ความเยือกเย็น จิตวิญญาณ และการรอคอย ... At LAKE BAIKAL

สรุปสั้น ๆ ง่ายๆ ครับ “หนาว” จบ ไปชมรูปเลย 555 ...

ล้อเล่นครับ นั่นก็ง่ายไป 

เชื่อว่าทุก ๆ ท่านคงได้ยินชื่อของทะเลสาบไบคาลมาตั้งแต่สมัยเรียน สปช. การเดินทางนั้นเรานั่งเครื่องบินจาก สุวรรณภูมิมาลงที่เมือง Irkutsk ครับ โดยสายการบิน SIberia หรือ S7 แอบถ่ายเด็กรัสเซียกับแสงสวย ๆ ตอน 5 โมงที่สุวรรณภูมิไว้ก่อนเลย

เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่างกันเกือบ 50 องศาครับ จากกรุงเทพที่ 35 องศา ลงเครื่องที่เมือง Irkutsk -16 องศา ก่อนเครื่องลง 1 ชม คนรัสเซียบนเครื่องก็เปลี่ยนจากชุดเสื้อยืดขาสั้น มาแต่งตัวจัดเต็ม กางเกงยีนส์ เสื้อกันหนาว กันลม มีฮูด มีเฟอร์ กันทั้งลำ มีแต่ผมที่นั่งงง ตาปริบ ๆ เพราะอุปกรณ์กันหนาวอยู่ในกระเป๋าเดินทางกะว่าจะมาใส่เพิ่ม เปลี่ยนแตะ หลังจากได้กระเป๋าแล้ว ... โธ่ชีวิต

ดีที่ลงเครื่องมาแล้วมีรถบัสมารับครับ สรุปว่าผมใส่กางเกงวอร์มตัวเดียว ถุงเท้าสองชั้น รองเท้าแตะ เสื้อยืด 1 เสื้อฟรีส 1 หมวกไหมพรม ผ้าพันคอตอนลงจากเครื่อง รอดมาได้หวุดหวิดเพราะหน้า ตม. เปิดฮีตเตอร์ร้อนมากครับ ร้อนจนหลายคนที่จัดเต็มมาตั้งแต่บนเครื่องเริ่มถอดเสื้อนอกออก 555

หลังจากลงเครื่องเราเดินทางกันด้วยรถตู้คันใหญ่ 16 ที่นั่งไปยังเกาะ Olkhon เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลสาบไบคาลครับ

ตามหนังสือ สปช. ที่ว่าทะเลสาบไบคาลเป็นทะเลสาปที่ลึกที่สุดในโลก ส่วนที่ลึกที่สุดประมาณ 5,300 feet และยาวประมาณ 630 Km ก็ประมาณกรุงเทพ-กระบี่ลากเส้นกันตรง ๆ ครับ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแถบไซบีเรีย ติดกับพรมแดนตอนบนของมองโกเลีย ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เพราะเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุประมาณ 25 ล้านปีมาแล้วครับ แต่ส่วนที่เราจะไปเที่ยวในทะเลสาบนั้นคือ เกาะที่ใหญ่ที่สุดตามด้านบน ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 4 ชั่วโมงครับ
เกาะ OLKHON นี้มีขนาดประมาณเกาะสิงคโปร์แต่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 1,500 คน เราไปพักกันที่หมู่บ้าน Khuzhir หมู่บ้านใหญ่ที่สุดบนเกาะ ประชากรประกอบอาชีพประมง ทำกิจกรรมนำเที่ยวทะเลสาป ขายของที่ระลึกหรือทำโรงแรม คนที่นี่ไม่ได้มีแต่รัสเซียหน้าฝรั่งอย่างเดียวนะครับ บริเวณรอบๆทะเลสาบก่อนหน้านี้เคยถูกปกครองด้วยอาณาจักรมองโกลมาก่อน เจ้าของร้านบนเกาะหลายคนเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า Buryat หน้าตาคล้าย ๆ คนมองโกเลีย เป็นสาขาหนึ่งที่แตกออกมาจากอาณาจักรมองโกล หน้าตาประมาณนี้ครับ นี่คนขับรถตู้

