สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้ขออนุญาตรีวิวขอวีซ่า B2 อเมริกา สดๆร้อนๆวันนี้เลยคะ
เราขอข้ามส่วนขอการกรอกเอกสารไปนะคะ เพราะเราก็หาข้อมูลจากใน Pantip เหมือนกัน
เรานัดคิว 7.30 น วันที่27/3/60
โดยเราไปขอพร้อมกันกับแฟนค่ะ สัมภาษณ์พร้อมกันเลย เพราะไปและกลับพร้อมกัน
ข้อมูลเรากับแฟนเป็นดังนี้นะคะ
เรา : อายุ 24 จบปริญญาตรีมายังไม่ถึง 1 ปี // ทำงานธุระกิจในครอบครัว // เคยเดินทางมาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง // เงินเดือน 33,000 // เรามีน้องชายเรียน high school อยู่ที่ Florida
แฟน : อายุ 24 จบปริญญษตรีมายังไม่ถึง 1 ปี // เป็นวิศวะ โยธา ทำงานในบริษัทที่รับเหมาสร้างโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทบางจาก + มีใบ กว // เคยเดินทางมาแล้ว 7 ครั้ง // เงินเดือน 27,000
เช้าวันที่สัมภาษณ์
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่ฝนตกสม่ำเสมอทั่วกรุงเทพเชียวค่ะ
ซึ่งเราภาวนาให้หยุดตกเถอะ ไม่งั้นเราลำบากแน่ ร่มก็ไม่มีสักคัน รถก็ติดอีก
เราออกจากที่พัก แถวบางนา (เราออกมาสายละค่ะ เพราะว่าไม่มีรถแท็กซี่เลย พยามเรียก Uber 4-5ครั้งกว่าจะมีรถ)
นั่งรถมาก็ลุ้นทุก 5 นาทีว่าจะถึงยัง ในที่สุดเราก็มาถึงสถาฑูตตอน 7.30 น ก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่าเราคิว 7.30 ต้องไปต่อแถวหน้านอกสุดมั้ย
เจ้าหน้าที่บอก วันนี้ฝนตก รอบ7.30 ยังทันต่อแถวด้านนอกก่อนได้เลยครับ ระหว่างนั้นก็เปียกกันไปค่ะ โชคดีคุณป้าที่ต่อหลังเรามากับลูกชาย ใจดีให้หลบในร่มด้วย ส่วนแฟนเราก็หลบในร่วมลูกชายคุณป้า กว่าจะถึงคิวที่เจ้าหน้าที่เช็คใบ DS-160 ก็เวลา 8.00 น พอดี
ซึ่งก่อนหน้าเราตอน 7.45 น มีคนที่อยู่ด้านหน้าเราไปหลายคนถึงตอนเช็คใบ DS-160 เจ้าหน้าที่ถามว่ารอบไหน พี่เขาบอกว่า รอบ 7.15 น เจ้าหน้าที่ก็ดุเลยค่ะ ว่าคุณไปไหนมานี่มัน 7.45 ละนะ เชิญกลับบ้านครับ เราได้ยินแล้วเสียววาบเลย เพราะเราก็สาย แต่ยังดีที่ยังอยู่ในเวลาเลทมา 30 นาทียังได้อยู่
หลังจากเจ้าจากที่ขอดูใบ DS-160 และเขียนเวลานัดลงบนใบนั้นแล้ว ก็เดินไปต่อขั้นตอนฝากโทรศัพท์ เรากับแฟนมาด้วยกัน โทรศัพท์2เครื่อง ใช้บัตร ปชช คนเดียว ฝากด้วยกันได้
หลังจากผ่านการสแกนตัวเหมือนสนามบินทุกอย่างมาเรียบร้อย ก็เดินไปถึงจุดที่เจ้าหน้าที่คนไทย โดยเรายื่นใบ DS-160 พร้อม Passport ให้เจ้าหน้าที่ๆก็ถามนิดหน่อยว่าเรากับแฟนเคยได้ Visa อเมริกามาก่อนมั้ย จากนั้นก็จะหนีบใบที่มีเลข Ems และใส่เอกสารส่วนนั้นลงในแฟ้มใส แล้วให้เราเดินไปต่อแถวด้านใน
