สวัสดีพี่ๆที่เป็นกัลยาณมิตรทุกๆท่านครับ สัปดาห์นี้มาทำทริปนั่งรถไฟไหว้พระทำบุญในจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพมหานครแบบไปเช้าเย็นกลับกันครับ ทริปนี้ผมจะเดินทางไปยังจังหวัดนครปฐมเพื่อไหว้พระทำบุญและเที่ยวชมความงามขององค์พระปฐมเจดีย์ครับ ไปกี่ทีก็ตื่นเต้นทุกครั้งครับเพราะพระปฐมเจดีย์แห่งนี้จะดูจุดไหนมุมไหนก็สวยไปหมดครับ รอบนี้จะถือโอกาสถ่ายวีดีโอเพื่อลงยูทูปด้วยครับ
เริ่มออกเดินทางในเวลา 08.50 น. จากสถานีแรกคือรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักสี่เพื่อจะไปต่อรถไฟที่สถานีตลิ่งชันครับ เนื่องจากบ้านของผมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักสี่เลยต้องเริ่มต้นกันที่จุดนี้ครับ จากจุดนี้มีค่าโดยสาร 42 บาทครับ
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีแดงเราจะไปเปลี่ยนขบวนกันที่สถานีกลางบางซื่อครับ เพื่อต่ออีกขบวนเพื่อไปลงที่สถานีตลิ่งชันครับ การเปลี่ยนขบวนนั้นต้องเดินไกลพอสมควรนะครับเดินลงเดินขึ้น ระยะทางประมาณ 200-300 เมตรเห็นจะได้ครับ ให้ไปที่ชานชาลา 9,10 ครับ
มาถึงที่สถานีรถไฟตลิ่งชันในเวลา 10.00 น. รอขบวนรถไฟไม่นานมากก็พร้อมออกเดินทางไปต่อที่จังหวัดนครปฐมครับ สำหรับค่าโดยสารจากจุดนี้ราคา 9 บาทครับ เป็นค่าโดยสารที่ถูกมากๆครับ สำหรับรถไฟที่จะนั่งไปในรอบนี้ผมจะเลือกแบบธรรมดานะครับ รถไฟฟ้าเปิดกระจกตลอดเส้นทาง อารมณ์แบบรับรู้ทุกสภาพอากาศครับ ได้ชมความงามของสองข้างทางได้เป็นอย่างดี ได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอดครับ รถไฟออกจากชานชาลา 10.15 น.
เรามาถึงที่นครปฐมในเวลา 11.20 น. โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีตลิ่งชัน 1 ชั่วโมงโดยประมาณครับ เมื่อถึงสถานีนครปฐมแล้วต้องเดินนิดหน่อยครับ จากสถานีรถไฟไปพระปฐมเจดีย์ห่างกันประมาณ 500 เมตรครับ โดยระหว่างทางก็มีร้านอาหารมากมายครับ กว่าจะถึงพระปฐมเจดีย์ก็น่าจะอิ่มท้องและหมดเงินไปหลายบาทครับ อิ่มท้อง อิ่มบุญแน่นอนครับกับทริปนี้
ถึงพระปฐมเจดีย์แล้ว เรามาดูประวัติคร่าวๆก่อนครับ จะได้ไหว้พระทำบุญและเที่ยวชมวัดแบบเต็มอิ่มครบทุกอย่างทั้งได้ชมความงามและประวัติที่น่าสนใจครับ
พระปฐมเจดีย์แห่งนี้สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งและต้องการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ โดยพระองค์ท่านได้ส่งให้พระโสณเถระกับพระอุตรเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ทำให้เกิดการสร้างสถูปสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าขึ้น ณ เมืองโบราณของจังหวัดนครปฐมในอดีตครับ
การปฏิสังขรณ์เกิดขึ้นเรื่อยมาหลายยุคหลายสมัยครับ ซึ่งแต่ละสมัยก็จะมีรูปลักษณะที่แตกต่างกันครับ เริ่มตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ในราวปี พ.ศ. 350 - ราว พ.ศ. 1000 สมัยทวารวดี ราว พ.ศ. 1000 จนถึง พ.ศ. 1600 และตั้งแต่ พ.ศ. 1600 ในปัจจุบันนี้ครับ โดยแรกเริ่มนั้นองค์พระปฐมเจดีย์จะเป็นทรงบาตรคว่ำ สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์รูปทรงที่เห็นในปัจจุบันนี้ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4 โดยพระองค์ท่านได้โปรดเกล้าฯให้บูรณะเป็นเจดีย์ทรงลังกากลม สูง 120.45 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทยครับ
เมื่อมาถึงพระปฐมเจดีย์แล้วจุดแรกที่เราจะถึงก่อนคือด้านที่มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ซึ่งจะตรงกลับสถานีรถไฟนครปฐมครับ สำหรับประวัดของพระพุทธรูปองค์นี้คือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะสุโขทัย ซึ่งประดิษฐานที่พระวิหารด้านทิศเหนือของพระปฐมเจดีย์ครับ ซึ่งเราจะเห็นได้แต่ไกลเวลาออกจากสถานีรถไฟครับ
สำหรับพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์นี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 โดยถอดแบบมาจากพระพุทธรูปเก่าเมืองศรีสัชนาลัย หลังจากเททองหล่อเสร็จได้มีพระราชพิธีสถาปนาพระพุทธรูปพระองค์นั้นที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และถูกอัญเชิญออกจากกรุงเทพมหานคร ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2457 เพื่อไปประดิษฐานยังพระวิหารพระปฐมเจดีย์ครับ ที่สำคัญพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์นี้ยังเป็นที่บรรจุพระสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 ครับ
จุดที่ 2 คือ พระพุทธรูปศิลาขาว ซึ่งประดิษฐานในพระอุโบสถครับ สำหรับพระพุทธรูปศิลาขาว ปางประทานปฐมเทศนาองค์นี้ นักปราชญ์ทางโบราณคดีได้ยกย่องว่ามีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นอย่างยิ่งครับ เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ที่มีอายุกว่าพันปีมาแล้วครับ
ประวัติพระพุทธรูปศิลาขาวองค์นี้ ถูกค้นพบในบริเวณวัดทุ่งพระเมรุ ในบริเวณนันทอุทยาน จังหวัดนครปฐม ซึ่งห่างจากพระปฐมเจดีย์ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งต่อมาได้นำมาประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ในปัจจุบันครับ (วันนี้พระอุโบสถปิดครับเนื่องจากมีการทำพิธี ผมขอนำภาพที่มาครั้งก่อนลงให้ชมครับ)
มาต่อกันอีกจุดกับวิหารที่ประดิฐสถานองค์พระบรมสารีริกธาตุ จุดนี้จะมองทะลุไปยังพระปฐมเจดีย์ได้ครับ ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีน้ำมันรูปต้นศรีมหาโพธิ์ และภาพอื่นๆรวมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่เก่าแก่และงดงามเป็นอย่างยิ่งครับ
ต่อที่วิหารปัญจวัคคีย์ ด้านหน้ามีรูปหล่อของในหลวง รัชกาลที่ 5 ส่วนด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมากๆครับ แต่หน้าเสียดายที่ทางวัดงดถ่ายภาพครับ
ด้านหน้าวิหารปัญจวัคคีย์ ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ( พระร่วงโรจนฤทธิ์) จะเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธคันธารราฐศิลปะทวารวดี ซึงก็เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญและสวยงามมากครับ สำหรับประวัติองค์นี้ถูกค้นพบวัดทุ่งพระเมรุในบริเวณนันทอุทยาน จังหวัดนครปฐม เช่นกันกับพระพระพุทธรูปศิลาขาวครับ แต่จะเป็นชิ้นส่วนที่แตกเป็นชิ้นๆและนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้งครับ
ไม่ห่างจากพระอุโบสถมีวิหารพระไสยาส หรือพระนอน ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่งครับ โดยองค์พระจะมีความยาว 17 เมตร
โดยรอบองค์พระปฐมเจดีจะมีกำแพง 1 ชั้นซึ่งในกำแพงรอบนอกจะเป็นกำแพงแบบมีหลังคายื่นออกมาซึ่งเป็นที่จัดวางพระพุทธรูปปางต่างๆครับ โดยทางวัดก็จะมีการจัดวางองค์พระพุทธรูปมากมายหลายแบบครับ ซึ่งก็จะเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ ร่วมไปถึงพระพุทธรูปประจำวันเกิดด้วยครับ
พอเราเข้ามาด้านในกำแพงที่ล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์จะมีทางเดินรอบพระปฐมเจดีย์ครับ โดยใต้กำแพงจะเป็นโถงโล่งๆ เพื่อใช้ในกิจกรรมของสงฆ์ครับ ทั้งเป็นที่ใช้ในการเล่าเรียนพระธรรมวินัย และความรู้ทั่วไปของภิกษุ สามเณรครับ
