สวัสดีครับทุกท่าน
ขอเท้าความก่อน เนื่องจาก จขกท. เป็นนักเรียนปริญญาโท อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างเรียนก็ชอบท่องเที่ยว เลยได้มีประสบการณ์ทั้งขอ Schengen Visa กับฝรั่งเศส ซึ่งวิธีการขอ รวมถึงเอกสารนั้นไม่ได้ต่างจากการขอที่ไทยเท่าไหร่ เลยขอข้ามไปก่อน
ทั้งนี้มีเพื่อนนักเรียนคนไทย รวมถึงคนจีน หลายคนได้ไปขอ US Visa เพื่อที่จะไปท่องเที่ยว และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ของ่ายมากๆ เอกสารไม่ต้องยื่นให้วุ่นวาย ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม เอกสารทางการเงิน อะไรพวกนี้ก็ไม่ต้องยื่นเลย ต่างกับความเห็นในเน็ตที่หลายๆ คนพูดว่า ขอที่ต่างประเทศยากกว่าที่ไทย เนื่องจากผมมีความคิดที่จะไปเที่ยว US ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอยู่แล้ว เลยตัดสินใจที่จะขอ US Visa เพื่อท่องเที่ยว กับทาง US Embassy ที่ London ครับ
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ คือ
- Confirmation ของ DS-160 (จะได้หากสำเร็จข้อ 1)
- Visa Intructions (จะได้หากสำเร็จข้อ 2)
- Passport ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว สามารถถ่ายเองได้ ถ่ายภายใน 6 เดือน (จะต้อง Upload ตอนกรอก DS-160 ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ออกมา) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก
https://travel.state.gov/content/visas/en/general/photos.html
- หลักฐานว่าเรามาทำอะไรที่ UK ข้อนี้ผมให้ทางมหาวิทยาลัยออกเอกสารรับรองการเป็นนักเรียนให้
- หลักฐานว่าเคยได้รับ US Visa มาก่อนแล้ว
** ไม่ต้องใช้เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แผนการท่องเที่ยว รวมถึงเอกสารทางการเงิน**
ขั้นที่ 1 : กรอกข้อมูล
ทำการกรอก DS-160 จาก
https://ceac.state.gov/genniv/ เลือก Location ที่สมัครเป็น ENGLAND, LONDON ขั้นตอนนี้ วิธีการกรอกนั้นเหมือนกับการขอที่ไทยทุกอย่าง ผมกรอกตามกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/35021980 ดังนั้นผมขอข้ามไปนะครับ แต่เนื่องจากผมเป็นนักเรียนอยู่ที่ UK ดังนั้น ผมจึงกรอกข้อมูลเป็นข้อมูลที่ UK ทั้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ หลังจากกรอกเรียบร้อยแล้ว จะได้ใบ Confirmation ดังรูป ให้ทำการพิมพ์ออกมาครับ
ขั้นที่ 2 : จ่ายเงินและนัดหมาย
หลังจากเสร็จขั้นตอนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่
https://ais.usvisa-info.com/en-gb/niv/users/sign_in หากยังไม่เคยมี account ให้ทำการสมัครให้เรียบร้อยครับ ระหว่างการลงทะเบียนนั้น ทางเว็บไซต์จะถามถึง DIS-160 number ด้วย หรือ Confirmation No ที่ขึ้นต้นด้วย AA จากขั้นตอนที่ 1 นั่นแหล่ะครับ
