นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน)
หรือ BROCK เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในปี 2556 คาดว่าจะ
เติบโตประมาณ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 123.65 ล้านบาท หลังแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
บ้านเดี่ยวก็มีทิศทางเติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการในต่างจังหวัดที่ยังมีความต้องการสูงทั้งใน
โครงการที่จังหวัดภูเก็ตและโครงการที่จังหวัดระยอง ทำให้มั่นใจว่า กำไรปีนี้มีโอกาสเติบโตกว่าปี
ก่อนที่มีกำไร 30.66 ล้านบาท
โดยเป็นการเติบโตตามทิศทางเดียวกับรายได้บริษัทฯที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับที่ดินที่รอการพัฒนาของบริษัทฯ(แลนด์แบงก์)ก็ยังมีต้นทุนที่ต่ำมาก หากนำไปพัฒนา
เพื่อขายในเชิงพาณิชย์โดยปีนี้บริษัทฯก็จะปรับเพิ่มราคาขายอีกประมาณ 5% ขณะที่ยอดขายที่ยัง
ไม่ได้บันทึกเข้ามาเป็นรายได้(Backlog)ปัจุบัน มีอยู่ประมาณ 50-60 ล้านบาท
'กำไรในปีที่ผ่านมาโตค่อนข้างมาก เพราะบริษัทฯเน้นกลยุทธ์การเติบโตของมาจิ้น
ซึ่งปีนี้ก็จะปรับเพิ่มราคาขายอีก 5% ทำให้อัตรากำไรก็จะสูงขึ้นอีก และรวมไปถึงต้นทุนบริษัทฯ
ค่อนข้างต่ำในเเง่ของที่ดิน เพราะที่ดินแลนด์แบงค์ของบริษัทฯมีต้นทุนที่ต่ำมาก' นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มทุนประเทศ
เกาหลี เพื่อมาเป็นพันธมิตรในการก่อสร้างโรงแรมเพิ่มในจังหวัดภูเก็ต โดยมีมูลค่าราว 100-
200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผลการเจรจาจะมีความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/2556 สำหรับสัด
ส่วนการลงทุนร่วมกันกับกลุ่มทุนเกาหลีเบื้องต้นบริษัทฯจะถือหุ้นมากกว่า โดยคาดว่าจะถือสัด
ส่วน 60% และกลุ่มทุนเกาหลีถือสัดส่วน 40%
นอกจากนี้ บริษัทฯก็มีแผนที่จะดำเนินโครงการเพิ่ม ภายหลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุน
กับกลุ่มทุนสวีเดน ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 บนเนื้อที่ของบริษัทฯในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้า
นี้ได้พัฒนาโครงการบนที่ดินเฟส 1 ไปแล้ว อาทิ โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ติดริมทะเล จำนวน 60-
70 ห้อง,บ้านพักตากอากาศระดับหรูและท่าเทียบเรือยอตซ์ ดังนั้นยังเหลือที่ดินรอพัฒนาอีกหลาย
ร้อยไร่ ซึ่งก็กำลังเจรจาอยู่ว่าจะดำเนินการโครงการในรูปแบบใดต่อไป
สำหรับ ปีนี้บริษัทฯตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะนำไปพัฒนาก่อ
สร้างโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อสร้างยอดขายให้เพิ่ม
ขึ้นรองรับการเติบโตบริษัทฯในอนาคต และคาดว่ายอดขายจะเติบโตอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท และ
ปีนี้จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มในจังหวัดภูเก็ตอีก 1 โครงการมูลค่าราว 300 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นนั้น นายวิรัตน์ ยอมรับว่า ราคา
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นกับผลประกอบการที่ออกมานั้นไม่ได้สอดคล้องกันเท่าใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านัก
ลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทฯคงจะมองเห็นมูลค่าสินทรัพย์ที่มากกว่าผลประกอบการที่ออกมา
และยังรวมไปถึงศักยภาพการบริหารต้นทุนบริษัทฯที่ดีจากการที่มีที่ดินแลนด์แบงก์เป็นจำนวน
มากซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 700-800 ไร่ ทำให้บริษัทฯจึงได้เปรียบในเรื่องของการแข่งขันต้นทุน
ที่ดินที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น
'ผมคงพูดไม่ได้เรื่องราคาหุ้น แต่ยอมรับว่าผลงานที่ออกมาไม่ได้รองรับกับราคาตอน
นี้ แต่คนที่เข้ามาซื้อคงไปมองสินทรัพย์ที่มีอยู่มากกว่า' นายวิรัตน์ กล่าว
ราคาหุ้น BROCK อยู่ที่ 2.78 บาทเพิ่มขึ้น 0.38 บาทหรือ
15.83 % มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 20.68 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบราคาหุ้น BROCK พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำ
การ โดยราคาปิดวันที่ 11 มี.ค. 2556 ที่ระดับ 1.97 บาท และทำราคาสูงสุดวันนี้ที่ระดับ 2.94
บาท เปลี่ยนแปลง 0.97 บาทหรือ 49.23%
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย
++++
++++