โดยรอบขององค์พระปฐมเจดีย์จะเป็นเจดีย์ลายกระเบื้องทรงระฆังคว่ำสีเหลืองทองที่สวยงาม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทยครับ เดินชมองค์พระปฐมเจดีย์โดยรอบก็ใช้เวลานานพอสมควรครับเรียกได้ว่า สวยทุกจุดเลยครับ
นอกจากนี้วัดพระปฐมเจดีย์แห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่และงานศิลปะที่มีความเก่าแก่อยู่มากมายเลยครับ โดยท่านที่จะเดินทางมายังวัดแห่งนี้ถ้ามีการเตรียมข้อมูลการเดินทาง ดูประวัติมาก่อนแล้ว ยิ่งจะสนุกและซึมซับไปกับงานศิลปะของวัดได้เป็นอย่างดีครับ
สุดท้ายของการเดินทางของวันนี้เรามาจบกันในเวลา 14.00 น. แวะกินขนมระหว่างทางเสร็จก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพมหานครครับ สำหรับค่าเดินทาง รถไฟธรรมนครปฐม-ตลิ่งชัน 20 บาท รถไฟฟ้าสายสีแดง 42 บาทครับ ขากลับใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่าขามาครับ อิ่มบุญอิ่มท้องมากครับ สำหรับวันนี้
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาโดยตลอดและท่านที่กำลังจะติดตาม สำหรับการเดินทางไปไหว้พระทำบุญของผมกับ Teawwatthai / เที่ยววัดไทย ครับ
พิกัด: องค์พระปฐมเจดีย์
https://maps.app.goo.gl/6NdVRuaN3U8SVm7k6?g_st=ic
บันทึกความทรงจำ
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2565
22 October 2022
ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีขาล
โสรวาร(ส) อาสยุชมาส จัตวาศก จ.ศ. 1384 , ค.ศ. 2022 , ม.ศ. 1944 , ร.ศ. 241
สุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน , จันทรคติ เป็น ปกติมาส ปกติวาร
TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
เที่ยววัดไทย เที่ยวชมวัด และสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองไทย
#พระพุทธรูปศิลาขาว
#พระร่วงโรจนฤทธิ์
#พระปฐมเจดีย์
#จังหวัดนครปฐม
#TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
https://www.facebook.com/TeawWatThai.Travel/
https://www.instagram.com/teawwatthai.travel/
https://ppantip.com/profile/878726#topics
นั่งรถไฟไหว้พระทำบุญ เที่ยวชมความงาม พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
เริ่มออกเดินทางในเวลา 08.50 น. จากสถานีแรกคือรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักสี่เพื่อจะไปต่อรถไฟที่สถานีตลิ่งชันครับ เนื่องจากบ้านของผมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักสี่เลยต้องเริ่มต้นกันที่จุดนี้ครับ จากจุดนี้มีค่าโดยสาร 42 บาทครับ
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีแดงเราจะไปเปลี่ยนขบวนกันที่สถานีกลางบางซื่อครับ เพื่อต่ออีกขบวนเพื่อไปลงที่สถานีตลิ่งชันครับ การเปลี่ยนขบวนนั้นต้องเดินไกลพอสมควรนะครับเดินลงเดินขึ้น ระยะทางประมาณ 200-300 เมตรเห็นจะได้ครับ ให้ไปที่ชานชาลา 9,10 ครับ
มาถึงที่สถานีรถไฟตลิ่งชันในเวลา 10.00 น. รอขบวนรถไฟไม่นานมากก็พร้อมออกเดินทางไปต่อที่จังหวัดนครปฐมครับ สำหรับค่าโดยสารจากจุดนี้ราคา 9 บาทครับ เป็นค่าโดยสารที่ถูกมากๆครับ สำหรับรถไฟที่จะนั่งไปในรอบนี้ผมจะเลือกแบบธรรมดานะครับ รถไฟฟ้าเปิดกระจกตลอดเส้นทาง อารมณ์แบบรับรู้ทุกสภาพอากาศครับ ได้ชมความงามของสองข้างทางได้เป็นอย่างดี ได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอดครับ รถไฟออกจากชานชาลา 10.15 น.