เมื่อเข้ามาด้านในเราก็ต่อแถวมาเรื่อยๆค่ะ วันนี้คนที่รออยู่ก่อนค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ไม่ช้านะคะ
แล้วก็มาถึงช่องที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยให้เราสแกนนิ้วมือทั้ง2ข้าง ก็มีถามนิดหน่อยว่า เรากับแฟนเป็นอะไรกัน ไปและกลับพร้อมกันมั้ย แล้วก็ให้เราต่อแถวไปช่องที่ 10ค่ะ
ช่องที่ 10 เจ้าหน้าที่เป็นฝรั่งพูดไทยได้ ก็ให้เราแนบแฟ้มใสที่เห็นบาร์โค้ด DS-160 ติดกระจก แล้วก็ให้เราสแกนนิ้วแค่ข้างเดียว จากนั้นเราก็ให้มาต่อแถว หลังจากนี้ละค่ะ ของจริง ตื่นเต้นมากกกกกกกกก
ถึงเวลาสัมภาษณ์กับกงศุล
วันที่มีกงศุลทั้งหมด 4 คน คนแรกเป็น ผู้ชายผิวสี ถามค่อนข้างเยอะ และก่อนที่ขออยู่ก่อนมีท่าทีจะไม่ผ่านด้วยค่ะ
คนที่สอง เป็นผู้ชายผิวขาว กงศุลคนนี้ยืนตลอดเลยค่ะ ไม่ยอมนั่งเลย
คนที่สาม เป็นผู้หญิงผิวขาว พูดน่ารักมากและยิ้มแย้มตลอดเลย
คนที่สี่ เป็นผู้หญิงผิวสี เท่าที่เราสังเกตคนนี้ก็ไม่ได้ถามเยอะนะคะ
เราได้สัมภาษณ์กับกงศุลผู้ชายผิวขาว
เรากับแฟนเดินเข้าไปพร้อมกันแล้วยกมือไหว้ แล้วสวัสดีค่ะ
หลังจากนี้เป็นการพูดไทยทั้งหมดเลยนะคะ
กงศุล : สวัสดีครับ เป็นหงายบ้างครับ
เรา : สบายดีค่ะ (ยิ้มสยาม ฮ่าๆๆ)
แฟน : ตกฝน เปียกมากครับ
กงศุล : หัวเราะ
เพราะเรากับแฟนเปียกจริงๆ ผมไม่เป็นทรงกันเลยค่ะ
กงศุล : จะไปไหนกันคร้าบ
เรา : นิวยอร์ก กับ ดีซี ค่ะ
กงศุล : เป็นอะไรกันคร้าบ
เรากับแฟน : แฟนกันค่ะ คบกันมา5ปีละค่ะ
กงศุล : จะไปกี่วันคร้าบ
เรากับแฟน : 10 วันค่ะ (ตอบพร้อมกันเลยค่ะ)
กงศุล : คุณ.....(หันไปทางแฟนเรา) ทำงานที่ .... มากี่ปีละคร้าบ
แฟน : เดือนนี้เดือนที่ 10 ครับ พร้อมหยิบใบลางานให้ (แต่กงศุล บอกไม่เอาใบลางานนะคะ)
กงศุล : ท่าวไหรน่าคร้าบ 10 ปีหรอ
แฟน : 10 เดือนครับ กำลังจะครบ1ปีครับ
กงศุล : อ้อๆ
แล้วก็หันมาหาเราค่ะ
กงศุล : คุณ... ทำงานอะไรครับ
เรา : ดิฉันเป็น ..... (เราตอบไปสองตำแหน่งนะคะ ซึ่งทั้งสองตำแหน่งเป็นงานในธุระกิจของครอบครัว เราบรรยายไปใน DS-160หมด)
กงศุล : ครับ
หลังจากนั้น กงศุลเปิดดู Passport เราอย่างละเอียดทุกหน้าค่ะ
(ซึ่งในเล่มปัจจุบันเราเดินทางมา 8 ครั้ง เอเชียทั้งหมดค่ะ )
แล้วหลังจากนั้นก็ดู Passport แฟนเราอย่างละเอียดเช่นกันค่ะ
(ซึ่งแฟนเราเดินทางทั้งหมด 7 ครั้ง ไปพร้อมเราทุกครั้งเลยค่ะ)
หลังจากนั้นกงศุลก็พิมอะไรไม่รู้ นานมากค่ะ คือนานจนเรากับแฟนมองหน้ากัน ว่าไม่ผ่านแน่เลย
แล้วกงศุลก็เงยหน้าขึ้นมา บอกว่า Visa คุณ...
