ถ้าจะพูดถึงจังหวัดที่มีวัดเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศก็คงจะหนีไปพ้นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อย่างที่เราทราบกันดีว่าพระนครศรีอยุธยาเคยเป็นเมืองหลวงของสยาม ตลอดระยะเวลา 417 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 1893 และในสมัยนั้นเป็นสมัยที่พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองอย่างมาก จึงทำให้เกิดวัดมากมาย ผมได้มีโอกาสไปที่จังหวัดอยุธยาแต่ผมมีเวลาแค่วันเดียว เช้า เย็นกลับ เลยเก็บภาพมาฝากว่าจริงๆ แล้วในเวลา 1 วันเราจะเที่ยววัดในอยุธยา ได้กี่วัดถึง 9 วัดหรือไม่
Facebook fanpage : https://www.facebook.com/GoOutLetYouSee/


วัดส่วนใหม่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าชม ราคาก็จะอยู่ที่ คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท

วัดแรกผมเริ่มจากวัดวัดมหาธาตุ พระปรางค์ของวัดเดิมส่วนใหญ่สร้างด้วยศิลาแลง มีการพังลงมาตามการเวลา บางองค์ได้ถูกซ่อมแซม แต่บางองค์ก็ยังคงไว้ซึ้งความเสียหายที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา

ภาพเศียรพระในรากต้นโพธิ์ เกิดขึ้นช่วงบูรณะสมัยก่อน ซึ่งมีโบราณวัตถุมาเรียงกันไว้จำนวนมาก จนกระทั่งรากของต้นโพธิ์ขึ้นมาหุ้มเศียรพระ เป็นภาพที่สวยงามข้ามกาลเวลาจริงๆ ครับ

องค์พระพุทธรูปที่ตั้งตระหง่าน มาเป็นเวลาหลายปี ผ่านฝน ผ่านหนาวมา ยังคงความขลังเหมือนเช่นเดิม

พระพุทธรูปที่ถูกตั้งไว้ใกล้กับกำแพงของพระปรางค์ ที่เกิดความเสียหายส่วนมากจะเกิดจากการตัดเศียรพระในช่วงสงคราม และหลังจากนั้นด้วยน้ำมือของคนไทยเราเอง

มีพระปรางค์มากหมายถูกสร้างอยู่รายล้อมพื้นที่

มีนักท้องเที่ยวเข้ามาชมไม่ขาดสาย บางกลุ่ม บางคน ก็ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำเช่น ปีนปายขึ้นไปถ่ายรูปในที่ที่เขาห้ามไว้

พระปรางค์ขนาดเล็กทางเข้าวัดมหาธาตุ....

จุดจำหน่ายตั๋วเพื่ออเข้าชม

มีกการแต่งตัวย้อนยุคเยอะมากกกก และมีร้านให้เช่าชุดไทยเยอะมากกก ไม่รู้ยุคไหนเป็นยุคไหน

อันนี้เขาเรียกว่ารถอะไรผมจำไม่ได้ แต่เป็นรถที่สามารพาเราเที่ยวรอบเกาะได้ สีสันหวานเย็นมาก5555

ทางเข้าวัดราชบูรณะ วัดนี้ผมไม่ได้เข้าเพราะเวลาผมจำกัดมาก วันนี้จะตั้งอยู่ข้างๆ วันมหาธาตุเลยครับ

ระหว่างทางหลังจากขับรถจะไปที่วัดต่อไปก็เจอรถขายมะพร้าว เขาบอกมะพร้าวบ้านแพ้ว555 แต่ป้ายทะเบียนรถเขาอ่างทอง เขาคงขยันน่าดูถึงไปรับมะพร้าวจากบ้านแพ้วมาขายถึงนี้5555

ขี่ช้างจับหนุ่มเกาหลี555 ช้างมันจะตกใจมั้ยอะ วิ่งตามกันขนาดนั้น

ต่อมาผมมาต่อที่วิหารพระมงคลบพิตร

พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปประธานประจำวิหารพระมงคลบพิตร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในรัชกาลใดแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่มีการสันนิษฐานว่าสร้างใน สมัยอยุธยาตอนต้นระหว่างปี พ.ศ. 1991 – 2145

ข้างๆ จะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ที่ถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

จุดเด่นของวัดพระศรีสรรเพชญ์ คือเจดีย์ทั้ง 3 องค์ที่อยู่ตรงกลางของวัดที่ใช้เก็บพระบรมอัฐิของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชบิดา และสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐา และพระบรมอัฐิของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2

และยังมีเจดีย์อีกหลายองค์ที่สร้างอื่นอยู่รอบๆ วัด

เดินเล่นถ่ายรูปก็รู้สึกถึงความขลังได้ในหลายๆ มุมเลยครับ

ความศรัทธาเป็นแรงทำให้มนุษย์ สร้างสรรค์สิ่งที่สวยงาม

อีกมุมหนึ่งของเจดีย์ทั้ง 3 องค์

จากด้านหลังของวัด

มนต์เสน่ห์ของเมืองเก่า

น้องขึ้นไปเดินเล่นซะสูงเลย55555

ต่อมาที่วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดยอดฮิตที่จะต้องมาถ่ายรูปเก็บเป็นความทรงจำ

วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2173

รูปนี้ผมชอบนะถ้าไม่ติดที่ว่ามีชาวต่างชาติมาทำอย่างในภาพ

พระปรางค์ที่เดินทางข้ามกาลเวลาและยุคสมัย

วัดไชยวัฒนาราม มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน พระปรางค์ประธานนำรูปแบบของพระปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้นมาก่อสร้าง แต่ปรางค์ประธานที่วัดไชยวัฒนารามทำมุขทิศยื่นออกมามากกว่า

มีการบูรณะกันอย่างต่อเนื่อง

อากาศเหมือนฝนจะตก ถ้าฟ้าสดใสจะสวยกว่านี้มากๆ เลย

ถูกสร้างจากมนุษย์ ก็ถูกทำลายจากน้ำมือมนุษย์

เคยคิดสงสัยว่าสมัยนั้นพวกเขาสร้างสิ่งเหล่านี้กันได้ยังไง


ก่อนจากวัดนี้ขออีกสักภาพ

วัดต่อมาคือวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่ใครๆ มาก็ต้องมากราบไหว้ โดยเฉพาะพระนอนองค์สีขาวขนาดใหญ่

จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ

ทางขึ้นเจดีย์องค์ใหญ่ของวัด ผมไม่ได้ขึ้นไปนะครับรอบนี้แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยขึ้นไปก็จะมีช่องมองลงไปที่เคยเป็นที่เก็บชัยมงคลคาถา แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหรียญของนักท่องเที่ยวและ

วัดสุดท้ายก่อนที่จะมืดคือวัดวัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่มีพระพุทธไตรรัตนนายก เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา ประดิษฐานอยู่ ผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถทำการห่มผ้าพระได้ตามเวลาอีกด้วย วัดตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลยเลยครับ

ก็ฝากไว้ประมาณนี้ครับถ้าอยากดูทริปอื่นๆ ของผมก็สามารถเข้าไปกดติดตามแฟนเพจผมได้ตามลิ้งด้านล่างนะครับ
Facebook fanpage : https://www.facebook.com/GoOutLetYouSee/