** เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง 100% โดยหยิบยกภาพอะไรก็ได้จากอินเตอร์เน็ตมาเล่าเป็นตุเป็นตะ
ไม่จำเป็นต้องไปสืบหาตัวจริงนะจ้ะ O_< ~* และภาพนี้เราเซฟจาก Facebook เพจหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว
เอาไว้เล่นเป็น meme ขออภัยที่ไม่มีเครดิตเจ้าของภาพจ้า
ฤดูร้อนแดดอุ่นๆ กำลังดี
มิเชล เธอเพิ่งย้ายบ้านเข้ามาใหม่ในลอสแองเจอลิส
พร้อมกับเจ้าบ๊อบบี้ คู่หูเพื่อนซี้ของเธอ...
ทุกๆ เช้าจะมีพนักงานหนุ่มน้อยทำหน้าที่นำหนังสือพิมพ์มาส่ง
โดยการสอดเข้ามาในช่องรับหนังสือใต้ประตู
ซึ่งมิเชลก็รับหนังสือพิมพ์จากมือพนักงานด้วยตัวเองเสมอมา
วิถีชีวิตของเธอยังคงดำเนินไปราวกับรถไฟที่แล่นบนรางอย่างไหลลื่น
จนกระทั่ง 3 เดือนถัดมา.. พนักงานหนุ่มมาส่งหนังสือพิมพ์ดังเช่นทุกวัน
แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือ ไม่มีมิเชลมารับหนังสือพิมพ์จากมือเขาอีกแล้ว
ด้วยความสงสัย..
พนักงานจึงดึงหนังสือพิมพ์ที่สอดค้างเข้าไปครึ่งเล่มกลับมา
"คุณมิเชลครับ คุณมิเชล.. อยู่ไหมครับ?" เขาร้องสอบถาม
แต่ทว่าไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากอีกฝั่งของประตู
"วันนี้คงไปทำธุระข้างนอกบ้านละมั้ง ช่างเถอะ..."
ชายหนุ่มครุ่นคิดถอดใจด้วยความเหงา สอดหนังสือพิมพ์พร้อมกับหันหลัง
เตรียมจะเดินจากไป
"เฮ้.. เดี๋ยว ใครที่อยู่หน้าประตูนั่น.. ช่วยด้วย..."
มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากในบ้าน
"มีคนอยู่ในนั้นใช่ไหมครับ!" หนุ่มน้อยกระแทกประตูอย่างแรงหมายจะให้ประตูมันเปิด
"ผมชื่อบ๊อบบี้ ช่วยผมด้วย" เขาได้ยินดังนั้นก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นอีก
พร้อมกับในใจที่มีคำถามอยู่มากมายเต็มอก...
"อ๊าาา! หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้..." เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้งจากในบ้าน
ชายหนุ่มตัดสินใจรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายเตรียมวิ่งเข้าชาร์จประตูสุดแรงเกิด
แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคต่อจากนี้ จากอีกฝั่งของประตู ทำให้เขาต้องหยุด...
"หยุด!! ประตูบ้านฉัน มันเป็นแบบเลื่อน"
หนุ่มน้อยพนังงานถึงกับตกตะลึง หัวใจดวงน้อยๆ แทบตกลงมาอยู่ที่ตาตุ่ม
"ม.. ไม่น่าเชื่อ! ที่เราได้ยินเมื่อกี๊ เราฟังไม่ผิดใช่มั้ย!?"
เขาเลื่อนเปิดประตูออกมาอย่างง่ายดาย
และความสงสัยบางส่วนที่เขาเก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็กระจ่างทันที
เมื่อเขาได้เห็นภาพตรงหน้า...
ชายวัยกลางคน ซึ่งมีนิ้วชี้ข้างขวาข้างเดียว
และที่สำคัญ มันติดอยู่ในปลายก๊อกน้ำที่ครัว
โดยสามารถมองเห็นได้จากหน้าบ้าน
"นี่คุณ เอานิ้วออกไม่ได้งั้นเหรอ?"
"ช.. ใช่.. พอดีผมเห็นว่าน้ำไม่ออกมา ผมเลยเอานิ้วแหย่ดู"
หนุ่มน้อยถอดหายใจเฮือกใหญ่
"เฮ้.. ช่วยไปหยิบวาสลีนในห้องนอนให้หน่อยได้มั้ย"
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างวิงวอน
และแล้ว นิ้วชี้ข้างขวาที่มีอยู่อันเดียวในชีวิตของบ๊อบบี้ก็เป็นอิสระ
"งั้นผม ไม่รบกวนแล้วนะครับ..."
"ขอบใจมากน้องชาย เห็นว่ามายืนพูดอยู่คนเดียวหน้าบ้านบ่อยๆ คิดว่าจะเป็นคนสติไม่ดีซะอีก"
หนุ่มน้อยนึกถึงเรื่องที่ตนสงสัยขึ้นได้ กำลังจะอ้าปากถาม
แต่หน้าของเขาหันหน้ากลับไปที่ประตูที่เลือนมาปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ภาพที่เห็นหลังประตูเลื่อนนั้น ทำให้เส้นเสียงของเขาไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้
"อ๋อ.. นั่นคือมิเชล หมาฉันเอง
หลังจากย้ายมาที่นี่ไม่ถึง 2 สัปดาห์
มันกำลังจะวิ่งไปรับหนังสือพิมพ์ตอนเช้า
แต่ดันเหยียบอึตัวเองลื่น หน้าทิ่มประตูตายคาที่
เลยเป็นรอยอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ"
"บ.. บ้าน่า!! อ่านตั้งแต่แรก ผมนึกว่าบ๊อบบี้เป็นชื่อหมาซะอีก..."
