ลองทำดูเล่นๆ ครับ เผื่อใครอยากเข้าไปเก็บรายละเอียด ผมพยายามเอาแค่ที่สามารถสังเกตเห็นได้จากในตัวหนังเลยเป็นส่วนใหญ่นะครับ จะพยายามไม่อิงไปทางมังงะ (มีบ้างนิดหน่อย)
ก่อนเริ่มก็ ขอขอบคุณทาง M Pictures ที่ให้ความกรุณา นำเรื่องนี้เข้ามาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ดูกันครับ
ไม่ยืดยาวละ เริ่มเลยละกัน
-เพลงเปิดชื่อ My Generation โดย The Who
-ตอนที่เดินข้ามถนนสวนกันในเพลงเปิด อุเอโนะแอบเหล่มาทางอิชิดะ
-และในช่วงเพลงเปิด เห็นเด็กผู้หญิงที่นั่งในร้านตัดผมบ้านอิชิดะกันรึเปล่า?
-ข้อความบนกระดานดำนั้นต่างจากมังงะ แปลคร่าวๆ คือ ล้อเลียนโชโกะว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ซาฮาระไม่มาเรียน
-แผลที่หูของคุณแม่ของโชยะ เป็นข้างเดียวกับที่โชโกะโดน
-แล้วคิดกันบ้างรึเปล่าว่า อาจเป็นตัวคุณแม่ของโชยะเอง ที่จัดการดึงตุ้มหูออกเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ? อย่างน้อยคนแต่งเรื่องก็คิดคนนึงแหละ (อ้างอิงจาก Q&A ใน Fan Book)
-แล้วหูข้างที่หนวกสนิทของโชโกะในตอนหลัง ก็ดันเป็นข้างนี้อีก
-ตอนที่โชยะกับโชโกะตีกัน โชโกะพูดออกมาประมาณว่า “ทั้งๆ ที่(ตัวเอง)อุตส่าห์พยายามแท้ๆ”
-โชยะ --> ยาโช
-ตอนทำขนมปังตกหลังยูซุรุบอกว่าเป็นแฟนโชโกะ จริงๆ มีการเล่นคำญี่ปุ่น ถ้าให้เลือกคำมาแปลก็น่าจะประมาณว่า “ถึงกับร่วงเลย” เพราะงั้นโชยะถึงได้พูดตามมาว่า “ไม่ใช่ตัวเอง แต่หมายถึงขนมปัง” (ใครแม่นๆ ภาษาญี่ปุ่นตรงนี้ ผิดตรงไหนช่วยแก้ด้วยนะครับ)
-คำที่ยูซุรุใช้ด่านากาสึกะ(นายอ้วน)ในทีแรก แปลตรงๆ จะได้ประมาณว่า “(เจ้า)หัวก้อนขี้”
-ตอนโชยะไปรับมาเรีย ที่เรียกมาเรียให้กลับบ้านได้แล้ว เพราะได้ยินเสียงเพลงบอกช่วงเวลาดังขึ้นมา
-ยูซุรุทะเลาะกับโชโกะเรื่องที่โพสรูปอิชิดะโดดสะพาน (ในหนังจะเห็นจากหน้าจอแท็บเล็ตแว่บนึง)
-หลังอิชิดะให้รองเท้ามา ยูซุรุก็เอามาใส่ตลอดจนจบเรื่อง (เว้นตอนชุดนักเรียน)
-ตอนที่อุเอโนะมาซ้อนท้าย โชโกะกำลังเลือกซื้อของขวัญให้อิชิดะอยู่
-ตอนเอาของขวัญไปถามนากาสึกะว่าคืออะไร นากาสึกะกำลังจะพูดว่า คงเป็นขนมหวาน(candy) แต่โดนอิชิดะพูดตัดหน้าไปก่อนว่า “คงไม่ใช่ขนมหรอกนะ”
-หลังลงจากรถไฟเหาะ ขาโชโกะไม่ได้ไปกระแทกกับอะไร แค่ขาสั่นเฉยๆ ต่างหาก (Knees are knocking แปลว่าขาสั่น)
-ก่อนจะลงจากชิงช้าสวรรค์ อุเอโนะพูดกับโชโกะว่า “(โชโกะ)ไม่เคยพยายามที่จะพูดคุยกับตัวเองเลย” (ซับอังกฤษถูก ซับไทยแปลผิดนิดนึง แต่ความหมายต่างไปคนละทาง)
-เพลงที่อิชิดะฮัมในเรื่อง ชื่อเพลง Kaijuu no Ballad เป็นเพลงเดียวกับที่เราได้ยินกันตอนย้อนอดีต ที่โชโกะร้องขึ้นมาผิดจังหวะ
ส่วนท่อนที่อิชิดะร้องคือวินาทีที่ 39-51
-ตอนแม่โชยะเดินมาหาโชโกะ (ฉากพีค) เรียกชื่อโชโกะด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ว่า หนูโชโกะ? (ซับไทยตก ? ไป)
-ยูซุรุ แปะภาพซากสัตว์ที่ตายแล้ว เพราะคิดว่าอาจช่วยให้โชโกะไม่คิดเรื่องฆ่าตัวตายอีก
-ตอนโชโกะกรีดร้อง มีภาพปลาคาร์ปมีสีว่ายไปมา ก่อนว่ายพุ่งเข้าไปในจอ ก่อนที่โชยะจะฟื้นขึ้นมา (ใช้เป็นตัวแทนของโชยะที่แปลกแยกจากตัวอื่น?)
