สวัสดีครับวันนี้มาปล่อยรีวิวกันหน่อยหลังจากที่ห่างหายไปนานช่วงนี้งานยุ่งๆไม่มีเวลาได้ออกทริปเลย พอดีกับแอร์เอเซียมีโปรมา เลยจัดสักหน่อย หลังจากได้ตั๋วโปรมาก็วางแผนกับเพื่อนคนเดิมจะไปไหนกันดีที่เดินทางสะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพ สุดท้ายลงเอยที่นี่ครับ " อ ยุ ธ ย า " เมืองเก่าของเราแต่ก่อน

เดินทางตั้งแต่เช้ามืดออกจากท่าอากาศยานกระบี่กับสายการบินแอร์เอเซียไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นครั้งแรกที่เดินทางเช้ามืดแบบนี้แต่ก็ดีได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ช่วงพระอาทิตย์เหนือเมฆนี้มันงามสวยงามจริงๆ 1 ชั่วโมงกับ 15 นาทีจากกระบี่เครื่องลงจอดสู่ทางอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ

ออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปต่อรถไฟที่ สถานีดอนเมือง จัดการหาตั๋วเพื่อไปต่อยังอยุธยา จุดหมายหลักของทริปในครั้งนี้ ราคาตั๋วถูกแสนถูกใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง มุ่งหน้าสู่สถานีอยุธยา เสียงนกหวีดรถไฟเทียบชานชลา ทริปครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ทริปนี้จะไปไหนบ้าง ตามมาเลยครับ...

ถึงแล้ว... " อ ยุ ธ ย า " เมืองเก่า

เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวของอยุธยาจะตั้งอยู่เป็นวงรอบ วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดต้องเช่ารถมอเตอร์ไซด์เพราะเดินทางสะดวกเพราะแต่ละที่จะห่างกันไม่ไกลมากมัก ร้านเช่ารถมอเตอร์สามารถหาเช่าได้ที่หน้าสถานีรถไฟเลยครับ มีหลายร้าน หลายราคา หลายยี่ห้อ ราคาเช่าวันละประมาณ 200 บาท มัดจำบัตรประชาชน และได้จะได้แผนที่มา รถพร้อม แผนที่พร้อม ลุยกันเลย

แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดอยุธยา จาก www.tourismthailand.org

นี่คือจุดแรกจุดเริ่มต้น เป็นวัดที่เก่าแก่และมีประวัติที่ไม่แน่ชัด บ้างบอกปี พ.ศ. 1917 บ้างบอกปี พ.ศ. 1927 อย่างไรก็ตาม ได้ใช้เวลาก่อสร้างไปเป็นจำนวนมาก ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ ปรางค์ของวัดเดิมสร้างด้วยศิลาแลง แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดังเดิมในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่ รวมเป็นความสูง 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงมาอีกรอบในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำกำลังทหารไปช่วยกันสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้สักและได้สถาปนาให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และพระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงอยู่ที่นั้นตลอด ข้อมูล : https://th.wikipedia.org

จุดเด่นของวัดนี้ เศียรพระพุทธรูปหินทราย สมัยอยุธยาในรากต้นโพธิ์ใกล้วิหารของวัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้มาเยี่ยมชมและถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาซึ่งได้รับการพิจารณาให้แหล่งมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2534

ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดมหาธาตุ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ภายในวัดประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งล้อมรอบด้วย ระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทาง ทิศตะวันออก ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดทางทิศตะวันตกในแนวประธานเดียวกัน วัดราชบูรณะ โด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่ และประชาชนยังสามารถลงไปชมภาพจิตรกรรมฝาฝนังสมัยอยุธยาตอนต้น ภายในกรุได้ด้วย วัดราชบูรณะจึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ ข้อมูล : https://watboran.wordpress.com

ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เป็นวัดพุทธาวาสที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่น แต่ยังคงเป็นจุดที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เยี่ยมชม อยู่เสมอ และเมื่อได้ลองจินตนาการดูก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดพระจำพระราชวังในสมัยนั้น

ผ่านมา 3 วัดเแล้วก็อากาศร้อนแทบละลาย เที่ยงพอดีพลังเริ่มหมด ต้องหาของลงท้องก่อนแล้ว แวะพักซะหน่อย มาอยุธยาทั้งทีต้องอย่าพลาด ก๋วยเตี๋ยวเรือ ของเด็ดของดังของที่นี่ จัดไปเลยครับ

อิ่มแล้วพลังเต็มที่ ไปต่อกันเลยครับ

ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็ตั้งอยู่ริม แม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดหนึ่ง ที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆ ในอยุธยา และเนื่องจากกรมศิลปากรได้ดำเนินการ บูรณะตลอดมาจนปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งผู้ไปเยือนไม่ควรพลาด