยี่ยมก่อนหน้านี้ ซึ่งผมเห็นด้วยกับท่านครับ จึงเป็นที่มาของกระทู้ยาว ๆ นี้
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และส่วนครอบครัวของผมนะครับ หากผิดพลาดประการใด ยินดีรับคำชี้แนะ หรือใครมีมุมมองอื่นที่น่าสนใจ ลองมาคุยกันดูนะครับ