-พอมาเจอกัน ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตาฝาด
-ตก????? ทำไมไม่เพิ่ม ตึก ไปซักหน่อย....
-ภาษามืออันสุดท้ายของโชโกะตอนเจออิชิดะบนสะพาน แปลว่า สัญญา (約束)
-รูปที่ยูซุรุชนะการประกวด เป็นรูปที่ว่างรูปร่างนก แบบเดียวกับภาพนกพิราบนอนตาย ที่ยูซุรุเห็นในฝัน ก่อนคุณยายจะเสีย
-ซาฮาระช่วงแรกๆ ใส่ส้นสูง แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นรองเท้าปกติ
-คนที่ทำให้อิชิดะตัดสินใจก้าวเดินต่อไปได้ คืออุเอโนะ+โชโกะ (เพราะเห็นอุเอโนะพูดเล่นกับโชโกะได้)
-จนจบเรื่อง เราได้เห็นทรงผมโชโกะ 6 แบบ
-ในเรื่องนั้นมีการใช้สิ่งของสื่อความหมายหลายอย่าง เช่น ปลาคาร์ป ที่ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงเหมือนกับคำว่า ความรัก ในภาษาญี่ปุ่น (koi) แล้วยังมีสีสันแค่ตัวเดียว รวมไปถึงภาษาดอกไม้ต่างๆ อีกด้วย (ใครรู้ว่ามีอะไรบ้าง ช่วยผมด้วย~)
-ชื่อเรื่อง Koe no Katachi นั้น จริงๆ แล้วแปลว่า The Shape of Voice ตามที่เห็นกันในตัวหนัง ส่วนชื่อ รักไร้เสียง เป็นชื่อที่ทาง Luckpim เจ้าของลิขสิทธิ์มังงะในไทยตั้งไว้
-Isayama Hajime ผู้แต่ง Attack on Titan ได้พูดชมเรื่องนี้ด้วย ในนาทีที่ 2:40 คลิปเบื้องหลังข้างล่าง เกี่ยวกับการจัดทำตัวหนัง และพาไปดูสถานที่จริงด้วย
-Kyoto Animation สตูดิโอที่สร้างเวอร์ชั่นหนังเรื่องนี้ เป็นสตูดิโอที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ “งานภาพ” ว่าอยู่ในระดับหัวแถวสตูดิโอนึง
-ผลงานเด่นๆ จะออกไปทางแนวรักกุ๊กกิ๊ก กับแนวดราม่า
-2 อย่างที่คุณจะแทบไม่มีทางได้เห็นจากสตูดิโอนี้เลย คือ ช็อตส่อง กกน. ใต้กระโปรง และฉากจูบแบบชัดๆ
-Yamada Naoko เคยกำกับงานแนวรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กมาก่อนหน้านี้ ชื่อ Tamako Love Story
-Hayami Saori ที่พากย์เป็นโชโกะจนหลายๆ คนรู้สึกประทับใจ เคยสร้างความฮือฮาไว้ให้แฟนๆ ได้ทึ่งกันไปแล้ว กับการพากย์ยาวเหยียดเกือบ 3 นาที
ผ่านในเทคเดียว !
