เตือนภัย สำหรับผู้ที่ทำธุรกรรมผ่านธนาคาร อีเมล์ เฟซบุ๊ค ไลน์ หรืออื่นๆ

เตือนภัย สำหรับผู้ที่ทำธุรกรรมผ่านธนาคาร อีเมล์ เฟซบุ๊ค  ไลน์  หรืออื่นๆ  ที่มีเบอร์โทรศัพท์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำธุรกรรม
กระทู้นี้มิได้มีเจตนากล่าวร้ายให้ค่ายโทรศัพท์ใดต้องเสียหาย จึงขอที่จะไม่เปิดเผยชื่อของค่ายมือถือ

เพียง แต่ต้องการเตือนให้เพื่อนๆ
รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน ได้ตระหนักและหาวิธีป้องกันและแก้ไข
เพราะปัญหาแบบนี้อาจสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีเบอร์โทรศัพท์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผูกกับบัญชี  แจ้งเตือน sms รีเซ็ตพาสเวิร์ดใหม่ สมัครไลน์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ หรืออื่นๆ

ทั้งนี้ผมมีข้อความที่รับส่งหลังไมค์กับค่ายมือถือ  รวมทั้งไฟล์เสียงบันทึกการสนทนากับเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง  ที่มิได้แต่งเติมขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งหรือทำร้ายใครคนใดคนหนึ่ง แต่มีเจตนาเพื่อให้มีการนำไปแก้ไขและปรับปรุงอย่างจริงจังก่อนที่จะถูกนำมาใช้ในการทำธุรกรรมอย่างจริงจังและแพร่หลาย  มิใช่เพียงแค่ขอโทษทางหลังไมค์  เหมือนซุกปัญหาไว้ใต้พรม แล้วก็จบๆกันไป  โดยที่ยังมิรู้ว่าจะมีอีกคนสักเท่าไหร่ที่อาจต้องเสียหายในกรณีแบบนี้ แลัวจะยังคงปัญหาแบบนี้ต่อๆไปอีก

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวานนี้(8มีนาคม 2560) ผมได้แจ้งกับค่ายมือถือทางหลังไมค์ว่าโทรศัพท์สัญญาถูกตัด ซึ่งปกติซิมนี้แถมมากับเครื่องเป็นแบบเติมเงินมีสัญญาหลายเดือน ซึ่งผมจะเก็บไว้เป็นเบอร์สำรอง ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้
จะเอาให้ลูกชายใช้เป็นบางครั้งเมื่อต้องติดต่อลูกที่โรงเรียน
จึงขอให้ทางค่ายมือถือนำเบอร์กลับมาได้มั๊ย  พร้อมทั้งแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน    หมายเลขโทรศัพท์  หมายเลขซิม

ซึ่งเจ้าหน้าที่คนแรกแจ้งกลับมาว่า"สถานะใช้งานได้ปกติ  ซึ่งเลขที่ซิมที่แจ้งเข้ามาไม่ตรงกับในระบบ  แนะนำตรวจสอบซิมการ์ดที่ใช้งานใหม่อีกครั้ง "
ผมจึงยืนยันกลับไปว่า ทั้งหมายเลขโทรศัพท์  หมายเลขซิม นั้นถูกต้อง เพราะผมมีซิมอยู่ รวมทั้งซองใส่ซิมที่มีสติ๊กเกอร์ระบุหมายเลขโทรศัพท์ และ หมายเลขซิมก็ยังอยู่

เจ้าหน้าที่คนที่สองจึงตอบกลับมาว่า "ตรวจสอบเบอร์ลงทะเบียนชื่อตามที่แจ้งมาถูกต้อง ซึ่งในวันที่ 19/12/2016 พบว่ามีการติดต่อเปลี่ยนซิมการ์ด แนะนำคุณ ชานม นำซิมการ์ดใบล่าสุดที่มีการขอเปลี่ยนใส่เครื่องเพื่อทดสอบใช้งาน"
ซึ่งผมก็งงๆว่าเคยไปเปลี่ยนซิมตอนไหน  

จึงลองโทรเข้าที่หมายเลขนี้ (ทั้งๆที่ซิมยังอยู่ในเครื่องของผมแต่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์) ปรากฎว่ามีสัญญาณตอบรับแต่ไม่มีคนรับ  
ตอนสายๆลองโทรใหม่จึงมีคนรับ จึงได้สอบถามหมายเลขกับผู้รับว่าหมายเลขอะไร ซึ่งตรงกับเบอร์โทรศัพท์ของผมที่โดนตัด  ซึ่งผู้รับได้บอกว่าไปแจ้งทำ
ซิมใหม่ เพราะเคยใช้เบอร์นี้
ซึ่งผมก็แปลกใจว่ามันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร เพราะผมเปิดเบอร์นี้ เดือนสิบเอ็ด พอเดือนสิบสองผู้รับสายไปแจ้งทำ
ซิมใหม่ แล้วได้เบอร์เดิมไปใช้  โดยที่ผมถูกตัดสัญญาณ แต่หมายเลขลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนของเบอร์นี้ยังเป็นชื่อของผม

