'ทีซีซี' โรดโชว์อสังหาฯแสนล. ดึง ตปท.ร่วมทุนเสริมโนฮาวน์
"ทีซีซีแลนด์ฯ" ขนมาสเตอร์แพลน 5 โครงการยักษ์มูลค่ากว่าแสนล้านบาท โรดโชว์ดูดนักลงทุนต่างชาติร่วมลงทุน ล่าสุดเตรียมร่วมงาน MIPIM ASIA ที่ฮ่องกงปลายปีนี้อีกครั้ง ยืนยันไม่ได้ต้องการเงินลงทุน แต่ต้องการโนฮาวน์ ความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาการลงทุน เผยนักลงทุนต่างชาติสนใจเพียบ ด้านการลงทุนธุรกิจโรงแรม ตั้งเป้าปี 2554 เปิดเพิ่ม 15 แห่ง กว่า 2,000 ห้อง จับทุกตลาด
นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหนี้ที่ฝ่ายการลงทุน บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำแผนการลงทุนระยะยาว (มาสเตอร์แพลน) โครงการขนาดใหญ่ ของกลุ่มบริษัทซึ่งได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่ในอำเภอชะอำ จ.ประจวบคีรีขันค์ , อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา, โครงการเอเชีย ทีค แวร์เฮ้าส์ (สมุทรปราการ) ,โครงการนวมินทร์ซิตี้ ย่านเกษตร-นวมินทร์ และโครงการนอร์ธ ปาร์ค นำเสนอต่อนักลงทุนต่างชาติ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการต่างๆของบริษัท โดยมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงนับแสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการลงทุนและจำนวนผู้ร่วมลงทุนในแต่ละโครงการ
นายไพสิฐ กล่าวว่า ทางบริษัทจะนำมาสเตอร์แพลนของโครงการต่างๆดังกล่าว ร่วมออกบูธในงาน MIPIM ASIA ที่ฮ่องกง ในเดือนพฤศจิกายน 2551 นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่บริษัทเข้าร่วมงานดังกล่าว จากที่ได้เข้าร่วมงานมาแล้วในปีที่ผ่านมา และในครั้นนั้นทำให้บริษัทได้พบกับนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนามาสเตอร์แพลนจากต่างชาติ เพราะการทำมาสเตอร์แพลนถือเป็นเรื่องที่ใหม่และต้องมีโครงการขนาดใหญ่มากสำหรับเอกชนไทยและไม่มีเอกชนรายใดทำมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจร่วมทุนอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯจะพิจารณาข้อเสนอของนักลงทุนเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี การนำโครงการต่างๆ ดังกล่าวเสนอต่อนักลงทุนนั้น ก็เพื่อต้องการผู้ร่วมทุนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี (โนฮาวน์) ในแต่ละกลุ่ม(เซกเมนต์)ของธุรกิจ เช่น การทำสวนสนุก โรงแรม การท่องเที่ยว ภาพยนตร์ หรืออื่นๆ ที่มีในมาสเตอร์แพลน แม้ว่าบริษัทจะมีเม็ดเงินมากพอที่จะลงทุนเองก็ตาม แต่การมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญถือเป็นเรื่องสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่นั้นต้องเกี่ยวเนื่องกับหลายหน่วยงานโดยเฉพาะภาครัฐต้องให้การสนับสนุนจึงจะประสบความสำเร็จเพราะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว ระบบสาธารณูปโภค ท้องถิ่น และเรื่องของการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ดังนั้น แต่ละโครงการจะต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาค่อนข้างนาน
อนึ่ง สำหรับที่ดินในอำเภอชะอำมีเนื้อที่ประมาณ 12,000 ไร่ ที่ล่าสุดทางบริษัททีซีซี แลนด์ฯได้ปรับรูปแบบการพัฒนาที่ดินใหม่ โดยในเบื้องต้น จะมีสนามกอล์ฟพร้อมบ้านพักริมสนามกอล์ฟ 4-5 สนาม บ้านพักอาศัยริมทะเลสาบขนาด 4,000 ไร่ ที่บริษัทฯได้ขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นอ่างเก็บน้ำ และโรงแรมระดับ 5 ดาวอีก 5-6 แห่ง โดยในส่วนของสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัย ทางบริษัทจะให้เช่าที่ดินในระยะยาวให้แก่ผู้ที่สนใจลงทุน ซึ่งในส่วนของบ้านริมทะเลสาบ บริษัทฯเชื่อมั่นจะได้รับความสนใจในการซื้อเป็นบ้านพักอาศัยหลังที่สอง