-Aoi Yuuki คนพากย์ยูซุรุ ที่ตัวละครที่คุณเธอพากย์และหลายๆ คนที่ชอบเล่นเกมตอนนี้น่าจะคุ้นกันดีในช่วงนี้ คือหุ่นจากเกม Neir: Automata ที่เป็น NPC ชื่อ Pascal
-สุดท้ายละ รวมผลงานของนักพากย์แต่ละคน ที่ให้เสียงตัวละครในเรื่องครับ
(มีสปอยล์) รักไร้เสียง กับรายละเอียดรกสมองจากเวอร์ชั่น Movie
ก่อนเริ่มก็ ขอขอบคุณทาง M Pictures ที่ให้ความกรุณา นำเรื่องนี้เข้ามาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ดูกันครับ
ไม่ยืดยาวละ เริ่มเลยละกัน
-เพลงเปิดชื่อ My Generation โดย The Who
-ตอนที่เดินข้ามถนนสวนกันในเพลงเปิด อุเอโนะแอบเหล่มาทางอิชิดะ
-และในช่วงเพลงเปิด เห็นเด็กผู้หญิงที่นั่งในร้านตัดผมบ้านอิชิดะกันรึเปล่า?
-ข้อความบนกระดานดำนั้นต่างจากมังงะ แปลคร่าวๆ คือ ล้อเลียนโชโกะว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ซาฮาระไม่มาเรียน
-แผลที่หูของคุณแม่ของโชยะ เป็นข้างเดียวกับที่โชโกะโดน
-แล้วคิดกันบ้างรึเปล่าว่า อาจเป็นตัวคุณแม่ของโชยะเอง ที่จัดการดึงตุ้มหูออกเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ? อย่างน้อยคนแต่งเรื่องก็คิดคนนึงแหละ (อ้างอิงจาก Q&A ใน Fan Book)
-แล้วหูข้างที่หนวกสนิทของโชโกะในตอนหลัง ก็ดันเป็นข้างนี้อีก
-ตอนที่โชยะกับโชโกะตีกัน โชโกะพูดออกมาประมาณว่า “ทั้งๆ ที่(ตัวเอง)อุตส่าห์พยายามแท้ๆ”
-โชยะ --> ยาโช
-ตอนทำขนมปังตกหลังยูซุรุบอกว่าเป็นแฟนโชโกะ จริงๆ มีการเล่นคำญี่ปุ่น ถ้าให้เลือกคำมาแปลก็น่าจะประมาณว่า “ถึงกับร่วงเลย” เพราะงั้นโชยะถึงได้พูดตามมาว่า “ไม่ใช่ตัวเอง แต่หมายถึงขนมปัง” (ใครแม่นๆ ภาษาญี่ปุ่นตรงนี้ ผิดตรงไหนช่วยแก้ด้วยนะครับ)
-คำที่ยูซุรุใช้ด่านากาสึกะ(นายอ้วน)ในทีแรก แปลตรงๆ จะได้ประมาณว่า “(เจ้า)หัวก้อนขี้”
-ตอนโชยะไปรับมาเรีย ที่เรียกมาเรียให้กลับบ้านได้แล้ว เพราะได้ยินเสียงเพลงบอกช่วงเวลาดังขึ้นมา
-ยูซุรุทะเลาะกับโชโกะเรื่องที่โพสรูปอิชิดะโดดสะพาน (ในหนังจะเห็นจากหน้าจอแท็บเล็ตแว่บนึง)
-หลังอิชิดะให้รองเท้ามา ยูซุรุก็เอามาใส่ตลอดจนจบเรื่อง (เว้นตอนชุดนักเรียน)
-ตอนที่อุเอโนะมาซ้อนท้าย โชโกะกำลังเลือกซื้อของขวัญให้อิชิดะอยู่
-ตอนเอาของขวัญไปถามนากาสึกะว่าคืออะไร นากาสึกะกำลังจะพูดว่า คงเป็นขนมหวาน(candy) แต่โดนอิชิดะพูดตัดหน้าไปก่อนว่า “คงไม่ใช่ขนมหรอกนะ”
-หลังลงจากรถไฟเหาะ ขาโชโกะไม่ได้ไปกระแทกกับอะไร แค่ขาสั่นเฉยๆ ต่างหาก (Knees are knocking แปลว่าขาสั่น)
-ก่อนจะลงจากชิงช้าสวรรค์ อุเอโนะพูดกับโชโกะว่า “(โชโกะ)ไม่เคยพยายามที่จะพูดคุยกับตัวเองเลย” (ซับอังกฤษถูก ซับไทยแปลผิดนิดนึง แต่ความหมายต่างไปคนละทาง)
-เพลงที่อิชิดะฮัมในเรื่อง ชื่อเพลง Kaijuu no Ballad เป็นเพลงเดียวกับที่เราได้ยินกันตอนย้อนอดีต ที่โชโกะร้องขึ้นมาผิดจังหวะ
ส่วนท่อนที่อิชิดะร้องคือวินาทีที่ 39-51
-ตอนแม่โชยะเดินมาหาโชโกะ (ฉากพีค) เรียกชื่อโชโกะด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ว่า หนูโชโกะ? (ซับไทยตก ? ไป)
-ยูซุรุ แปะภาพซากสัตว์ที่ตายแล้ว เพราะคิดว่าอาจช่วยให้โชโกะไม่คิดเรื่องฆ่าตัวตายอีก
-ตอนโชโกะกรีดร้อง มีภาพปลาคาร์ปมีสีว่ายไปมา ก่อนว่ายพุ่งเข้าไปในจอ ก่อนที่โชยะจะฟื้นขึ้นมา (ใช้เป็นตัวแทนของโชยะที่แปลกแยกจากตัวอื่น?)