ซึ่งเรากับแฟนได้ยินไม่ชัด นึกว่าไม่ผ่าน ทำหน้าเอ๋อๆจะร้องทั้งคู่ละคะ
แล้วกงศุลก็พูดใหม่ว่า " Visa คุณผ่านนะคร้าบ เราจะจัดส่ง...."
หลังจากนั้นเราไม่ได้ยินอะไรแล้วค่ะ 55555
คือดีใจมากกกกกกกกกก รีบยกมือไหว้แล้วบอก "ขอบคุณค่ะ"
เย้ๆๆ ในที่สุด Visa เราก็ผ่านส่วนจะได้กี่ปีนั้นต้องมาลุ้นกันค่ะ
เอกสารที่เราเตรียมไป
- Passport ทุกเล่ม (ได้ใช้แค่เล่มจริง)
- ใบ Confirm DS-160 (ได้ใช้)
- ใบลางาน (ไม่ได้ใช้)
- สเตรทเม้นและสมุดธนาคาร (ไม่ได้ใช้)
- รูปถ่ายที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันมา (ไม่ได้ใช้)
- ใบจองที่พัก (ไม่ได้ใช้และไม่ถามว่าไปพักที่ไหน)
- โฉนดที่ดินชื่อเรา (ไม่ได้ใช้)
- ใบจดทะเบียนพาณิชย์ทุกอย่างชื่อคุณแม่เรา (ไม่ได้ใช้)
- ใบ กว วิศวะโยธา ของแฟน (ไม่ได้ใช้)
ทริคสำหรับเราสองคน
1. กรอกใบ DS-160 ให้ละเอียดที่สุด >> ซึ่งใบนี้จริงๆเรากรอกหลายรอบมากค่ะ คือเรารู้สึกว่ามันไม่ละเอียดก็เลยกรอกใบใหม่เลยค่ะ ถึงจะกด Submit แต่ถ้าเราว่ารู้สึกว่ามันจะไม่ดีที่สุด ก็กรอกใหม่ให้ชัวร์เลยค่ะ ไม่เป็นไร
2. เราเพิ่งเรียนจบทั้งคู่ เลยอธิบายงานใน DS-160 ว่างานสำคัญยังไง อธิบายให้เขารู้สึกว่าเราไม่มีทางทิ้งงานไปหรอก
3. ตอนพูดยิ้มแย้ม ไม่เกร็ง สบายๆ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปขอวีซ่านะคะ อาจจะอ่าน งงๆหน่อยนะคะ เรายังตื่นเต้นอยู่เลยคะ
ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ
Update 30/3/60
วันนี้ Passport มาถึงละคะ ได้มา10ปี เย้เย้
[CR] รีวิวขอวีซ่า B2 ท่ามกลางสายฝนวันนี้ (27/3/60)
ข้อมูลเรากับแฟนเป็นดังนี้นะคะ
เรา : อายุ 24 จบปริญญาตรีมายังไม่ถึง 1 ปี // ทำงานธุระกิจในครอบครัว // เคยเดินทางมาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง // เงินเดือน 33,000 // เรามีน้องชายเรียน high school อยู่ที่ Florida
แฟน : อายุ 24 จบปริญญษตรีมายังไม่ถึง 1 ปี // เป็นวิศวะ โยธา ทำงานในบริษัทที่รับเหมาสร้างโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทบางจาก + มีใบ กว // เคยเดินทางมาแล้ว 7 ครั้ง // เงินเดือน 27,000
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่ฝนตกสม่ำเสมอทั่วกรุงเทพเชียวค่ะ
ซึ่งเราภาวนาให้หยุดตกเถอะ ไม่งั้นเราลำบากแน่ ร่มก็ไม่มีสักคัน รถก็ติดอีก
เราออกจากที่พัก แถวบางนา (เราออกมาสายละค่ะ เพราะว่าไม่มีรถแท็กซี่เลย พยามเรียก Uber 4-5ครั้งกว่าจะมีรถ)
