ที่บริษัทเราช่วงนี้ แผนกเรามีคนลาออกเยอะมาก เพื่อนที่ทำงานร่วมกับเราก็จะลาออกกันเกือบหมด (เราลาออกเพราะรู้สึกเครียดกับเพื่อนร่วมงาน เราแอบรู้สึกอยากให้เพื่อนร่วมงานออกไปกันให้หมด เพราะเราจะได้อยู่ต่อ)
เราก็แจ้งลาออกกับเจ้านายล่วงหน้า 1 เดือน แต่เจ้านายเรียกเราไปคุย ถามว่าเราลาออกทำไม เราก็ไม่ยอมบอกความจริง เราตอบไปว่าเครียดกับงาน (จริงๆก็ไม่ได้โกหก เราเครียดงานด้วย แต่เครียดเพื่อนร่วมงานมากกว่า) เจ้านายก็พยายามรั้งเรา บอกเราให้คิดดูดีๆ บอกว่าหางานใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยออกนะ แต่เรายืนยันว่าเราจะออกสิ้นเดือนเลย เราบอกไปว่าถ้าเรายังทำงานที่นี่ต่อ เดี๋ยวเราก็ต้องลางานบ่อยๆ เพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ เราเกรงใจ (สภาพจิตใจเราทนอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว ยอมตกงานดีกว่า) ทีนี้เจ้านายก็ขอเลื่อนวันลาออกของเราออกไปอีก 1 เดือน เพื่อที่จะได้หาพนักงานใหม่มาทำงานแทนเรา เขาบอกว่าถ้าเราลาออกเดือนนี้ เดือนหน้าเราก็ยังไม่ได้งานใหม่หรอก เพราะเดือนหน้ามีวันหยุดเยอะ ไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์หรอก เราฟังแล้วก็คล้อยตาม จึงตอบตกลง
หลังจากนั้น มีบริษัทอื่นโทรมาหาเรา ขอนัดสัมภาษณ์งาน เราก็ต้องลางาน ทีนี้เจ้านายก็ถามเราว่า ลาไปสัมภาษณ์งานใหม่เหรอ? เราก็โกหกไปว่าไม่ใช่ พอเราไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ (เป็นบริษัทใหญ่ เคยออกข่าวว่าให้โบนัสพนักงานเยอะมาก) HR บริษัทนั้นเห็นที่เรากรอกใบสมัครว่าเราสะดวกจะเริ่มงานในอีก 2 เดือน เขาก็บอกว่านานเกินไป เขารอไม่ไหว เพราะพนักงานของเขาจะออกสิ้นเดือนนี้กันหมด ไม่มีคนทำงาน เราเองก็รู้สึกเสียดาย จึงบอกว่าเดี๋ยวเราจะคุยกับเจ้านายเราอีกที แต่ HR บริษัทนั้นบอกว่าเรายังไม่ต้องคุย เดี๋ยวเขาขอคุยกับพนักงานของเขาก่อน และเขาก็จบการสัมภาษณ์เท่านี้ ไม่พูดถึงเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ หรือเรื่องเวลาทำงานเลย และไม่เปิดโอกาสให้เราถามด้วย เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราคงพลาดงานนั้นแล้ว
พอสัมภาษณ์งานที่นั่นเสร็จ ก็มีบริษัทอีก 2 แห่งโทรมาขอนัดเราสัมภาษณ์งานอีก มีอยู่ที่นึงที่เราสามารถขอเขาสัมภาษณ์ในช่วงวันหยุดได้ แต่อีกที่นึง เขาสะดวกเฉพาะวันธรรมดา และก็สะดวกเฉพาะวันที่เขากำหนดด้วย เราก็จำเป็นต้องลางานอีก แต่เรายังไม่ได้บอกเจ้านาย คิดว่าเดี๋ยวเจ้านายต้องถามอีกแน่ๆ ว่าเราลาไปสัมภาษณ์งานเหรอ จริงๆเราคิดว่าเจ้านายก็น่าจะรู้ เพราะเราเคยบอกไปแล้วว่าเราอาจต้องลางานบ่อยเพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ แต่เวลาเจ้านายถามแบบนั้น เราก็รู้สึกอึดอัด และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะคิดหาเหตุผลอื่นไปโกหกเขาได้ยังไง เราคงต้องตอบตามความจริง และทุกครั้งที่เราขอลางาน เจ้านายจะถามทุกครั้งว่าเราติดงานอะไรหรือเปล่า ถ้าเราติดงาน เขาก็ไม่ค่อยให้ลา แต่วันที่เราจะไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ เราก็ติดงาน แต่บริษัทใหม่ก็สะดวกสัมภาษณ์เฉพาะวันนั้น และถ้าเราไม่ไป ก็เท่ากับเราตัดโอกาสตัวเอง ก็เพราะแบบนี้เราถึงได้อยากรีบลาออกซะ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ และตอนนี้เจ้านายก็ยังไม่แจ้ง HR เลยว่าเราจะออก
