สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ดีครับ เราควรปรองดองกันดีที่สุดเห็นด้วย
งั้นเรามาเริ่มระดมความคิดกันดีไหมครับ ว่าเราจะปรองดองกันอย่างไรดีให้ไม่เกิดปัญหาแบบนี้อีก
ผมเสนอดังนี้
1.จับแกนนำที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ได้ จากนั้นลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฏหมายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
2.จัดการผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกับข้อ1
3.ทำการชำระกฏระเบียบสงฆ์ใหม่ ไม่ให้พวกคนพาลมีช่องเข้ามาหาผลประโยชน์จากวงการสงฆ์อีก
รวมถึง พระสงฆ์ที่ไม่ปราชิก ก็ต้องตั้งตนเสียใหม่ให้อยู่ในกรอบความประพฤติที่ดีงาม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมัวหมองทุกชนิด
4.ผู้ที่จะบวชใหม่ต้องมีกฏระเบียบของกฏหมายเข้าไปช่วยคัดกรอง ไม่ให้คนที่ประพฤติชั่วแล้วยังไม่กลับตัวกลับใจเข้าไปบวชได้เด็ดขาด
เพียงเท่านี้ สังคมพุทธจะดี พระดี ไม่สะสมกิเลส สั่งสอนญาติโยมให้ดีจริง สังคมพุทธ สังคมไทยดีตามแน่นอน และนักการเมืองโกงน้อยลง
ขัดแย้งน้อยลงแน่นอนครับ ถึงเวลานั้นความปรองดองจะเกิดขึ้นอย่างมั่นคงและยาวนาน
มีเหตุผลดีไหมครับ ไม่ทราบนะครับแต่เกรงว่าคงไม่ถูกใจ จขกท.ซะละมั้ง
งั้นเรามาเริ่มระดมความคิดกันดีไหมครับ ว่าเราจะปรองดองกันอย่างไรดีให้ไม่เกิดปัญหาแบบนี้อีก
ผมเสนอดังนี้
1.จับแกนนำที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ได้ จากนั้นลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฏหมายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
2.จัดการผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกับข้อ1
3.ทำการชำระกฏระเบียบสงฆ์ใหม่ ไม่ให้พวกคนพาลมีช่องเข้ามาหาผลประโยชน์จากวงการสงฆ์อีก
รวมถึง พระสงฆ์ที่ไม่ปราชิก ก็ต้องตั้งตนเสียใหม่ให้อยู่ในกรอบความประพฤติที่ดีงาม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมัวหมองทุกชนิด
4.ผู้ที่จะบวชใหม่ต้องมีกฏระเบียบของกฏหมายเข้าไปช่วยคัดกรอง ไม่ให้คนที่ประพฤติชั่วแล้วยังไม่กลับตัวกลับใจเข้าไปบวชได้เด็ดขาด
เพียงเท่านี้ สังคมพุทธจะดี พระดี ไม่สะสมกิเลส สั่งสอนญาติโยมให้ดีจริง สังคมพุทธ สังคมไทยดีตามแน่นอน และนักการเมืองโกงน้อยลง
ขัดแย้งน้อยลงแน่นอนครับ ถึงเวลานั้นความปรองดองจะเกิดขึ้นอย่างมั่นคงและยาวนาน
มีเหตุผลดีไหมครับ ไม่ทราบนะครับแต่เกรงว่าคงไม่ถูกใจ จขกท.ซะละมั้ง
แสดงความคิดเห็น
ปรองดอง_สามัคคีกัน_ดีกว่า???
ปัจุจบันชาวพุทธไม่ได้รักกัน คนพุทธก็ไม่ได้รักษาศีลมากขึ้น ไม่ได้ทำทานมากขึ้น ไม่ได้นั่งสมาธิมากขึ้นเลย หรือศึกษาและปฏิบัติมากขึ้น เพราะต่างเอาน้ำลายมาพ่นใส่กัน จนทำให้ศาสนิกชนอื่นเขาหัวเราะเยาะกันได้ อย่ามัวแต่วิพากษ์วิจารณ์แล้วลืมปฏิบัติกัน
ขอน้อมนำโอวาทปาฏิโมกข์ ที่ว่า “ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส” และหลักกาลามสูตร ที่ว่า ความเชื่อของเราสอนเราให้คิดกุศล หรือ อกุศล พอปฏิบัติแล้วเป็นประโยชน์หรือโทษ ผู้รู้ติเตียนหรือไม่ (เน้นผู้รู้) ทำแล้วสุขไหม (สะใจไม่ใช่ความสุข เป็นกิเลสนะ) เอาหลักนี้ไปพิจารณากัน
ส่วนเรื่องของพระนั้นในพระพุทธองค์ท่านทรงบัญญัติไว้ ขอเป็นเรื่องของสงฆ์เถิด เราเป็นโยมมีสิทธิพิจารณาตัวเองว่าอุบาสกแท้ไหม อุบาสิกาแท้ไหม อย่าไปวิพากวิจารณ์ใครในขณะที่เรายังเป็นคนรักษาศีล 5 ไม่ได้ และยังมีอคติ 4
กลับหันมาปรับปรุงตัวเราดีกว่า เรารักรอยยิ้มที่ให้กันแม้ไม่รู้จัก พูดคุยเรื่องปรองดอง อย่างนี้พระศาสนาจะเจริญขึ้น ดีกว่าไหม ???