นั่งรถมาก็ลุ้นทุก 5 นาทีว่าจะถึงยัง ในที่สุดเราก็มาถึงสถาฑูตตอน 7.30 น ก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่าเราคิว 7.30 ต้องไปต่อแถวหน้านอกสุดมั้ย
เจ้าหน้าที่บอก วันนี้ฝนตก รอบ7.30 ยังทันต่อแถวด้านนอกก่อนได้เลยครับ ระหว่างนั้นก็เปียกกันไปค่ะ โชคดีคุณป้าที่ต่อหลังเรามากับลูกชาย ใจดีให้หลบในร่มด้วย ส่วนแฟนเราก็หลบในร่วมลูกชายคุณป้า กว่าจะถึงคิวที่เจ้าหน้าที่เช็คใบ DS-160 ก็เวลา 8.00 น พอดี
ซึ่งก่อนหน้าเราตอน 7.45 น มีคนที่อยู่ด้านหน้าเราไปหลายคนถึงตอนเช็คใบ DS-160 เจ้าหน้าที่ถามว่ารอบไหน พี่เขาบอกว่า รอบ 7.15 น เจ้าหน้าที่ก็ดุเลยค่ะ ว่าคุณไปไหนมานี่มัน 7.45 ละนะ เชิญกลับบ้านครับ เราได้ยินแล้วเสียววาบเลย เพราะเราก็สาย แต่ยังดีที่ยังอยู่ในเวลาเลทมา 30 นาทียังได้อยู่
หลังจากเจ้าจากที่ขอดูใบ DS-160 และเขียนเวลานัดลงบนใบนั้นแล้ว ก็เดินไปต่อขั้นตอนฝากโทรศัพท์ เรากับแฟนมาด้วยกัน โทรศัพท์2เครื่อง ใช้บัตร ปชช คนเดียว ฝากด้วยกันได้
หลังจากผ่านการสแกนตัวเหมือนสนามบินทุกอย่างมาเรียบร้อย ก็เดินไปถึงจุดที่เจ้าหน้าที่คนไทย โดยเรายื่นใบ DS-160 พร้อม Passport ให้เจ้าหน้าที่ๆก็ถามนิดหน่อยว่าเรากับแฟนเคยได้ Visa อเมริกามาก่อนมั้ย จากนั้นก็จะหนีบใบที่มีเลข Ems และใส่เอกสารส่วนนั้นลงในแฟ้มใส แล้วให้เราเดินไปต่อแถวด้านใน
แล้วก็มาถึงช่องที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยให้เราสแกนนิ้วมือทั้ง2ข้าง ก็มีถามนิดหน่อยว่า เรากับแฟนเป็นอะไรกัน ไปและกลับพร้อมกันมั้ย แล้วก็ให้เราต่อแถวไปช่องที่ 10ค่ะ
ช่องที่ 10 เจ้าหน้าที่เป็นฝรั่งพูดไทยได้ ก็ให้เราแนบแฟ้มใสที่เห็นบาร์โค้ด DS-160 ติดกระจก แล้วก็ให้เราสแกนนิ้วแค่ข้างเดียว จากนั้นเราก็ให้มาต่อแถว หลังจากนี้ละค่ะ ของจริง ตื่นเต้นมากกกกกกกกก
วันที่มีกงศุลทั้งหมด 4 คน คนแรกเป็น ผู้ชายผิวสี ถามค่อนข้างเยอะ และก่อนที่ขออยู่ก่อนมีท่าทีจะไม่ผ่านด้วยค่ะ
คนที่สอง เป็นผู้ชายผิวขาว กงศุลคนนี้ยืนตลอดเลยค่ะ ไม่ยอมนั่งเลย
คนที่สาม เป็นผู้หญิงผิวขาว พูดน่ารักมากและยิ้มแย้มตลอดเลย
คนที่สี่ เป็นผู้หญิงผิวสี เท่าที่เราสังเกตคนนี้ก็ไม่ได้ถามเยอะนะคะ
เรากับแฟนเดินเข้าไปพร้อมกันแล้วยกมือไหว้ แล้วสวัสดีค่ะ
หลังจากนี้เป็นการพูดไทยทั้งหมดเลยนะคะ
กงศุล : สวัสดีครับ เป็นหงายบ้างครับ