-พอมาเจอกัน ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตาฝาด
-ตก????? ทำไมไม่เพิ่ม ตึก ไปซักหน่อย....
-ภาษามืออันสุดท้ายของโชโกะตอนเจออิชิดะบนสะพาน แปลว่า สัญญา (約束)
-รูปที่ยูซุรุชนะการประกวด เป็นรูปที่ว่างรูปร่างนก แบบเดียวกับภาพนกพิราบนอนตาย ที่ยูซุรุเห็นในฝัน ก่อนคุณยายจะเสีย
-ซาฮาระช่วงแรกๆ ใส่ส้นสูง แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นรองเท้าปกติ
-คนที่ทำให้อิชิดะตัดสินใจก้าวเดินต่อไปได้ คืออุเอโนะ+โชโกะ (เพราะเห็นอุเอโนะพูดเล่นกับโชโกะได้)
-จนจบเรื่อง เราได้เห็นทรงผมโชโกะ 6 แบบ
-ในเรื่องนั้นมีการใช้สิ่งของสื่อความหมายหลายอย่าง เช่น ปลาคาร์ป ที่ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงเหมือนกับคำว่า ความรัก ในภาษาญี่ปุ่น (koi) แล้วยังมีสีสันแค่ตัวเดียว รวมไปถึงภาษาดอกไม้ต่างๆ อีกด้วย (ใครรู้ว่ามีอะไรบ้าง ช่วยผมด้วย~)
-ชื่อเรื่อง Koe no Katachi นั้น จริงๆ แล้วแปลว่า The Shape of Voice ตามที่เห็นกันในตัวหนัง ส่วนชื่อ รักไร้เสียง เป็นชื่อที่ทาง Luckpim เจ้าของลิขสิทธิ์มังงะในไทยตั้งไว้
-Isayama Hajime ผู้แต่ง Attack on Titan ได้พูดชมเรื่องนี้ด้วย ในนาทีที่ 2:40 คลิปเบื้องหลังข้างล่าง เกี่ยวกับการจัดทำตัวหนัง และพาไปดูสถานที่จริงด้วย
-Kyoto Animation สตูดิโอที่สร้างเวอร์ชั่นหนังเรื่องนี้ เป็นสตูดิโอที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ “งานภาพ” ว่าอยู่ในระดับหัวแถวสตูดิโอนึง
-ผลงานเด่นๆ จะออกไปทางแนวรักกุ๊กกิ๊ก กับแนวดราม่า
-2 อย่างที่คุณจะแทบไม่มีทางได้เห็นจากสตูดิโอนี้เลย คือ ช็อตส่อง กกน. ใต้กระโปรง และฉากจูบแบบชัดๆ
-Yamada Naoko เคยกำกับงานแนวรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กมาก่อนหน้านี้ ชื่อ Tamako Love Story
-Hayami Saori ที่พากย์เป็นโชโกะจนหลายๆ คนรู้สึกประทับใจ เคยสร้างความฮือฮาไว้ให้แฟนๆ ได้ทึ่งกันไปแล้ว กับการพากย์ยาวเหยียดเกือบ 3 นาที ผ่านในเทคเดียว !
-Aoi Yuuki คนพากย์ยูซุรุ ที่ตัวละครที่คุณเธอพากย์และหลายๆ คนที่ชอบเล่นเกมตอนนี้น่าจะคุ้นกันดีในช่วงนี้ คือหุ่นจากเกม Neir: Automata ที่เป็น NPC ชื่อ Pascal
-สุดท้ายละ รวมผลงานของนักพากย์แต่ละคน ที่ให้เสียงตัวละครในเรื่องครับ