เพราะเท่าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของตลาดในย่านใกล้เคียงคือ ปราณบุรี มีบ้านริมอ่างเก็บน้ำขาย 400 ยูนิต ก็พบว่าสามารถขายได้ อย่างไรก็ดีคาดว่าจะสามารถออกแบบแล้วเสร็จภายในปีนี้และเริ่มลงมือก่อสร้างสาธารณูปโภคในปี 2552 (เฉพาะค่าออกแบบมาสเตอร์แปลน ซึ่งว่าจ้างบริษัทต่างประเทศเป็นผู้ออกแบบ ต้องใช้เงินสูงถึง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งจะใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท เฉพาะแค่ถนนเพียงอย่างเดียวใช้เงินลงทุนนับพันล้านแล้ว ไม่นับรวมการขุดที่ดินทำอ่างเก็บน้ำอีก 4,000 ไร่ตามที่กล่าวมาในข้างต้น โดยอาจจะมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพราะคล้ายกับนิคมอุตสหกรรม
ที่ดินในย่านอำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ 3,000 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์การลงทุนว่า จะพัฒนาเป็นศูนย์กีฬาหรือศูนย์ลอจิสติกส์ดี เพราะตนมองว่าน่าจะใช้ที่ดินในย่านบางนาพัฒนาเป็นศูนย์ลอจิสติกส์จะเหมาะสมกว่า ในขณะที่กลุ่มทุนที่จะมาลงทุนในธุรกิจลอจิสติกส์อยากได้ที่ดินที่บางไทร นอกจากนั้นแล้ว ที่ดินแปลงอื่นๆ ยังไม่มีความคืบหน้า
ในส่วนโครงการนวมินทร์ซิตี้ ย่านเกษตร-นวมินทร์ จะมีพื้นที่ 320 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองขนาดใหญ่และศูนย์การค้ารูปแบบไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ล่าสุดได้จับมือบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "SF"ลงทุนศูนย์การค้าในเฟสแรก และมีโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับพรีเมียมที่บริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอนแลนด์ จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แลนด์ฯและบริษัท แคปปิตอล แลนด์ฯจากสิงคโปร์ สัดส่วน60:40% )เป็นผู้พัฒนา ราคาเริ่มต้นที่ 40-120 ล้านบาท และโครงการนอร์ธ ปาร์ค จะมีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ โดยเมื่อช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการ นอร์ธ ปาร์ค เพลส มูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 53 นอกจากนี้ ยังมีสนามกอล์ฟไว้ให้บริการ เป็นต้น
**วางเป้าปี54 เปิดโรงแรม 15 แห่ง
นายไพสิฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนโรงแรมนั้น ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโรงแรมจำนวน 35 แห่ง อยู่ในไทย 25 แห่ง ในต่างประเทศ 10 แห่ง และในปี 2554 มีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มอีก 15 แห่ง ประมาณ 2,000 ห้อง โดยมีค่าเช่าต่อคืนตั้งแต่ระดับราคาไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลายหมื่นบาท
“ทีซีซี แลนด์ฯจะเข้าไปในตลาดที่เรายังไม่ได้ไป ดูภาพเหมือนทีซีซีฯเร่งการลงทุนแต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจ เราจะเร่งการลงทุนตามผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ ซึ่งมีแผนที่จะลงทุนหลายที่ หลายทำเล ทั้งในภูเก็ต ,สมุย ,พัทยา กระบี่ และหัวเมืองใหญ่ๆ เมืองท่องเที่ยวเราจะไปลงทุนหมด ”
ก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหารทีซีซี แลนด์ฯ ระบุว่า ในปี 2551 จะลงทุนรวมเกือบ 10,000 ล้านบาท โดยจำนวนนี้กว่า 7,000 ล้านบาท จะลงในธุรกิจโรงแรม 8 แห่ง ได้แก่ โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ เชียงใหม่, สมุย 2 แห่ง, และสุขุมวิท 24 นอกจากนี้จะมี Budget Hotel โรงแรมราคาประหยัด (คืนละ 700 บาท) อีก 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, สุขุมวิท 50, หัวหิน, และสมุย
# มาสเตอร์ แพลน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
https://ppantip.com/topic/36179856
อ่านต่อ...........
