การเดินทางมาเที่ยววัดทั่วจังหวัดสระบุรี โดยเป้าหมายหาวัดเก่าที่มีโบสถ์เก่า มีศิลปะทางสถาปัตยกรรม งานลวดลายปูนปั้น งานแกะสลักไม้ งานภาพเขียนจิตรกรรม
รถสองแถวสอง สระบุรี – หนองโน – บัวลอย
1.วัดหนองโนเหนือ อ.เมือง จ.สระบุรี
สร้างเป็นวัด ใน พ.ศ.2363 ตรงกับสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2373 ในอุโบสถวัดหนองโนเหนือ
พระประธานอุโบสถหลังเก่า นามว่า หลวงพ่อม่วงแห้ง
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม โดยเขียนภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ
ภาพพระเวสสันดรชาดก ภาพเรื่องจันทโครพและวิถีชีวตชาวไทยวน นอกจากนี้ที่บานประตูโบสถ์เป็นรูป เทวดา และรูปยักษ์ เฝ้าบานประตูทั้งสองข้าง
2.วัดสมุหประดิษฐาราม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นตระกูลกัลยาณมิตร สร้างเพื่ออุทิศให้แก่มารดา เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง สันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 4 และครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการในจังหวัดสระบุรี ก่อนถูกยกเลิกไปภายหลังภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ได้แก่
พระประธานไม่มีพระนาม เป็นพระหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย อัญเชิญมาจากเมืองเก่าสุโขทัย และมีพระอัครสาวกหล่อลงรักปิดทอง 2 องค์ นั่งพับเพียบประนมมืออยู่เบื้องซ้ายและขวา
พระอุโบสถทรงไทยเฉลียง 2 ชั้น หน้าบันเป็นปูนปั้นลวดลายดอกไม้และรูปสิงห์
ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังภาพขบวนแห่งานพิธีถวายกระทงเสียหัว ซึ่งเป็นประเพณีพื้นบ้านท้องถิ่น และภาพกลุ่มสตรีชาวล้านนา การแต่งกาย และวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต
พระเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม สูงประมาณ 7 วาเศษ มีบันได 4 ด้าน ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ห่างจากกำแพงแก้ว
เที่ยวชม วัดเก่า โบสถ์เก่า ของจังหวัดสระบุรี
รถสองแถวสอง สระบุรี – หนองโน – บัวลอย
1.วัดหนองโนเหนือ อ.เมือง จ.สระบุรี
สร้างเป็นวัด ใน พ.ศ.2363 ตรงกับสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2373 ในอุโบสถวัดหนองโนเหนือ
พระประธานอุโบสถหลังเก่า นามว่า หลวงพ่อม่วงแห้ง
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม โดยเขียนภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ
ภาพพระเวสสันดรชาดก ภาพเรื่องจันทโครพและวิถีชีวตชาวไทยวน นอกจากนี้ที่บานประตูโบสถ์เป็นรูป เทวดา และรูปยักษ์ เฝ้าบานประตูทั้งสองข้าง
2.วัดสมุหประดิษฐาราม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นตระกูลกัลยาณมิตร สร้างเพื่ออุทิศให้แก่มารดา เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง สันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 4 และครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการในจังหวัดสระบุรี ก่อนถูกยกเลิกไปภายหลังภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ได้แก่
พระประธานไม่มีพระนาม เป็นพระหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย อัญเชิญมาจากเมืองเก่าสุโขทัย และมีพระอัครสาวกหล่อลงรักปิดทอง 2 องค์ นั่งพับเพียบประนมมืออยู่เบื้องซ้ายและขวา
พระอุโบสถทรงไทยเฉลียง 2 ชั้น หน้าบันเป็นปูนปั้นลวดลายดอกไม้และรูปสิงห์
ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังภาพขบวนแห่งานพิธีถวายกระทงเสียหัว ซึ่งเป็นประเพณีพื้นบ้านท้องถิ่น และภาพกลุ่มสตรีชาวล้านนา การแต่งกาย และวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต
พระเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม สูงประมาณ 7 วาเศษ มีบันได 4 ด้าน ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ห่างจากกำแพงแก้ว