EP3 : La La La Melaka City (+Petronas Tower)
มาต่อกันแล้วค่ะสำหรับ EP3 ตอนสุดท้ายของเรื่องเล่าจากนักฝึกหัดเดินทางสายเดี่ยว "ลิงน้อยหนีเที่ยว" สำหรับทริปยาวๆ 6 วัน 5 คืน 4 เมืองของเรา ในตอนก่อนๆได้เขียนเล่าไปแล้วตามลิ้งก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
EP1 : Selamat Datang "Penang" >>
https://ppantip.com/topic/36132203
EP2 : Time stop at "Cameron Highland" >>
https://ppantip.com/topic/36137785
EP3 : La La La "Melaka City" >>
https://ppantip.com/topic/36152300
"13 ก.พ. 60"
ตื่นเช้ามาด้วยความหดหู่ เนื่องจากเมื่อคืนทำเคสกล้องหักคารูที่สำหรับใส่ขาตั้งกล้อง แถมยังทำกล้องเป็นรอยอีก ได้แต่ด่าตัวเองในใจแล้วก็นอนหลับไป ฮ่าๆๆ ตื่นเช้ามานี่แบบ ... แล้วจะถ่ายรูปยังไง!!!
เช้านี้ฝนตกปรอยๆและอากาศหนาวเย็นเช่นเคย รถออกตอน 8.45น. หอบร่างกายฝ่าสายฝนโปรยปรายไปขึ้นรถ ลาก่อน... คาเมรอน ไฮแลนด์ ยังมีอีกหลายที่เลยที่ยังไม่ได้ไป รอบหน้าถ้ามีโอกาสได้มาอีกอาจไปกับทัวร์เก็บหลายๆที่ที่พลาดไปในทริปนี้
ถึงเวลารถก็ออกตรงเวลา เราว่าเขาขับดีนะ รักษาเวลาแต่ก็ไม่ได้เร็วจนน่ากลัว จากคาเมรอนไป TBS (กัวลาลัมเปอร์) ประมาณ 4 ชม. พอลงจากเขาอากาศก็กลับมาร้อนเป็นปกติ เราไม่ได้ถ่ายรูป TBS มาเพราะมัวแต่งัวเงียตื่น ฮ่าาาาๆ มาถึง TBS ประมาณบ่ายโมง สำหรับ "TBS (Terminal Bersepadu Selatan)" ก็ประมาณหมอชิตบ้านเราแต่ทันสมัย และเป็นระเบียบกว่า (แค่นั้นเอ๊งงง) พอรถจอดก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปด้านบนเลย พอเดินเข้าไปก็จะเจอเคาเตอร์จำหน่ายตั๋วเรียงๆกันอยู่ ตรงไหนว่างก็เข้าไปซื้อได้เลยเขาจะรวมของทุกบริษัทไว้ที่เคาเตอร์เดียวเลย แล้วจะให้เราเลือกเอาว่าอยากไปกับบริษัทไหน เที่ยวเวลากี่โมง เราเลือกของ Melor Interline รอบบ่ายโมงครึ่ง (รอบที่เร็วที่สุด) ราคา 10RM
หน้าตาของตั๋วก็ประมาณนี้ค่ะ พอได้ตั๋วก็เอาคิวอาร์โค้ดไปสแกนเข้าไปด้านในแล้วเดินหาเกทรถได้เลย รถที่มาเลเซียออกตรงเวลาจริงๆนะ ถึงจะมีแค่ 4-5 คนทั้งคันรถก็ออกเลย และจาก TBS ไปมะละกาใช้เวลาราวๆ 2ชม. ประมาณเกือบสี่โมงเย็นเราก็มาถึง Melaka Sentral Bus Terminal พอลงรถแล้วก็เดินเข้าไปด้านในตามป้าย Domestic bus ไปหาช่อง 17 เพื่อรอรถบัสสาย 17 ไปลงที่ Christ Church กันเลยค่ะ ค่ารถ 1.5RM
นั่งต่อไปอีกประมาณครึ่งชม.ก็ถึงแล้วค่ะ จุดลงรถสังเกตง่ายตึกแดงๆคนลงเยอะๆ (ขากลับก็มารอที่เดิม) ตรงที่รถบัสจอดนั่นเลย
มาถึงแล้วมะละกา ลา ลา ลา ... หนีห่าวววว ทำไมทัวร์จีนเยอะจัง ฮ่าๆๆๆ อากาศที่นี่ครึ้มแบบวัดใจกันว่าฝนจะตกก่อนหรือหลังไปถึงที่พักดีนะ รีบเดินตามหาที่พักดีกว่าเนอะ