ชาว Buryat จะเคารพนับถือธรรมชาติ เค้าเชื่อว่าภูเขา ต้นไม้ทะเลสาบนั้นมีวิญญาณอยู่ ที่ใกล้ๆ หมู่บ้าน Khuzhir นั้นมีบริเวณจุดที่คนนิยมเดินไปถ่ายภาพชื่อว่า Shaman Rock หรือ Holy Rock เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนที่นี่  ตำนานเล่าว่าเทพผู้ดูแลทะเลสาบมีลูกสาว ลูกสาวจะหนีตามผู้ชายไป เทพเลยเขวี้ยงหินก้อนนี้มาขวางทางไว้ ... ไม่รู้ว่าลูกสาวหนีไปอย่าง Romeo and Juliet ได้รึปล่าว แต่หินก็อยู่ตรงนี้มาถึงปัจจุบันครับ

บริเวณ Shaman Rock นี้มีเสาที่ถูกผูกผ้าสีต่าง ๆ มีตำนานเล่าขานของทะเลสาบดังข้างต้น และ เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านใช้ตัดสินคดีความต่าง ๆ ที่นี่ โดยจะนำผู้ถูกกล่าวหามาตรึงทิ้งไว้บริเวณ Shaman Rock นี้ 1 คืน ถ้ามีชีวิตรอดผ่านสภาพอากาศอันโหดร้ายไปได้ ก็ถือว่าไม่มีความผิดที่ถูกกล่าวหา 
สำหรับความคิดผมที่ช่วงกลางคืนอุณหภูมิลดลงถึง -25 องศาแล้วใครรอดไปได้ก็ให้เค้าอยู่ต่อเถอะครับ เสา ๆ ที่ผูกผ้านี้เรียกว่า "SERGE" ในภาษา Buryat หรือ เสาผูกม้า สัญลักษณ์ของชาว Shamanic แสดงถึงความเป็นสถานที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์


บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ผมเดินฝ่าลมหนาวที่อุณหภูมิ -16 องศาออกมาถ่ายภาพเกือบทุกเช้าครับ เพราะที่นี่พระอาทิตย์ขึ้น 8 โมงกว่า กว่าจะพ้นยอดเขาก็ แปดโมงครึ่ง เหมาะสำหรับสายแลนด์ตื่นสายมากฮะ 555

หนาวแค่ไหนเอาสารรูปกล้องมาให้ชมครับ

แต่ทุก ๆ วันที่ออกมา ก็จะมีช่างภาพกลุ่มใหญ่ฝ่าความหนาวออกมาก่อนผมอยู่แล้วครับ ...

... หนาวแน่แต่ไม่เหงาครับ มีเจ้าขนทองเหมือน golden retriever ออกมาถ่ายรูปเป็นเพื่อน 555


เส้นทางการสัญจรในดินแดนหิมะอันขาวโพลน


จบย่อหน้าแรก การเดินทางมาสู่หมู่บ้าน Khuzhir บนเกาะ Olkhon ครับ


... พี่ ๆ ท่านไหนต้องการรายละเอียดที่พัก ไกด์ ดูได้จากกระทู้นี้ของพี่ที่ไปด้วยกันนะครับ Trip Planner คนเก่งได้ตาม Link เลยจร้า
https://ppantip.com/topic/36165425

อ่านต่อวันที่ 2 การเดินทางสู่ Cape Khoboy : https://ppantip.com/topic/36201349
วันที่ 3 ครับ จุดชมวิวเมือง Zhukhir - Stupa Island - Three Brothers - Frozen Trap ครับ : https://ppantip.com/topic/36201493
วันที่ 4 ครับ สุนัขลากเลื่อน ป่าสน และแสงสุดท้าย : https://ppantip.com/topic/36202625
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่