เรามาถึงที่นครปฐมในเวลา 11.20 น. โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีตลิ่งชัน 1 ชั่วโมงโดยประมาณครับ เมื่อถึงสถานีนครปฐมแล้วต้องเดินนิดหน่อยครับ จากสถานีรถไฟไปพระปฐมเจดีย์ห่างกันประมาณ 500 เมตรครับ โดยระหว่างทางก็มีร้านอาหารมากมายครับ กว่าจะถึงพระปฐมเจดีย์ก็น่าจะอิ่มท้องและหมดเงินไปหลายบาทครับ อิ่มท้อง อิ่มบุญแน่นอนครับกับทริปนี้
ถึงพระปฐมเจดีย์แล้ว เรามาดูประวัติคร่าวๆก่อนครับ จะได้ไหว้พระทำบุญและเที่ยวชมวัดแบบเต็มอิ่มครบทุกอย่างทั้งได้ชมความงามและประวัติที่น่าสนใจครับ
พระปฐมเจดีย์แห่งนี้สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งและต้องการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ โดยพระองค์ท่านได้ส่งให้พระโสณเถระกับพระอุตรเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ทำให้เกิดการสร้างสถูปสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าขึ้น ณ เมืองโบราณของจังหวัดนครปฐมในอดีตครับ
การปฏิสังขรณ์เกิดขึ้นเรื่อยมาหลายยุคหลายสมัยครับ ซึ่งแต่ละสมัยก็จะมีรูปลักษณะที่แตกต่างกันครับ เริ่มตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ในราวปี พ.ศ. 350 - ราว พ.ศ. 1000 สมัยทวารวดี ราว พ.ศ. 1000 จนถึง พ.ศ. 1600 และตั้งแต่ พ.ศ. 1600 ในปัจจุบันนี้ครับ โดยแรกเริ่มนั้นองค์พระปฐมเจดีย์จะเป็นทรงบาตรคว่ำ สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์รูปทรงที่เห็นในปัจจุบันนี้ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4 โดยพระองค์ท่านได้โปรดเกล้าฯให้บูรณะเป็นเจดีย์ทรงลังกากลม สูง 120.45 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทยครับ
เมื่อมาถึงพระปฐมเจดีย์แล้วจุดแรกที่เราจะถึงก่อนคือด้านที่มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ซึ่งจะตรงกลับสถานีรถไฟนครปฐมครับ สำหรับประวัดของพระพุทธรูปองค์นี้คือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะสุโขทัย ซึ่งประดิษฐานที่พระวิหารด้านทิศเหนือของพระปฐมเจดีย์ครับ ซึ่งเราจะเห็นได้แต่ไกลเวลาออกจากสถานีรถไฟครับ
สำหรับพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์นี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 โดยถอดแบบมาจากพระพุทธรูปเก่าเมืองศรีสัชนาลัย หลังจากเททองหล่อเสร็จได้มีพระราชพิธีสถาปนาพระพุทธรูปพระองค์นั้นที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และถูกอัญเชิญออกจากกรุงเทพมหานคร ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2457 เพื่อไปประดิษฐานยังพระวิหารพระปฐมเจดีย์ครับ ที่สำคัญพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์นี้ยังเป็นที่บรรจุพระสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 ครับ
จุดที่ 2 คือ พระพุทธรูปศิลาขาว ซึ่งประดิษฐานในพระอุโบสถครับ สำหรับพระพุทธรูปศิลาขาว ปางประทานปฐมเทศนาองค์นี้ นักปราชญ์ทางโบราณคดีได้ยกย่องว่ามีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นอย่างยิ่งครับ เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ที่มีอายุกว่าพันปีมาแล้วครับ
ประวัติพระพุทธรูปศิลาขาวองค์นี้ ถูกค้นพบในบริเวณวัดทุ่งพระเมรุ ในบริเวณนันทอุทยาน จังหวัดนครปฐม ซึ่งห่างจากพระปฐมเจดีย์ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งต่อมาได้นำมาประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ในปัจจุบันครับ (วันนี้พระอุโบสถปิดครับเนื่องจากมีการทำพิธี ผมขอนำภาพที่มาครั้งก่อนลงให้ชมครับ)
มาต่อกันอีกจุดกับวิหารที่ประดิฐสถานองค์พระบรมสารีริกธาตุ จุดนี้จะมองทะลุไปยังพระปฐมเจดีย์ได้ครับ ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีน้ำมันรูปต้นศรีมหาโพธิ์ และภาพอื่นๆรวมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่เก่าแก่และงดงามเป็นอย่างยิ่งครับ