และนี่คือที่พักของเรา Sayang Sayang2 Youth Hostel อยู่แถวย่านไชน่าทาวน์ไม่ไกลจากจาก Christ Church เท่าไหร่ เราจองห้องเดี่ยวห้องน้ำรวมไว้ ห้องที่นี่ไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ (แต่ไม่เป็นไร) เตียงจะอยู่ด้านบนต้องปีนบันไดขึ้นไปแต่ที่นี่เงียบดีนะ เราจองตัดบัตรเดบิตไปเป็นเงินไทย 293 บาท
เก็บของเรียบร้อยออกไปเดินเล่นกันดีกว่า ... มะละกาในวันจันทร์แบบนี้เป็นอะไรที่สงบ ดูสบายๆ ถ้าอยากคึกคักๆต้องมาวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เขาจะมีคล้ายๆถนนคนเดิน ขายของที่ระลึก ของกินกันที่ Jonker Street
เดินออกมาจากที่พักก็จะเจอแยกตรงนี้ มีนกพิราบเต็มไปหมดและมีคนเอาอาหารมาให้ด้วยค่ะแต่เรื่องกลิ่นขี้นกนั้นพูดเลยว่า แรงงงงงงส์ !!!
เดินต่อมาก็จะเจอ St. Francis Xavier Church, ตึก Melaka World Heritage City และตึกแดงแบบนี้ สวยดีเนอะดูเก๋ๆชิคๆดี
ที่มะละกาจะมีคลองตัดผ่านเมืองด้วยนะคะ น้ำใสดีนะทั้งๆที่อยู่ใจกลางเมือง เราเดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูปเพลินๆเลย อยากได้รูปตัวเองก็เอากล้องตั้งกับเก้าอี้แล้วตั้งเวลาเอา ฮ่าาาาๆๆๆ มีเรือพาเที่ยวที่คลองมะละกาด้วยนะ ใครมีโอกาสมาก็ลองนั่งเรือแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
เดินต่อไปอีกแป๊บเดียวก็จะถึง Christ Church, หอนาฬิกาและน้ำพุ จุดที่เราลงรถเมื่อกี้ แลนมาร์คของมะละกาเขาหละคนนี่คึกคักเลย
และจุดต่อไปเดินโค้งไปตามถนนทางซ้ายมือก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เป็นตึกสีแดงเหมือนกัน พื้นถนนปูด้วยอิฐตัวหนอนเดินสบายๆไม่มีลุ้นระเบิดน้ำขังเหมือนบ้านเรา ฮ่าาาาาๆๆ
ได้เวลาออกกำลังขากันแล้วเดินขึ้นไปดู St. Paul Fort กันดีกว่า ...
และด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวเมืองมะละกาได้ด้วยนะคะ มองเห็นฝั่งทะเลลิบๆ
เดินลงมาด้านล่างก็จะเจอ A' Famosa เป็นป้อมเล็กๆตั้งอยู่ด้านหน้าของ St. Paul Fort
เดินมาอีกหน่อยก็เจอ Proclamation of Independence Memorial ถ่ายรูปอยู่แค่ด้านหน้านะคะไม่ได้เข้าไปดูข้างใน ดูอลังการดี
ใกล้ๆกันมีที่ให้เที่ยวให้แวะอีกเยอะเลยนะแต่เราไม่ได้แวะเข้าไปเนื่องจากเริ่มหิวแล้ว มีห้างอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ด้วยค่ะ เราก็ไปฝากท้องที่ร้านนึง ด้วยความที่โหยหาอาหารไทยมากเลยสั่งผัดกระเพรากับตำไทยไป ฮ่าาาาๆๆ รสชาติไม่จัดจ้านเท่าไหร่แต่พอแก้ขัดได้
นั่งกินสักพักออกมาอีกทีก็มืดแล้วววว ขากลับเจอรถสามล้อนำเที่ยวด้วย ตอนกลางวันว่าอลังการแล้วพอตอนกลางคืนเท่านั้นหละ... จัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบมากกกกก ฮ่าาาาๆๆๆ เปิดเพลงตอนวิ่งด้วย ตื้ดดดดดสุดๆ
วิวตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบ ...