((- จบ -))
[เรื่องเล่าจากภาพ] บ๊อบบี้
ไม่จำเป็นต้องไปสืบหาตัวจริงนะจ้ะ O_< ~* และภาพนี้เราเซฟจาก Facebook เพจหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว
เอาไว้เล่นเป็น meme ขออภัยที่ไม่มีเครดิตเจ้าของภาพจ้า
ฤดูร้อนแดดอุ่นๆ กำลังดี
มิเชล เธอเพิ่งย้ายบ้านเข้ามาใหม่ในลอสแองเจอลิส
พร้อมกับเจ้าบ๊อบบี้ คู่หูเพื่อนซี้ของเธอ...
ทุกๆ เช้าจะมีพนักงานหนุ่มน้อยทำหน้าที่นำหนังสือพิมพ์มาส่ง
โดยการสอดเข้ามาในช่องรับหนังสือใต้ประตู
ซึ่งมิเชลก็รับหนังสือพิมพ์จากมือพนักงานด้วยตัวเองเสมอมา
วิถีชีวิตของเธอยังคงดำเนินไปราวกับรถไฟที่แล่นบนรางอย่างไหลลื่น
จนกระทั่ง 3 เดือนถัดมา.. พนักงานหนุ่มมาส่งหนังสือพิมพ์ดังเช่นทุกวัน
แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือ ไม่มีมิเชลมารับหนังสือพิมพ์จากมือเขาอีกแล้ว
ด้วยความสงสัย..
พนักงานจึงดึงหนังสือพิมพ์ที่สอดค้างเข้าไปครึ่งเล่มกลับมา
"คุณมิเชลครับ คุณมิเชล.. อยู่ไหมครับ?" เขาร้องสอบถาม
แต่ทว่าไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากอีกฝั่งของประตู
"วันนี้คงไปทำธุระข้างนอกบ้านละมั้ง ช่างเถอะ..."
ชายหนุ่มครุ่นคิดถอดใจด้วยความเหงา สอดหนังสือพิมพ์พร้อมกับหันหลัง
เตรียมจะเดินจากไป
"เฮ้.. เดี๋ยว ใครที่อยู่หน้าประตูนั่น.. ช่วยด้วย..."
มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากในบ้าน
"มีคนอยู่ในนั้นใช่ไหมครับ!" หนุ่มน้อยกระแทกประตูอย่างแรงหมายจะให้ประตูมันเปิด
"ผมชื่อบ๊อบบี้ ช่วยผมด้วย" เขาได้ยินดังนั้นก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นอีก
พร้อมกับในใจที่มีคำถามอยู่มากมายเต็มอก...
"อ๊าาา! หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้..." เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้งจากในบ้าน
ชายหนุ่มตัดสินใจรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายเตรียมวิ่งเข้าชาร์จประตูสุดแรงเกิด
แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคต่อจากนี้ จากอีกฝั่งของประตู ทำให้เขาต้องหยุด...
"หยุด!! ประตูบ้านฉัน มันเป็นแบบเลื่อน"
หนุ่มน้อยพนังงานถึงกับตกตะลึง หัวใจดวงน้อยๆ แทบตกลงมาอยู่ที่ตาตุ่ม
"ม.. ไม่น่าเชื่อ! ที่เราได้ยินเมื่อกี๊ เราฟังไม่ผิดใช่มั้ย!?"
เขาเลื่อนเปิดประตูออกมาอย่างง่ายดาย
และความสงสัยบางส่วนที่เขาเก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็กระจ่างทันที
เมื่อเขาได้เห็นภาพตรงหน้า...
ชายวัยกลางคน ซึ่งมีนิ้วชี้ข้างขวาข้างเดียว
และที่สำคัญ มันติดอยู่ในปลายก๊อกน้ำที่ครัว
โดยสามารถมองเห็นได้จากหน้าบ้าน
"นี่คุณ เอานิ้วออกไม่ได้งั้นเหรอ?"
"ช.. ใช่.. พอดีผมเห็นว่าน้ำไม่ออกมา ผมเลยเอานิ้วแหย่ดู"
หนุ่มน้อยถอดหายใจเฮือกใหญ่
"เฮ้.. ช่วยไปหยิบวาสลีนในห้องนอนให้หน่อยได้มั้ย"
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างวิงวอน
และแล้ว นิ้วชี้ข้างขวาที่มีอยู่อันเดียวในชีวิตของบ๊อบบี้ก็เป็นอิสระ
"งั้นผม ไม่รบกวนแล้วนะครับ..."
"ขอบใจมากน้องชาย เห็นว่ามายืนพูดอยู่คนเดียวหน้าบ้านบ่อยๆ คิดว่าจะเป็นคนสติไม่ดีซะอีก"
หนุ่มน้อยนึกถึงเรื่องที่ตนสงสัยขึ้นได้ กำลังจะอ้าปากถาม
แต่หน้าของเขาหันหน้ากลับไปที่ประตูที่เลือนมาปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ภาพที่เห็นหลังประตูเลื่อนนั้น ทำให้เส้นเสียงของเขาไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้
"อ๋อ.. นั่นคือมิเชล หมาฉันเอง
หลังจากย้ายมาที่นี่ไม่ถึง 2 สัปดาห์
มันกำลังจะวิ่งไปรับหนังสือพิมพ์ตอนเช้า
แต่ดันเหยียบอึตัวเองลื่น หน้าทิ่มประตูตายคาที่
เลยเป็นรอยอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ"
"บ.. บ้าน่า!! อ่านตั้งแต่แรก ผมนึกว่าบ๊อบบี้เป็นชื่อหมาซะอีก..."
((- จบ -))