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ทางระบบจะให้เราทำการจ่ายเงินก่อนถึงจะทำการนัดหมายเพื่อ Interview ที่สถานทูต เราก็ทำตามขั้นตอนไปเลยครับ ไม่ซับซ้อน (เราสามารถแก้ไขนัดหมายทีหลังได้ แต่จะไม่สามารถขอเงินคืนได้) หลังจากนั้น ระบบจะให้เราเลือกวิธีการรับ Passport คืน
วิธีการรับ Passport คืนมี 2 แบบคือ ทำการไปรับเองตามสถานที่ที่เลือก (ไม่สามารถรับที่สถานทูตได้) กับ ให้ทางบริษัทขนส่งทำการส่งมาที่บ้าน (ค่าธรรมเนียมประมาณ 18 ปอนด์) ผมเลือกไปรับเองครับ
หลังจากนั้นเราจะได้ใบ Instruction มา ให้ทำการพิมพ์ออกมาครับ
ขั้นที่ 3 : Interview
เดินทางไปยื่นเอกสารและ Interview ที่ US Embassy (Postcode: W1A 2LQ) ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ Selfridges สถานที่ Underground Bond Street
เมื่อไปถึง จะต้องไปต่อแถวข้างหน้าสถาทูต ให้ทำการถามเจ้าหน้าที่ว่า เราต้องต่อแถวไหน เพราะแต่ละแถวจะมีเวลานัดไม่เหมือนกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเอกสาร (เบื้องต้น) และจะให้ทำการผ่าน Security Check เพื่อทำการเข้าไปในสถานทูต
หลังจากนั้น ให้เดินตามป้าย เมื่อเจอเจ้าหน้าที่หน้าเคาเตอร์ให้ทำการยื่นเอกสารไป ทางเจ้าหน้าที่จะทำการแจกบัตรคิวโดยการติดที่เอกสารและ Passport
เมื่อได้รับคิวแล้ว ให้เข้าไปนั่งรอ (ด้านหน้า) เพื่อรับการตรวจเอกสาร จะมีจอใหญ่ๆ ด้านหน้า แสดงหมายเลขคิวอยู่ ตรงนี้สามารถเล่นโทรศัพท์ได้ แต่ห้ามถ่ายรูปครับ
หลังจากนั้นนั้นให้ทำเอกสารที่ตรวจแล้วทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่แถวๆ ประตู เจ้าหน้าที่จะให้ไปนั่งรอเพื่อทำการ Interview (ตรงนี้ผมรอนานพอสมควร)
พอถึงคิว เจ้าหน้าที่จะเรียกทั้งแถวให้ไปต่อคิวเพื่อ Interview ครับ ตรงนี้ห้ามใช้โทรศัพท์ และห้ามถ่ายรูป ส่วนการ Interview นั้นไม่กดดัน ไม่เครียดครับ เมื่อถึงคิวให้ยื่นเอกสาร Confirmation of DS-160 + Visa Instructions + Passport (แค่สามอย่าง)
คำถามที่เจ้าหน้าที่ถามผม เป็นคำถามทั่วไป ประมาณว่า
- ตอนนี้เรียนอะไรอยู่ เรียนที่ไหน (ผมจะยื่นเอกสารจากทางมหาวิทยาลัยให้ เจ้าหน้าที่บอกไม่เป็นไร ไม่จำเป็น)
- ประเทศล่าสุดที่ไป คือประเทศอะไร
- จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ทำไมถึงอยากไป
- ที่บ้าน พ่อแม่ทำอะไร
- ออกเงินเองหรือที่บ้านออกให้ ถ้าออกเองเอาเงินมาจากไหน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะบอกผลเลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็จะได้ Passport คืนมาเลย ใช้เวลา Interview สั้นมากครับ ประมาณ 5 นาที
หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันทำการ ก็จะมี Email แจ้งว่าทางสถานทูตได้ปล่อยเล่มออกมาแล้ว ให้ไปรับคืน หรือรอจัดส่งที่บ้านครับ
ตอนรับ Passport คืน ตื่นเต้นมากว่าจะได้กี่ปี สรุปได้ 10 ปี แบบชิลๆ โดย ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไรเยอะแยะ ให้วุ่นวายเลย Happy มากๆ ครับ
ขอจบรีวิวเท่านี้ล่ะกันครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ
วิธีการขอ US Visa ที่ London ง่ายที่สุดในชีวิตที่เคยขอมา เอกสารไม่วุ่นวาย ฉบับนักเรียน UK ที่จะไปท่องเที่ยว US
ขอเท้าความก่อน เนื่องจาก จขกท. เป็นนักเรียนปริญญาโท อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างเรียนก็ชอบท่องเที่ยว เลยได้มีประสบการณ์ทั้งขอ Schengen Visa กับฝรั่งเศส ซึ่งวิธีการขอ รวมถึงเอกสารนั้นไม่ได้ต่างจากการขอที่ไทยเท่าไหร่ เลยขอข้ามไปก่อน
ทั้งนี้มีเพื่อนนักเรียนคนไทย รวมถึงคนจีน หลายคนได้ไปขอ US Visa เพื่อที่จะไปท่องเที่ยว และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ของ่ายมากๆ เอกสารไม่ต้องยื่นให้วุ่นวาย ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม เอกสารทางการเงิน อะไรพวกนี้ก็ไม่ต้องยื่นเลย ต่างกับความเห็นในเน็ตที่หลายๆ คนพูดว่า ขอที่ต่างประเทศยากกว่าที่ไทย เนื่องจากผมมีความคิดที่จะไปเที่ยว US ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอยู่แล้ว เลยตัดสินใจที่จะขอ US Visa เพื่อท่องเที่ยว กับทาง US Embassy ที่ London ครับ
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ คือ
- Confirmation ของ DS-160 (จะได้หากสำเร็จข้อ 1)
- Visa Intructions (จะได้หากสำเร็จข้อ 2)
- Passport ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว สามารถถ่ายเองได้ ถ่ายภายใน 6 เดือน (จะต้อง Upload ตอนกรอก DS-160 ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ออกมา) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://travel.state.gov/content/visas/en/general/photos.html
- หลักฐานว่าเรามาทำอะไรที่ UK ข้อนี้ผมให้ทางมหาวิทยาลัยออกเอกสารรับรองการเป็นนักเรียนให้
- หลักฐานว่าเคยได้รับ US Visa มาก่อนแล้ว
ขั้นที่ 1 : กรอกข้อมูล
ทำการกรอก DS-160 จาก https://ceac.state.gov/genniv/ เลือก Location ที่สมัครเป็น ENGLAND, LONDON ขั้นตอนนี้ วิธีการกรอกนั้นเหมือนกับการขอที่ไทยทุกอย่าง ผมกรอกตามกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/35021980 ดังนั้นผมขอข้ามไปนะครับ แต่เนื่องจากผมเป็นนักเรียนอยู่ที่ UK ดังนั้น ผมจึงกรอกข้อมูลเป็นข้อมูลที่ UK ทั้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ หลังจากกรอกเรียบร้อยแล้ว จะได้ใบ Confirmation ดังรูป ให้ทำการพิมพ์ออกมาครับ
ขั้นที่ 2 : จ่ายเงินและนัดหมาย
หลังจากเสร็จขั้นตอนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ https://ais.usvisa-info.com/en-gb/niv/users/sign_in หากยังไม่เคยมี account ให้ทำการสมัครให้เรียบร้อยครับ ระหว่างการลงทะเบียนนั้น ทางเว็บไซต์จะถามถึง DIS-160 number ด้วย หรือ Confirmation No ที่ขึ้นต้นด้วย AA จากขั้นตอนที่ 1 นั่นแหล่ะครับ
