เราคงจะได้ยินกันจนชินหูกับสโลแกน “ลูกค้าคือพระเจ้า” มักจะถูกใช้บ่อยสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าเป็นธุรกิจร้านอาหาร ร้านค้า ไปจนถึงบริษัทใหญ่ที่ต้องติดต่อกับลูกค้า ซึ่งการจะประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องให้ความใส่ใจกับลูกค้ามากๆ โดยเปรียบลูกค้าเป็นพระเจ้า
ซึ่งเหตุผลที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยกให้ลูกค้าเป็นพระเจ้านั้น ก็เพราะว่า การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น แน่นอนว่าก็ต้องเป็นการสร้างความพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พนักงานต้องมอบความรู้สึกพิเศษให้ลูกค้าเสมอ ต่อให้ลูกค้าทำไม่ถูกต้องอย่างไรก็ตามที เพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้าเชื่อว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด เพราะบางทีการเถียงกับลูกค้า หรือปัดความรับผิดชอบให้ลูกค้าไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา แทนที่จะหาว่าใครถูกใครผิด ควรรีบแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจให้ถูกต้องอย่างรวดเร็ว เพราะหลายครั้งๆ เราหรือลูกค้าอาจสื่อสารผิดพลาดกันได้
แล้วลูกค้าคือพระเจ้าจริงหรือไม่ ?
ในโลกแห่งความเป็นจริง ลูกค้าไม่ถูกต้องเสมอไป ลูกค้าบางคนไม่ฟังเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ เอาแต่ประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือแสดงอารมณ์โมโหโทโสอย่างฟุ่มเฟือย อย่างนี้เรียกว่าลูกค้าที่เป็นปัญหา การพยายามยัดเยียดความรู้สึกว่าลูกค้าถูกต้องเสมออาจจะเป็นการบั่นทอนกำลัง ใจของพนักงานที่ให้บริการ เพราะต้องฝืนใจให้เชื่อว่าลูกค้าถูกต้องแม้จะเห็นๆ อยู่ว่าลูกค้าประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมอย่างไร หากลูกค้าถูกเสมอก็แปลว่าพนักงานนั่นเองที่ผิด ถ้าต้องฝืนใจกันบ่อยๆ พนักงานอาจจะเบื่อหน่ายทนไม่ไหว ลาออกไปได้เหมือนกัน
แท้ที่จริงต้องคิดกันใหม่ว่าลูกค้าไม่ถูกต้องเสมอไป ลูกค้าถูกได้ผิดได้เหมือนปุถุชน แต่ลูกค้าเป็นลูกค้าอยู่วันยังค่ำที่ต้องให้บริการอย่างสุดความสามารถ และมีวิธีการรับมือที่ดี หากลูกค้าทำผิดหรือเข้าใจผิด ก็ต้องพยายามที่จะทำให้ลูกค้ากลายเป็นลูกค้าที่ถูกด้วยวิธีการอธิบายและการ ปฏิบัติที่เหมาะสม ถ้าลูกค้าเกรี้ยวกราดแบบไม่มีเหตุผลก็ต้องพยายามหาวิธีการระงับและจัดการ ความโกรธของลูกค้าให้ได้อย่างมืออาชีพ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นนักบริการชั้นยอด
และยิ่งในปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งโซเชียล เกิดบริการขัดใจลูกค้าขึ้นมา มีดราม่าบนกระทู้ Pantip และโพสต์บน Facebook จะกระทบชื่อเสียงของร้าน และทำให้ลูกค้าไม่มาใช้บริการได้
ที่มา
http://www.atimedesign.com/webdesign/customer-is-the-king/
อย่างไรกับคำที่ว่าลูกค้าคือพระเจ้า
เราคงจะได้ยินกันจนชินหูกับสโลแกน “ลูกค้าคือพระเจ้า” มักจะถูกใช้บ่อยสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าเป็นธุรกิจร้านอาหาร ร้านค้า ไปจนถึงบริษัทใหญ่ที่ต้องติดต่อกับลูกค้า ซึ่งการจะประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องให้ความใส่ใจกับลูกค้ามากๆ โดยเปรียบลูกค้าเป็นพระเจ้า
ซึ่งเหตุผลที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยกให้ลูกค้าเป็นพระเจ้านั้น ก็เพราะว่า การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น แน่นอนว่าก็ต้องเป็นการสร้างความพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พนักงานต้องมอบความรู้สึกพิเศษให้ลูกค้าเสมอ ต่อให้ลูกค้าทำไม่ถูกต้องอย่างไรก็ตามที เพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้าเชื่อว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด เพราะบางทีการเถียงกับลูกค้า หรือปัดความรับผิดชอบให้ลูกค้าไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา แทนที่จะหาว่าใครถูกใครผิด ควรรีบแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจให้ถูกต้องอย่างรวดเร็ว เพราะหลายครั้งๆ เราหรือลูกค้าอาจสื่อสารผิดพลาดกันได้
แล้วลูกค้าคือพระเจ้าจริงหรือไม่ ?
ในโลกแห่งความเป็นจริง ลูกค้าไม่ถูกต้องเสมอไป ลูกค้าบางคนไม่ฟังเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ เอาแต่ประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือแสดงอารมณ์โมโหโทโสอย่างฟุ่มเฟือย อย่างนี้เรียกว่าลูกค้าที่เป็นปัญหา การพยายามยัดเยียดความรู้สึกว่าลูกค้าถูกต้องเสมออาจจะเป็นการบั่นทอนกำลัง ใจของพนักงานที่ให้บริการ เพราะต้องฝืนใจให้เชื่อว่าลูกค้าถูกต้องแม้จะเห็นๆ อยู่ว่าลูกค้าประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมอย่างไร หากลูกค้าถูกเสมอก็แปลว่าพนักงานนั่นเองที่ผิด ถ้าต้องฝืนใจกันบ่อยๆ พนักงานอาจจะเบื่อหน่ายทนไม่ไหว ลาออกไปได้เหมือนกัน
แท้ที่จริงต้องคิดกันใหม่ว่าลูกค้าไม่ถูกต้องเสมอไป ลูกค้าถูกได้ผิดได้เหมือนปุถุชน แต่ลูกค้าเป็นลูกค้าอยู่วันยังค่ำที่ต้องให้บริการอย่างสุดความสามารถ และมีวิธีการรับมือที่ดี หากลูกค้าทำผิดหรือเข้าใจผิด ก็ต้องพยายามที่จะทำให้ลูกค้ากลายเป็นลูกค้าที่ถูกด้วยวิธีการอธิบายและการ ปฏิบัติที่เหมาะสม ถ้าลูกค้าเกรี้ยวกราดแบบไม่มีเหตุผลก็ต้องพยายามหาวิธีการระงับและจัดการ ความโกรธของลูกค้าให้ได้อย่างมืออาชีพ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นนักบริการชั้นยอด
และยิ่งในปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งโซเชียล เกิดบริการขัดใจลูกค้าขึ้นมา มีดราม่าบนกระทู้ Pantip และโพสต์บน Facebook จะกระทบชื่อเสียงของร้าน และทำให้ลูกค้าไม่มาใช้บริการได้
ที่มา http://www.atimedesign.com/webdesign/customer-is-the-king/