เรา : สบายดีค่ะ (ยิ้มสยาม ฮ่าๆๆ)
แฟน : ตกฝน เปียกมากครับ
กงศุล : หัวเราะ
เพราะเรากับแฟนเปียกจริงๆ ผมไม่เป็นทรงกันเลยค่ะ
กงศุล : จะไปไหนกันคร้าบ
เรา : นิวยอร์ก กับ ดีซี ค่ะ
กงศุล : เป็นอะไรกันคร้าบ
เรากับแฟน : แฟนกันค่ะ คบกันมา5ปีละค่ะ
กงศุล : จะไปกี่วันคร้าบ
เรากับแฟน : 10 วันค่ะ (ตอบพร้อมกันเลยค่ะ)
กงศุล : คุณ.....(หันไปทางแฟนเรา) ทำงานที่ .... มากี่ปีละคร้าบ
แฟน : เดือนนี้เดือนที่ 10 ครับ พร้อมหยิบใบลางานให้ (แต่กงศุล บอกไม่เอาใบลางานนะคะ)
กงศุล : ท่าวไหรน่าคร้าบ 10 ปีหรอ
แฟน : 10 เดือนครับ กำลังจะครบ1ปีครับ
กงศุล : อ้อๆ
แล้วก็หันมาหาเราค่ะ
กงศุล : คุณ... ทำงานอะไรครับ
เรา : ดิฉันเป็น ..... (เราตอบไปสองตำแหน่งนะคะ ซึ่งทั้งสองตำแหน่งเป็นงานในธุระกิจของครอบครัว เราบรรยายไปใน DS-160หมด)
กงศุล : ครับ
หลังจากนั้น กงศุลเปิดดู Passport เราอย่างละเอียดทุกหน้าค่ะ
(ซึ่งในเล่มปัจจุบันเราเดินทางมา 8 ครั้ง เอเชียทั้งหมดค่ะ )
แล้วหลังจากนั้นก็ดู Passport แฟนเราอย่างละเอียดเช่นกันค่ะ
(ซึ่งแฟนเราเดินทางทั้งหมด 7 ครั้ง ไปพร้อมเราทุกครั้งเลยค่ะ)
แล้วกงศุลก็เงยหน้าขึ้นมา บอกว่า Visa คุณ...
ซึ่งเรากับแฟนได้ยินไม่ชัด นึกว่าไม่ผ่าน ทำหน้าเอ๋อๆจะร้องทั้งคู่ละคะ
แล้วกงศุลก็พูดใหม่ว่า " Visa คุณผ่านนะคร้าบ เราจะจัดส่ง...."
หลังจากนั้นเราไม่ได้ยินอะไรแล้วค่ะ 55555
คือดีใจมากกกกกกกกกก รีบยกมือไหว้แล้วบอก "ขอบคุณค่ะ"
เย้ๆๆ ในที่สุด Visa เราก็ผ่านส่วนจะได้กี่ปีนั้นต้องมาลุ้นกันค่ะ
- Passport ทุกเล่ม (ได้ใช้แค่เล่มจริง)
- ใบ Confirm DS-160 (ได้ใช้)
- ใบลางาน (ไม่ได้ใช้)
- สเตรทเม้นและสมุดธนาคาร (ไม่ได้ใช้)
- รูปถ่ายที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันมา (ไม่ได้ใช้)
- ใบจองที่พัก (ไม่ได้ใช้และไม่ถามว่าไปพักที่ไหน)
- โฉนดที่ดินชื่อเรา (ไม่ได้ใช้)
- ใบจดทะเบียนพาณิชย์ทุกอย่างชื่อคุณแม่เรา (ไม่ได้ใช้)
- ใบ กว วิศวะโยธา ของแฟน (ไม่ได้ใช้)
1. กรอกใบ DS-160 ให้ละเอียดที่สุด >> ซึ่งใบนี้จริงๆเรากรอกหลายรอบมากค่ะ คือเรารู้สึกว่ามันไม่ละเอียดก็เลยกรอกใบใหม่เลยค่ะ ถึงจะกด Submit แต่ถ้าเราว่ารู้สึกว่ามันจะไม่ดีที่สุด ก็กรอกใหม่ให้ชัวร์เลยค่ะ ไม่เป็นไร
2. เราเพิ่งเรียนจบทั้งคู่ เลยอธิบายงานใน DS-160 ว่างานสำคัญยังไง อธิบายให้เขารู้สึกว่าเราไม่มีทางทิ้งงานไปหรอก
3. ตอนพูดยิ้มแย้ม ไม่เกร็ง สบายๆ