https://www.facebook.com/LaewTaeAhLom/

อิ่มบุญ อิ่มใจ ณ "อยุธยา"

วันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่รู้ว่าจะไปไหน มาที่นี่กันเถอะ ขับรถจากกรุงเทพมาอยุธยาเพียง 1 ชั่วโมง หรือจะนั่งรถไฟมาก็ได้นะ ใกล้กรุงเทพนิดเดียวเอง
เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย รายล้อมด้วยวัดต่างๆ และเป็นขอบเขตมรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่ไม่มีอำเภอเมือง ซึ่งศูนย์กลางของจังหวัดคืออำเภอพระนครศรีอยุธยา (ชาวบ้านจะนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "กรุงเก่า" หรือ "เมืองกรุงเก่า")

>> แพลน การท่องเที่ยวของเราในวันนี้คือ“ทำบุญ 5 วัด ณ อยุธยา”
1.วัดมหาธาตุ 2.วัดพระราม3.วัดมงคลบพิตร (วิหารพระมงคลบพิตร) 4.วัดราชบูรณะ และ 5.วัดพระงามคลองสระบัว (ไม่ได้อยู่ในพื้นที่มรดกโลก)
และปิดท้ายด้วยคาเฟ่ “ปรางค์วิวคาเฟ่” ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดราชบูรณะ และวัดมหาธาตุ ขอบอกเลยว่าที่นี่แนะนำมากๆ ทั้งกาแฟที่อร่อย ได้ทั้งบรรยากาศของร้านหรือบรรยากาศวิวพระปรางค์ (วัดราชบูรณะ) ซึ่งสวยงามมาก ใครสายแฟหรือสายถ่ายภาพแนะนำเลย 10/10

Ayutthaya became the second Siamese capital after Sukhothai. It was destroyed by the Burmese in the 18th century. Its remains, characterized by the prang (reliquary towers) and gigantic monasteries, give an idea of its past splendour.

๑.วัดมหาธาตุ โดดเด่นด้วยพระปรางประธานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ไฮไลท์ขอที่นี่ที่จะพลาดไม่ได้ คือ เศียรพระพุทธรูปที่ถูกโอบล้อมด้วยรากโพ
หมายเหตุ : ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างประเทศ 220 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน อันได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดมเหยงค์ วัดไชยวัฒนาราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 100 บาท


๒.วัดพระราม
พระปรางค์องค์ใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม สูงแหลมขึ้นไปด้านบน ทางด้านทิศตะวันออก มีพระปรางค์องค์ขนาดกลางองค์ ส่วนทางตะวันตกทำเป็นซุ้มประตู มีบันไดสูงจากฐานขึ้นไปทั้งสองข้าง ที่มุมปรางค์ประกอบด้วยรูปสัตว์หิมพาน มีปรางค์ขนาดเล็กตั้งอยู่ทางทิศเหนือ และ ใต้รอบๆปรางค์เล็กมีเจดีย์ล้อมรอบอีก ๔ ด้าน
•เปิดทุกวันเวลา 08:30 - 16:30
*ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30น.- 21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน นักท่องเที่ยวสามารถชมได้ภายนอกเขตวัดพระรามเท่านั้น



๓.วัดมงคลบพิตร มีจุดเด่นที่สำคัญคือ เป็นวิหารเก่าแก่ในเขตกำแพงเมือง ที่ได้รับการบูรณะอย่างดี ภายในวิหารมีพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปประธานขนาดใหญ่ที่เสียหายตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง แต่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด ด้วยทองสำริดหุ้มทองตามปัจจุบัน



๔.วัดราชบูรณะ
จุดเด่นของวัดนี้คือ ปรางค์ประธาน มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยมซึ่งมีเจดีย์อยู่ทั้งสี่ทิศ มีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ทางทิศตะวันออกถือเป็นปรางค์แบบไทยที่นิยมทำฐานสูง และอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ วิหารหลวง(ตั้งอยู่ทั้งด้านหน้าทางเข้าวัด) เป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ก่อด้วยอิฐ โดยหลังคาได้พังหมดแล้ว ยังคงมีซากเสาที่ยังคงหลงเหลือ รวมถึงฐานชุกชีของพระพุทธรูป เมื่อมองจากข้างนอกจะเห็นพระปรางค์อยู่ในกรอบประตูพอดี และเห็นเจดีย์บางองค์อยู่ในกรอบหน้าต่าง



๕.วัดพระงาม อยุธยา “ประตูแห่งกาลเวลา”
วัดพระงาม สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310 ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา เป็นวัดที่บรรยากาศเงียบสงบ และไฮไลท์ของที่นี่ คือ ซุ้มประตู ที่ถูกรากของต้นโพธิ์ปกคลุมมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ได้รับการขนานว่า ‘ประตูแห่งกาลเวลา’ ถือเป็น Unseen Thailand ไม่มีค่าเข้าชม



ปิดท้ายด้วยคาเฟ่ “ปรางค์วิวคาเฟ่” ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดราชบูรณะ และวัดมหาธาตุ ขอบอกเลยว่าที่นี่แนะนำมากๆ ทั้งกาแฟที่อร่อย ได้ทั้งบรรยากาศของร้านหรือบรรยากาศวิวพระปรางค์ (วัดราชบูรณะ) ซึ่งสวยงามมาก ใครสายแฟหรือสายถ่ายภาพแนะนำเลย 10/10