http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000063914&TabID=3&
'ทีซีซี' โรดโชว์อสังหาฯแสนล. ดึง ตปท.ร่วมทุนเสริมโนฮาวน์
"ทีซีซีแลนด์ฯ" ขนมาสเตอร์แพลน 5 โครงการยักษ์มูลค่ากว่าแสนล้านบาท โรดโชว์ดูดนักลงทุนต่างชาติร่วมลงทุน ล่าสุดเตรียมร่วมงาน MIPIM ASIA ที่ฮ่องกงปลายปีนี้อีกครั้ง ยืนยันไม่ได้ต้องการเงินลงทุน แต่ต้องการโนฮาวน์ ความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาการลงทุน เผยนักลงทุนต่างชาติสนใจเพียบ ด้านการลงทุนธุรกิจโรงแรม ตั้งเป้าปี 2554 เปิดเพิ่ม 15 แห่ง กว่า 2,000 ห้อง จับทุกตลาด
นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหนี้ที่ฝ่ายการลงทุน บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำแผนการลงทุนระยะยาว (มาสเตอร์แพลน) โครงการขนาดใหญ่ ของกลุ่มบริษัทซึ่งได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่ในอำเภอชะอำ จ.ประจวบคีรีขันค์ , อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา, โครงการเอเชีย ทีค แวร์เฮ้าส์ (สมุทรปราการ) ,โครงการนวมินทร์ซิตี้ ย่านเกษตร-นวมินทร์ และโครงการนอร์ธ ปาร์ค นำเสนอต่อนักลงทุนต่างชาติ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการต่างๆของบริษัท โดยมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงนับแสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการลงทุนและจำนวนผู้ร่วมลงทุนในแต่ละโครงการ
นายไพสิฐ กล่าวว่า ทางบริษัทจะนำมาสเตอร์แพลนของโครงการต่างๆดังกล่าว ร่วมออกบูธในงาน MIPIM ASIA ที่ฮ่องกง ในเดือนพฤศจิกายน 2551 นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่บริษัทเข้าร่วมงานดังกล่าว จากที่ได้เข้าร่วมงานมาแล้วในปีที่ผ่านมา และในครั้นนั้นทำให้บริษัทได้พบกับนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนามาสเตอร์แพลนจากต่างชาติ เพราะการทำมาสเตอร์แพลนถือเป็นเรื่องที่ใหม่และต้องมีโครงการขนาดใหญ่มากสำหรับเอกชนไทยและไม่มีเอกชนรายใดทำมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจร่วมทุนอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯจะพิจารณาข้อเสนอของนักลงทุนเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี การนำโครงการต่างๆ ดังกล่าวเสนอต่อนักลงทุนนั้น ก็เพื่อต้องการผู้ร่วมทุนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี (โนฮาวน์) ในแต่ละกลุ่ม(เซกเมนต์)ของธุรกิจ เช่น การทำสวนสนุก โรงแรม การท่องเที่ยว ภาพยนตร์ หรืออื่นๆ ที่มีในมาสเตอร์แพลน แม้ว่าบริษัทจะมีเม็ดเงินมากพอที่จะลงทุนเองก็ตาม แต่การมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญถือเป็นเรื่องสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่นั้นต้องเกี่ยวเนื่องกับหลายหน่วยงานโดยเฉพาะภาครัฐต้องให้การสนับสนุนจึงจะประสบความสำเร็จเพราะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว ระบบสาธารณูปโภค ท้องถิ่น และเรื่องของการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ดังนั้น แต่ละโครงการจะต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาค่อนข้างนาน
อนึ่ง สำหรับที่ดินในอำเภอชะอำมีเนื้อที่ประมาณ 12,000 ไร่ ที่ล่าสุดทางบริษัททีซีซี แลนด์ฯได้ปรับรูปแบบการพัฒนาที่ดินใหม่ โดยในเบื้องต้น จะมีสนามกอล์ฟพร้อมบ้านพักริมสนามกอล์ฟ 4-5 สนาม บ้านพักอาศัยริมทะเลสาบขนาด 4,000 ไร่ ที่บริษัทฯได้ขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นอ่างเก็บน้ำ และโรงแรมระดับ 5 ดาวอีก 5-6 แห่ง โดยในส่วนของสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัย ทางบริษัทจะให้เช่าที่ดินในระยะยาวให้แก่ผู้ที่สนใจลงทุน ซึ่งในส่วนของบ้านริมทะเลสาบ บริษัทฯเชื่อมั่นจะได้รับความสนใจในการซื้อเป็นบ้านพักอาศัยหลังที่สอง