ต่อที่วิหารปัญจวัคคีย์ ด้านหน้ามีรูปหล่อของในหลวง รัชกาลที่ 5 ส่วนด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมากๆครับ แต่หน้าเสียดายที่ทางวัดงดถ่ายภาพครับ
ด้านหน้าวิหารปัญจวัคคีย์ ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ( พระร่วงโรจนฤทธิ์) จะเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธคันธารราฐศิลปะทวารวดี ซึงก็เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญและสวยงามมากครับ สำหรับประวัติองค์นี้ถูกค้นพบวัดทุ่งพระเมรุในบริเวณนันทอุทยาน จังหวัดนครปฐม เช่นกันกับพระพระพุทธรูปศิลาขาวครับ แต่จะเป็นชิ้นส่วนที่แตกเป็นชิ้นๆและนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้งครับ
ไม่ห่างจากพระอุโบสถมีวิหารพระไสยาส หรือพระนอน ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่งครับ โดยองค์พระจะมีความยาว 17 เมตร
โดยรอบองค์พระปฐมเจดีจะมีกำแพง 1 ชั้นซึ่งในกำแพงรอบนอกจะเป็นกำแพงแบบมีหลังคายื่นออกมาซึ่งเป็นที่จัดวางพระพุทธรูปปางต่างๆครับ โดยทางวัดก็จะมีการจัดวางองค์พระพุทธรูปมากมายหลายแบบครับ ซึ่งก็จะเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ ร่วมไปถึงพระพุทธรูปประจำวันเกิดด้วยครับ
พอเราเข้ามาด้านในกำแพงที่ล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์จะมีทางเดินรอบพระปฐมเจดีย์ครับ โดยใต้กำแพงจะเป็นโถงโล่งๆ เพื่อใช้ในกิจกรรมของสงฆ์ครับ ทั้งเป็นที่ใช้ในการเล่าเรียนพระธรรมวินัย และความรู้ทั่วไปของภิกษุ สามเณรครับ
โดยรอบขององค์พระปฐมเจดีย์จะเป็นเจดีย์ลายกระเบื้องทรงระฆังคว่ำสีเหลืองทองที่สวยงาม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทยครับ เดินชมองค์พระปฐมเจดีย์โดยรอบก็ใช้เวลานานพอสมควรครับเรียกได้ว่า สวยทุกจุดเลยครับ
นอกจากนี้วัดพระปฐมเจดีย์แห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่และงานศิลปะที่มีความเก่าแก่อยู่มากมายเลยครับ โดยท่านที่จะเดินทางมายังวัดแห่งนี้ถ้ามีการเตรียมข้อมูลการเดินทาง ดูประวัติมาก่อนแล้ว ยิ่งจะสนุกและซึมซับไปกับงานศิลปะของวัดได้เป็นอย่างดีครับ
สุดท้ายของการเดินทางของวันนี้เรามาจบกันในเวลา 14.00 น. แวะกินขนมระหว่างทางเสร็จก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพมหานครครับ สำหรับค่าเดินทาง รถไฟธรรมนครปฐม-ตลิ่งชัน 20 บาท รถไฟฟ้าสายสีแดง 42 บาทครับ ขากลับใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่าขามาครับ อิ่มบุญอิ่มท้องมากครับ สำหรับวันนี้
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาโดยตลอดและท่านที่กำลังจะติดตาม สำหรับการเดินทางไปไหว้พระทำบุญของผมกับ Teawwatthai / เที่ยววัดไทย ครับ
พิกัด: องค์พระปฐมเจดีย์
https://maps.app.goo.gl/6NdVRuaN3U8SVm7k6?g_st=ic
บันทึกความทรงจำ
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2565
22 October 2022
ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีขาล
โสรวาร(ส) อาสยุชมาส จัตวาศก จ.ศ. 1384 , ค.ศ. 2022 , ม.ศ. 1944 , ร.ศ. 241
สุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน , จันทรคติ เป็น ปกติมาส ปกติวาร
TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
เที่ยววัดไทย เที่ยวชมวัด และสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองไทย
#พระพุทธรูปศิลาขาว
#พระร่วงโรจนฤทธิ์
#พระปฐมเจดีย์
#จังหวัดนครปฐม
#TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
https://www.facebook.com/TeawWatThai.Travel/
https://www.instagram.com/teawwatthai.travel/
https://ppantip.com/profile/878726#topics