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ทางระบบจะให้เราทำการจ่ายเงินก่อนถึงจะทำการนัดหมายเพื่อ Interview ที่สถานทูต เราก็ทำตามขั้นตอนไปเลยครับ ไม่ซับซ้อน (เราสามารถแก้ไขนัดหมายทีหลังได้ แต่จะไม่สามารถขอเงินคืนได้) หลังจากนั้น ระบบจะให้เราเลือกวิธีการรับ Passport คืน
วิธีการรับ Passport คืนมี 2 แบบคือ ทำการไปรับเองตามสถานที่ที่เลือก (ไม่สามารถรับที่สถานทูตได้) กับ ให้ทางบริษัทขนส่งทำการส่งมาที่บ้าน (ค่าธรรมเนียมประมาณ 18 ปอนด์) ผมเลือกไปรับเองครับ
หลังจากนั้นเราจะได้ใบ Instruction มา ให้ทำการพิมพ์ออกมาครับ
ขั้นที่ 3 : Interview
เดินทางไปยื่นเอกสารและ Interview ที่ US Embassy (Postcode: W1A 2LQ) ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ Selfridges สถานที่ Underground Bond Street
เมื่อไปถึง จะต้องไปต่อแถวข้างหน้าสถาทูต ให้ทำการถามเจ้าหน้าที่ว่า เราต้องต่อแถวไหน เพราะแต่ละแถวจะมีเวลานัดไม่เหมือนกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเอกสาร (เบื้องต้น) และจะให้ทำการผ่าน Security Check เพื่อทำการเข้าไปในสถานทูต
หลังจากนั้น ให้เดินตามป้าย เมื่อเจอเจ้าหน้าที่หน้าเคาเตอร์ให้ทำการยื่นเอกสารไป ทางเจ้าหน้าที่จะทำการแจกบัตรคิวโดยการติดที่เอกสารและ Passport
เมื่อได้รับคิวแล้ว ให้เข้าไปนั่งรอ (ด้านหน้า) เพื่อรับการตรวจเอกสาร จะมีจอใหญ่ๆ ด้านหน้า แสดงหมายเลขคิวอยู่ ตรงนี้สามารถเล่นโทรศัพท์ได้ แต่ห้ามถ่ายรูปครับ
หลังจากนั้นนั้นให้ทำเอกสารที่ตรวจแล้วทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่แถวๆ ประตู เจ้าหน้าที่จะให้ไปนั่งรอเพื่อทำการ Interview (ตรงนี้ผมรอนานพอสมควร)
พอถึงคิว เจ้าหน้าที่จะเรียกทั้งแถวให้ไปต่อคิวเพื่อ Interview ครับ ตรงนี้ห้ามใช้โทรศัพท์ และห้ามถ่ายรูป ส่วนการ Interview นั้นไม่กดดัน ไม่เครียดครับ เมื่อถึงคิวให้ยื่นเอกสาร Confirmation of DS-160 + Visa Instructions + Passport (แค่สามอย่าง)
คำถามที่เจ้าหน้าที่ถามผม เป็นคำถามทั่วไป ประมาณว่า
- ตอนนี้เรียนอะไรอยู่ เรียนที่ไหน (ผมจะยื่นเอกสารจากทางมหาวิทยาลัยให้ เจ้าหน้าที่บอกไม่เป็นไร ไม่จำเป็น)
- ประเทศล่าสุดที่ไป คือประเทศอะไร
- จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ทำไมถึงอยากไป
- ที่บ้าน พ่อแม่ทำอะไร
- ออกเงินเองหรือที่บ้านออกให้ ถ้าออกเองเอาเงินมาจากไหน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะบอกผลเลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็จะได้ Passport คืนมาเลย ใช้เวลา Interview สั้นมากครับ ประมาณ 5 นาที
หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันทำการ ก็จะมี Email แจ้งว่าทางสถานทูตได้ปล่อยเล่มออกมาแล้ว ให้ไปรับคืน หรือรอจัดส่งที่บ้านครับ
ตอนรับ Passport คืน ตื่นเต้นมากว่าจะได้กี่ปี สรุปได้ 10 ปี แบบชิลๆ โดย ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไรเยอะแยะ ให้วุ่นวายเลย Happy มากๆ ครับ
ขอจบรีวิวเท่านี้ล่ะกันครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