แม่ทะเลาะกับลูกบ่อย จนลูกด่าแม่กลับ

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของผมครับ ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของคนในครอบครัวซะก่อน
ผมมีพี่ชาย 2 คน ซึ่งทั้ง 2คน ไม่ได้เกิดจากพ่อของผม แต่เป็นสามีเก่าของแม่ก่อนที่จะหย่าร้างกันแล้วมาแต่งงานใหม่กับพ่อผมครับ
โดยพวกพี่ๆกับผม ต่างแยกกันอยู่ครับ ผมจะอาศัยกับพ่อและแม่เพียง 3คนในบ้าน ส่วนพวกพี่ๆจะอาศัยอยู่กับย่าในจังหวัดเดียวกัน ส่วนพ่อของผมไม่ได้มีส่วนในการดูแลพี่ๆทั้ง2 คนแต่อย่างใด พ่อจะรับผิดชอบตัวผมเพียงคนเดียว โดยแต่ละคนก็จะมีนิสัยต่างๆกันไปครับ

       พี่คนโต ตอนนี้ทำงานเป็นวิศวะที่อยู่บริษัทแห่งหนึ่ง มีความมั่นคงในชีวิตมากพอสมควร เป็นคนใจเย็นไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จึงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นสักเท่าไหร่ ร่วมกับต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วย
       แต่พี่คนรอง อาจเป็นคนที่ต้องเจอกับปัญหามากที่สุดในบ้าน เพราะเขาอายุใกล้30แล้ว แต่ยังเรียนไม่จบ ยังไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ร่วมกับมีนิสัยใจร้อน ขี้หงุดหงิด  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โดยปกติแล้วจะมีปัญหากับแม่อยู่เสมอเพราะเรียนไม่จบไม่ทำงาน ซึ่งทุกครั้งที่อารมณ์ไม่ดีแปปเดียวก็จะหาย
       แม่ผม เป็นคนที่นิสัยคล้ายๆกับพี่คนกลางครับ (จริงๆแล้วต้องบอกว่าพี่คนกลางนิสัยคล้ายแม่มากกว่า) จะคอยรับผิดชอบในส่วนของพี่ๆทั้ง 2 เป็นคนอารมณ์ร้อนครับ ชอบคิดอะไรไปเอง ใช้อารมณ์ตัดสินใจ ใส่ไฟได้อยู่ตลอด แต่ก็ไม่นานเดี๋ยวก็หายเหมือนกัน บางครั้ง ผมก็โดนลูกหลงไปด้วยเหมือนกันเพราะบ้านเราอยู่แค่ 3คน ผมก็เลยต้องโดนลูกหลงไปโดยปริยาย  

           ยกตัวอย่างเหตุการณ์อันนึงที่ผมเจอ คือแม่โมโหจากเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ พอกลับบ้านมาเห็นผมนั่งเล่นคอมอยู่ ก็ต่อว่า ว่าไม่เอาเวลาไปอ่านหนังสือแบบนี้จะสอบติดที่ไหน โง่เป็นควาย บลาๆๆ บ้านก็ไม่กวาดไม่ถู ไม่ทำอะไรสักอย่าง เหมือนเอาทุกๆอย่างที่ผมเคยทำผิดในชีวิตมาด่าในครั้งเดียวอย่างนั้นแหละ ทั้งๆที่ปกติแล้วผมก็มีเวลาที่จะอ่านจะทำงานบ้านของผมเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้บางครั้งตัวผมเองก็อดเอาไว้ไม่อยู่ตอบไปว่า"หยุดพูดได้แล้ว" ซึ่งทำให้มีการโต้เถียงกันแต่ก็ไม่ได้หลุดคำด่าอะไรออกไป ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติครับ ต่อมาผมก็ไม่ค่อยได้พบกับปัญหาเหล่านี้สักเท่าไหร่ ตั้งแต่ผมสอบติดคณะทันตะในมหาวิทลัยรัฐแห่งหนึ่ง แม่ผมก็จะไม่ค่อยมาโมโหอะไรให้ฟังเพราะต้องมาอยู่ต่างจังหวัด