เพราะเท่าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของตลาดในย่านใกล้เคียงคือ ปราณบุรี มีบ้านริมอ่างเก็บน้ำขาย 400 ยูนิต ก็พบว่าสามารถขายได้ อย่างไรก็ดีคาดว่าจะสามารถออกแบบแล้วเสร็จภายในปีนี้และเริ่มลงมือก่อสร้างสาธารณูปโภคในปี 2552 (เฉพาะค่าออกแบบมาสเตอร์แปลน ซึ่งว่าจ้างบริษัทต่างประเทศเป็นผู้ออกแบบ ต้องใช้เงินสูงถึง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งจะใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท เฉพาะแค่ถนนเพียงอย่างเดียวใช้เงินลงทุนนับพันล้านแล้ว ไม่นับรวมการขุดที่ดินทำอ่างเก็บน้ำอีก 4,000 ไร่ตามที่กล่าวมาในข้างต้น โดยอาจจะมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพราะคล้ายกับนิคมอุตสหกรรม
ที่ดินในย่านอำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ 3,000 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์การลงทุนว่า จะพัฒนาเป็นศูนย์กีฬาหรือศูนย์ลอจิสติกส์ดี เพราะตนมองว่าน่าจะใช้ที่ดินในย่านบางนาพัฒนาเป็นศูนย์ลอจิสติกส์จะเหมาะสมกว่า ในขณะที่กลุ่มทุนที่จะมาลงทุนในธุรกิจลอจิสติกส์อยากได้ที่ดินที่บางไทร นอกจากนั้นแล้ว ที่ดินแปลงอื่นๆ ยังไม่มีความคืบหน้า
ในส่วนโครงการนวมินทร์ซิตี้ ย่านเกษตร-นวมินทร์ จะมีพื้นที่ 320 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองขนาดใหญ่และศูนย์การค้ารูปแบบไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ล่าสุดได้จับมือบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "SF"ลงทุนศูนย์การค้าในเฟสแรก และมีโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับพรีเมียมที่บริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอนแลนด์ จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แลนด์ฯและบริษัท แคปปิตอล แลนด์ฯจากสิงคโปร์ สัดส่วน60:40% )เป็นผู้พัฒนา ราคาเริ่มต้นที่ 40-120 ล้านบาท และโครงการนอร์ธ ปาร์ค จะมีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ โดยเมื่อช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการ นอร์ธ ปาร์ค เพลส มูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 53 นอกจากนี้ ยังมีสนามกอล์ฟไว้ให้บริการ เป็นต้น
**วางเป้าปี54 เปิดโรงแรม 15 แห่ง
นายไพสิฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนโรงแรมนั้น ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโรงแรมจำนวน 35 แห่ง อยู่ในไทย 25 แห่ง ในต่างประเทศ 10 แห่ง และในปี 2554 มีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มอีก 15 แห่ง ประมาณ 2,000 ห้อง โดยมีค่าเช่าต่อคืนตั้งแต่ระดับราคาไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลายหมื่นบาท
“ทีซีซี แลนด์ฯจะเข้าไปในตลาดที่เรายังไม่ได้ไป ดูภาพเหมือนทีซีซีฯเร่งการลงทุนแต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจ เราจะเร่งการลงทุนตามผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ ซึ่งมีแผนที่จะลงทุนหลายที่ หลายทำเล ทั้งในภูเก็ต ,สมุย ,พัทยา กระบี่ และหัวเมืองใหญ่ๆ เมืองท่องเที่ยวเราจะไปลงทุนหมด ”
ก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหารทีซีซี แลนด์ฯ ระบุว่า ในปี 2551 จะลงทุนรวมเกือบ 10,000 ล้านบาท โดยจำนวนนี้กว่า 7,000 ล้านบาท จะลงในธุรกิจโรงแรม 8 แห่ง ได้แก่ โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ เชียงใหม่, สมุย 2 แห่ง, และสุขุมวิท 24 นอกจากนี้จะมี Budget Hotel โรงแรมราคาประหยัด (คืนละ 700 บาท) อีก 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, สุขุมวิท 50, หัวหิน, และสมุย
# มาสเตอร์ แพลน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี https://ppantip.com/topic/36179856
อ่านต่อ........... http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000063914&TabID=3&