BROCK พุ่ง 49.23% ผบห. ชี้ นลท. มั่นใจมูลค่าสินทรัพย์บริษัท ตั้งเป้ารายได้โต 20% แย้มร่วมทุนเกาหลี ผุดโรงแรมหรู ในภูเก็ต
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน)
หรือ BROCK เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในปี 2556 คาดว่าจะ
เติบโตประมาณ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 123.65 ล้านบาท หลังแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
บ้านเดี่ยวก็มีทิศทางเติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการในต่างจังหวัดที่ยังมีความต้องการสูงทั้งใน
โครงการที่จังหวัดภูเก็ตและโครงการที่จังหวัดระยอง ทำให้มั่นใจว่า กำไรปีนี้มีโอกาสเติบโตกว่าปี
ก่อนที่มีกำไร 30.66 ล้านบาท
โดยเป็นการเติบโตตามทิศทางเดียวกับรายได้บริษัทฯที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับที่ดินที่รอการพัฒนาของบริษัทฯ(แลนด์แบงก์)ก็ยังมีต้นทุนที่ต่ำมาก หากนำไปพัฒนา
เพื่อขายในเชิงพาณิชย์โดยปีนี้บริษัทฯก็จะปรับเพิ่มราคาขายอีกประมาณ 5% ขณะที่ยอดขายที่ยัง
ไม่ได้บันทึกเข้ามาเป็นรายได้(Backlog)ปัจุบัน มีอยู่ประมาณ 50-60 ล้านบาท
'กำไรในปีที่ผ่านมาโตค่อนข้างมาก เพราะบริษัทฯเน้นกลยุทธ์การเติบโตของมาจิ้น
ซึ่งปีนี้ก็จะปรับเพิ่มราคาขายอีก 5% ทำให้อัตรากำไรก็จะสูงขึ้นอีก และรวมไปถึงต้นทุนบริษัทฯ
ค่อนข้างต่ำในเเง่ของที่ดิน เพราะที่ดินแลนด์แบงค์ของบริษัทฯมีต้นทุนที่ต่ำมาก' นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มทุนประเทศ
เกาหลี เพื่อมาเป็นพันธมิตรในการก่อสร้างโรงแรมเพิ่มในจังหวัดภูเก็ต โดยมีมูลค่าราว 100-
200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผลการเจรจาจะมีความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/2556 สำหรับสัด
ส่วนการลงทุนร่วมกันกับกลุ่มทุนเกาหลีเบื้องต้นบริษัทฯจะถือหุ้นมากกว่า โดยคาดว่าจะถือสัด
ส่วน 60% และกลุ่มทุนเกาหลีถือสัดส่วน 40%
นอกจากนี้ บริษัทฯก็มีแผนที่จะดำเนินโครงการเพิ่ม ภายหลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุน
กับกลุ่มทุนสวีเดน ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 บนเนื้อที่ของบริษัทฯในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้า
นี้ได้พัฒนาโครงการบนที่ดินเฟส 1 ไปแล้ว อาทิ โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ติดริมทะเล จำนวน 60-
70 ห้อง,บ้านพักตากอากาศระดับหรูและท่าเทียบเรือยอตซ์ ดังนั้นยังเหลือที่ดินรอพัฒนาอีกหลาย
ร้อยไร่ ซึ่งก็กำลังเจรจาอยู่ว่าจะดำเนินการโครงการในรูปแบบใดต่อไป
สำหรับ ปีนี้บริษัทฯตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะนำไปพัฒนาก่อ
สร้างโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อสร้างยอดขายให้เพิ่ม
ขึ้นรองรับการเติบโตบริษัทฯในอนาคต และคาดว่ายอดขายจะเติบโตอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท และ
ปีนี้จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มในจังหวัดภูเก็ตอีก 1 โครงการมูลค่าราว 300 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นนั้น นายวิรัตน์ ยอมรับว่า ราคา
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นกับผลประกอบการที่ออกมานั้นไม่ได้สอดคล้องกันเท่าใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านัก
ลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทฯคงจะมองเห็นมูลค่าสินทรัพย์ที่มากกว่าผลประกอบการที่ออกมา
และยังรวมไปถึงศักยภาพการบริหารต้นทุนบริษัทฯที่ดีจากการที่มีที่ดินแลนด์แบงก์เป็นจำนวน
มากซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 700-800 ไร่ ทำให้บริษัทฯจึงได้เปรียบในเรื่องของการแข่งขันต้นทุน
ที่ดินที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น
'ผมคงพูดไม่ได้เรื่องราคาหุ้น แต่ยอมรับว่าผลงานที่ออกมาไม่ได้รองรับกับราคาตอน
นี้ แต่คนที่เข้ามาซื้อคงไปมองสินทรัพย์ที่มีอยู่มากกว่า' นายวิรัตน์ กล่าว
ราคาหุ้น BROCK อยู่ที่ 2.78 บาทเพิ่มขึ้น 0.38 บาทหรือ
15.83 % มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 20.68 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบราคาหุ้น BROCK พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำ
การ โดยราคาปิดวันที่ 11 มี.ค. 2556 ที่ระดับ 1.97 บาท และทำราคาสูงสุดวันนี้ที่ระดับ 2.94
บาท เปลี่ยนแปลง 0.97 บาทหรือ 49.23%
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย
++++ ++++