          คราวนี้ พี่คนรองกับแม่ ก็ได้ทะเลาะอะไรกันไปตามปกตินั่นแหละ แต่ผมไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรครั้งนี้พี่ผมหลุดคำด่าว่า เหี้*ออกมา(ปกติแล้วพี่ผมไม่เคยด่าคำหยาบใส่แม่) ซึ่งผมไม่รู้ว่าตั้งใจมากน้อยเพียงใด แต่แม่ผมโกรธมาก และติดต่อมาบอกผมว่าอย่าไปยุ่งกับพี่คนรองเพราะพี่เขาด่าแม่ว่าเหี้* พี่คนรองน่าจะติดยา (ซึ่งความจริงคือไม่ครับ แต่เหมือนมโนว่าสาเหตุคงเป็นเพราะแบบนั้น)
ผมก็บอกกลับไป   ให้ใจเย็นๆ อยู่ๆก็มาด่ามันคงไม่ใช่หรอก
แม่ก็บอกว่าเพราะ  แม่ไปด่ามันก่อน แต่อย่าไปยุ่งกับมันนะ
ผมก็เลยบอกไปว่า คงเพราะใจร้อนด้วยกันทั้งคู่แหละ ถ้าแม่คิดว่าแม่ไม่ผิดก็ให้อยู่เฉยๆไปก่อน อย่าพึ่งไปใช้อารมณ์ทางลบเพิ่มความอคติใส่พี่เขาเลย
แม่ตอบกลับมาประโยคสุดท้ายว่า  "มันเนรคุณโกรธยังไงก็ด่าแม่ไม่ได้"

         ผมก็นิ่งไปครับ ไม่ตอบโต้อะไรเพราะคิดว่าต้องรอให้อารมณ์เย็นลงกว่านี้ก่อนคงจะดีกว่า อีกอย่างผมไม่เห็นด้วยกับคำที่ว่าเป็นลูกแล้วด่าพ่อแม่ไม่ได้ ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันไม่ดีและไม่เคยทำก็ตาม ผมไม่ให้ความสำคัญเรื่องเวรกรรม นรก สวรรค์อะไรพวกนี้หรอกนะครับเพราะผมไม่มีศาสนา  แต่ผมคิดว่า เราควรยอมรับคำด่าแล้วหันมามองตัวเองเพื่อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งทั้งคู่ก็คงไม่คิดแบบเดียวกับผมแน่ ๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ขอเข้าข้างใคร ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสักคนเพราะผมไม่ชอบคนใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา *ซึ่งเมื่อมองในมุมของแม่ผมก็ทราบดีครับว่าสาเหตุมาจากความเป็นห่วงนั่นแหละแต่การแสดงออกแบบนี้ผมไม่โอเคเลย
         บางครั้งผมก็สงสารตัวเองที่เจออะไรแบบนี้เพราะมันทำให้สุขภาพจิตผมแย่มากๆ ถ้าผมคิดเองได้ ตัดสินใจเองได้ ช้าไปกว่านี้ผมก็อาจจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีปัญหาคล้ายๆกัน

      คุณคิดว่าถ้าปัญหานี้เกิดในครอบครัวของคุณ คุณจะช่วยแก้ปัญหานี้ยังไงครับ?? ผมคิดไม่ออกจริงๆเพราะปัญหามันฝังรากลึกมานานมากแล้ว แต่ฝ่ายต่างมีอีโก้ที่จะปรับตัวเข้าหากันและกันแบบนี้ ใครมีปัญหาคล้ายๆกันลองร่วมแชร์วิธีแก้ปัญหา หรืออยู่ร่วมกับปัญหาได้อย่างมีความสุขได้ก็ดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่