จึงได้แจ้งไปที่หลังไมค์ว่า "เมื่อสักครู่ผมโทรหาเบอร์ 093 xxxxxxx ซึ่งเป็นเบอร์ของผมเองแต่คนรับสายบอกว่าชื่อ xxxxx  xxxxอยู่สุรินทร์ ได้ไปแจ้งทำ
ซิมใหม่ประมาณเดือนธันวา ช่วยตรวจสอบให้ด้วยครับว่าทำไม และผมจำได้ว่าไม่เคยไปขอทำซิมใหม่

เจ้าหน้าที่คนที่สามตอบกลับมาว่า "ตรวจสอบหมายเลข093 xxxxxxx แสดงตนเป็นชื่อคุณตามที่แจ้งมา แนะนำคุณ ชานม ติดต่อขอทำซิมการ์ดใบใหม่เบอร์เดิม โดยให้นำบัตรประชาชน + ซิมเดิม ติดต่อขอทำซิมใบใหม่ที่ Shop  เนื่องจากหากติดต่อShop จะไม่ต้องใช้ใบแจ้งความ
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนซิมการ์ดนั้นอยู่ระหว่างส่งตรวจสอบให้อยู่ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักนิด แต่หากทราบผลแล้ว จะรีบมา update คุณ  ชานม ทันที

วันนี้(9 มีนาคม2560)ประมาณบ่ายสอง มีเจ้าหน้าที่ของค่ายมือถือ  จากจังหวัดสุรินทร์  ได้โทรมาแจ้งและขอโทษว่า เมื่อ 19/12/2559 ได้ทำซิมใหม่ซึ่งเป็นเบอร์ของผมให้กับลูกค้าอีกคน เพราะลุกค้าคนนี้เคยใชัเบอร์นี้ และมาแจังพร้อมกับใบแจ้งความ จึงทำซิมให้กับเขาไป (ผมมานึกได้หลังจากวางสายแล้วว่า แล้วทำไมเบอร์นี้ ณ.ตอนนี้ยังเป็นชื่อของผมเป็นเจ้าของเบอร์  แต่ซิมกลับใช้ไม่ได้  ขณะที่คนที่ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของกลับใช้ซิมได้ ทั้งๆที่เขาไปแจ้งทำซิมใหม่พร้อมใบแจ้งความ ก้ควรจะได้ทั้งซิมใหม่ที่มีชื่อตัวเองเป็นเจ้าของเบอร์)
ทางเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดสุรินทร์จึงโทรมาแจ้งว่าได้เคลียร์กับลูกค้าคนนั้นแล้ว  
ให้ผมไปขอทำซิมใหม่ทึ่ shopได้เลย

ผมจึงติดต่อไปทางหลังไมค์ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่คนที่สี่ขอโทษกลับมา ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไร เพราะเข้าใจว่าน้องๆcallcenter ก็ทำตามหน้าที่  และความผิดพลาดก็มิได้เกิดจากน้องๆเหล่านี้  แต่เกิดขึ้นที่ shop สุรินทร์  ซึ่งอาจจะด้วยความประมาทเลินเล่อ หรือผิดพลาดอันใดก็แล้วแต่ ก็ขอให้เป็นเรื่องขององค์กรที่จะไปดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงให้ถูกต้อง เพื่อให้เป็นที่เชื่อถือต่อลูกค้าตลอดไป
แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้เกิดผลเป็นรูปธรรมก็คือ ภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับประชาชนและลูกค้า
โดยมีค่ายมือถือทั้งหลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำธุรกรรม  ถามว่าพวกท่านมีหลักประกันอะไรที่จะทำให้ลูกค้าหรือประชาชนมั่นใจได้ว่า
การทำธุรกรรมแบบนี้ปลอดภัยแน่นอน  

เพราะในอดีตการทำธุรกรรมมันมีแค่สองฝ่าย คือลูกค้ากับพ่อค้า หรือประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ
แต่ปัจจุบันมีค่ายมือถือเข้ามาเป็นบุคคลที่สาม  ซึ่งในกรณีของผมมันสามารถบอกได้เลยว่าความปลอดภัยมันหายไป เพราะเบอร์โทรศัพท์สามารถที่จะเปลี่ยนมือได้โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือ แม้เพียงรู้ช้าไป 1-2วัน ก็อาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อธุรกรรมทางการเงิน  ข้อมูลลุกค้า ข้อมูลสำคัญที่อยู่ในบัญชีเช่น ไลน์ อีเมล์ หรือ เฟซบุ๊ค หรือจะให้คิดไปไกลถึงขนาดนำซิมไปชนวนจุดระเบิด โดยที่เจ้าของเบอร์ที่ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนตัวจริงมิได้รู้เรื่อง  แต่กลับต้องถูกนำไปกล่าวหาให้รับผิด ซึ่งอาจกลายเป็นแพะได้ เป็นต้น
จึงเตือนมาเพื่อทราบและโปรดระมัดระวัง และตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของทุกๆท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำธุรกรรมโดยมีเบอร์โทรศัพท์เป็นองค์ประกอบสำคัญ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่