เมื่อวานเราได้ไปติดต่อที่หน้าเคาน์เตอร์ทิสโก้ เพื่อสอบถามยอดคงค้างชำระทั้งหมดของรถยนต์ที่เกิดเหตุ

เพลิงไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ไม่ได้มีการดัดแปลงรถยนต์ใดๆ รถสภาพเดิมๆ มือหนึ่ง อายุการใช้งาน 5 ปี

ตอนแรกเราแค่ถามยอดทั้งหมด น้องหน้าเคาน์เตอร์ก็แจ้งยอดตามปกติ แนะนำเพียงว่าถ้าจะปิดยอดให้โทรแจ้งที่คอลเซ็นเตอร์

เพื่อสอบถามยอดทั้งหมด พอดีเราได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมจากเพื่อนผู้ประสบเหตุเดียวกัน ว่าให้ขอแจ้งระงับการชำระเงินชั่วคราวก่อน

เพื่อหยุดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นรายวัน เราจึงกลับไปติดต่อที่หน้าเคาน์เตอร์ ว่าพอจะสามารถแจ้งหยุดพักชำระหนี้ชั่วคราวได้หรือไม่

น้องเค้าแจ้งว่าตอนนี้ไม่มีนโยบาย มีแต่กรณีปรับโครงสร้างหนี้ และกรณีอุทกภัยใหญ่ที่ผ่านมา และอีกกรณีคือรถยนต์

เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถใช้การได้ เราเลยบอกว่า ของเราเป็นเคสนั้น

         น้องเค้ามีทีท่าตกใจ เสียใจ และเห็นอกเห็นใจ เค้าแจ้งว่า ณ ตอนนี้เค้าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอำนาจหน้าที่เค้ามีเพียงเท่านี้

แต่น้องเค้าน่ารักมาก พยายามดู และอธิบายข้อมูลที่เห็นเพียงหน้ามอนิเตอร์ พยายามให้คำแนะนำเท่าที่ ณ ขณะนั้นทำได้

พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ที่สำคัญ พอน้องเค้าฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องเค้าเกือบร้องไห้ตามไปกับเรา น้ำตาคลอ

ซึ่งเราไม่เคยคิดว่า คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในวันที่เราสูญเสียจะรู้สึกสะเทือนใจ และเห็นอกเห็นใจไปกับเรา มันทำให้เรา

อดสะท้อนใจไม่ได้ว่า คนในครอบครัวบางคนแม้จะต่างสายเลือด แต่กินข้าวหม้อเดียวกัน ทั้งๆ ที่รู้เรื่องเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่เราประสบเหตุ

ไม่มีแม้แต่ข้อความแสดงความเสียใจสักนิด จะถามว่าเราคาดหวังอะไรไหม ณ ตอนนี้ ก็คงไม่ เหตุการณ์นี้ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจอะไรๆ ได้มากขึ้น

    เราเลยอยากขอบคุณน้อง อารยา โคตรบุตร พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ทิสโก้ สาขา เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล น้ำใจ

และเป็นกำลังใจ ซึ่งกำลังใจในวันที่สูญเสีย มันเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้คนๆ นึง ลุกขึ้นสู้ต่อ ขอบคุณจากใจอีกครั้งจริงๆ นะคะ

หมายเหตุ* ขอแท็กห้องสินธร เผื่อให้ผู้บริหารรับทราบการขอบคุณและชมเชยพนักงานท่านนี้นะคะ