อยากลาออกเพื่อรีบไปหางานใหม่ แต่เจ้านายรั้งให้อยู่ต่ออีก 1 เดือน
เราก็แจ้งลาออกกับเจ้านายล่วงหน้า 1 เดือน แต่เจ้านายเรียกเราไปคุย ถามว่าเราลาออกทำไม เราก็ไม่ยอมบอกความจริง เราตอบไปว่าเครียดกับงาน (จริงๆก็ไม่ได้โกหก เราเครียดงานด้วย แต่เครียดเพื่อนร่วมงานมากกว่า) เจ้านายก็พยายามรั้งเรา บอกเราให้คิดดูดีๆ บอกว่าหางานใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยออกนะ แต่เรายืนยันว่าเราจะออกสิ้นเดือนเลย เราบอกไปว่าถ้าเรายังทำงานที่นี่ต่อ เดี๋ยวเราก็ต้องลางานบ่อยๆ เพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ เราเกรงใจ (สภาพจิตใจเราทนอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว ยอมตกงานดีกว่า) ทีนี้เจ้านายก็ขอเลื่อนวันลาออกของเราออกไปอีก 1 เดือน เพื่อที่จะได้หาพนักงานใหม่มาทำงานแทนเรา เขาบอกว่าถ้าเราลาออกเดือนนี้ เดือนหน้าเราก็ยังไม่ได้งานใหม่หรอก เพราะเดือนหน้ามีวันหยุดเยอะ ไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์หรอก เราฟังแล้วก็คล้อยตาม จึงตอบตกลง
หลังจากนั้น มีบริษัทอื่นโทรมาหาเรา ขอนัดสัมภาษณ์งาน เราก็ต้องลางาน ทีนี้เจ้านายก็ถามเราว่า ลาไปสัมภาษณ์งานใหม่เหรอ? เราก็โกหกไปว่าไม่ใช่ พอเราไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ (เป็นบริษัทใหญ่ เคยออกข่าวว่าให้โบนัสพนักงานเยอะมาก) HR บริษัทนั้นเห็นที่เรากรอกใบสมัครว่าเราสะดวกจะเริ่มงานในอีก 2 เดือน เขาก็บอกว่านานเกินไป เขารอไม่ไหว เพราะพนักงานของเขาจะออกสิ้นเดือนนี้กันหมด ไม่มีคนทำงาน เราเองก็รู้สึกเสียดาย จึงบอกว่าเดี๋ยวเราจะคุยกับเจ้านายเราอีกที แต่ HR บริษัทนั้นบอกว่าเรายังไม่ต้องคุย เดี๋ยวเขาขอคุยกับพนักงานของเขาก่อน และเขาก็จบการสัมภาษณ์เท่านี้ ไม่พูดถึงเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ หรือเรื่องเวลาทำงานเลย และไม่เปิดโอกาสให้เราถามด้วย เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราคงพลาดงานนั้นแล้ว
พอสัมภาษณ์งานที่นั่นเสร็จ ก็มีบริษัทอีก 2 แห่งโทรมาขอนัดเราสัมภาษณ์งานอีก มีอยู่ที่นึงที่เราสามารถขอเขาสัมภาษณ์ในช่วงวันหยุดได้ แต่อีกที่นึง เขาสะดวกเฉพาะวันธรรมดา และก็สะดวกเฉพาะวันที่เขากำหนดด้วย เราก็จำเป็นต้องลางานอีก แต่เรายังไม่ได้บอกเจ้านาย คิดว่าเดี๋ยวเจ้านายต้องถามอีกแน่ๆ ว่าเราลาไปสัมภาษณ์งานเหรอ จริงๆเราคิดว่าเจ้านายก็น่าจะรู้ เพราะเราเคยบอกไปแล้วว่าเราอาจต้องลางานบ่อยเพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ แต่เวลาเจ้านายถามแบบนั้น เราก็รู้สึกอึดอัด และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะคิดหาเหตุผลอื่นไปโกหกเขาได้ยังไง เราคงต้องตอบตามความจริง และทุกครั้งที่เราขอลางาน เจ้านายจะถามทุกครั้งว่าเราติดงานอะไรหรือเปล่า ถ้าเราติดงาน เขาก็ไม่ค่อยให้ลา แต่วันที่เราจะไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ เราก็ติดงาน แต่บริษัทใหม่ก็สะดวกสัมภาษณ์เฉพาะวันนั้น และถ้าเราไม่ไป ก็เท่ากับเราตัดโอกาสตัวเอง ก็เพราะแบบนี้เราถึงได้อยากรีบลาออกซะ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ และตอนนี้เจ้านายก็ยังไม่แจ้ง HR เลยว่าเราจะออก