กลับเข้าที่พักได้เราก็อาบน้ำแล้วเข้านอน คืนนั้นไม่รู้เหนื่อยอะไรเหมือนจะหลับไปแบบสนิท ไม่ได้ยินเสียงจากด้านนอกเลย ... แอร์เย็นจัง
[CR] ลิงน้อยหนีเที่ยว || Feb Alone in Malaysia : 6 วัน 5 คืน 4 เมือง (ปีนัง-คาเมรอน-มะละกา-กัวลาลัมเปอร์) EP3 "มะละกา-กัวลาฯ"
มาต่อกันแล้วค่ะสำหรับ EP3 ตอนสุดท้ายของเรื่องเล่าจากนักฝึกหัดเดินทางสายเดี่ยว "ลิงน้อยหนีเที่ยว" สำหรับทริปยาวๆ 6 วัน 5 คืน 4 เมืองของเรา ในตอนก่อนๆได้เขียนเล่าไปแล้วตามลิ้งก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
EP1 : Selamat Datang "Penang" >> https://ppantip.com/topic/36132203
EP2 : Time stop at "Cameron Highland" >> https://ppantip.com/topic/36137785
EP3 : La La La "Melaka City" >>https://ppantip.com/topic/36152300
"13 ก.พ. 60"
ตื่นเช้ามาด้วยความหดหู่ เนื่องจากเมื่อคืนทำเคสกล้องหักคารูที่สำหรับใส่ขาตั้งกล้อง แถมยังทำกล้องเป็นรอยอีก ได้แต่ด่าตัวเองในใจแล้วก็นอนหลับไป ฮ่าๆๆ ตื่นเช้ามานี่แบบ ... แล้วจะถ่ายรูปยังไง!!!
เช้านี้ฝนตกปรอยๆและอากาศหนาวเย็นเช่นเคย รถออกตอน 8.45น. หอบร่างกายฝ่าสายฝนโปรยปรายไปขึ้นรถ ลาก่อน... คาเมรอน ไฮแลนด์ ยังมีอีกหลายที่เลยที่ยังไม่ได้ไป รอบหน้าถ้ามีโอกาสได้มาอีกอาจไปกับทัวร์เก็บหลายๆที่ที่พลาดไปในทริปนี้
ถึงเวลารถก็ออกตรงเวลา เราว่าเขาขับดีนะ รักษาเวลาแต่ก็ไม่ได้เร็วจนน่ากลัว จากคาเมรอนไป TBS (กัวลาลัมเปอร์) ประมาณ 4 ชม. พอลงจากเขาอากาศก็กลับมาร้อนเป็นปกติ เราไม่ได้ถ่ายรูป TBS มาเพราะมัวแต่งัวเงียตื่น ฮ่าาาาๆ มาถึง TBS ประมาณบ่ายโมง สำหรับ "TBS (Terminal Bersepadu Selatan)" ก็ประมาณหมอชิตบ้านเราแต่ทันสมัย และเป็นระเบียบกว่า (แค่นั้นเอ๊งงง) พอรถจอดก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปด้านบนเลย พอเดินเข้าไปก็จะเจอเคาเตอร์จำหน่ายตั๋วเรียงๆกันอยู่ ตรงไหนว่างก็เข้าไปซื้อได้เลยเขาจะรวมของทุกบริษัทไว้ที่เคาเตอร์เดียวเลย แล้วจะให้เราเลือกเอาว่าอยากไปกับบริษัทไหน เที่ยวเวลากี่โมง เราเลือกของ Melor Interline รอบบ่ายโมงครึ่ง (รอบที่เร็วที่สุด) ราคา 10RM
หน้าตาของตั๋วก็ประมาณนี้ค่ะ พอได้ตั๋วก็เอาคิวอาร์โค้ดไปสแกนเข้าไปด้านในแล้วเดินหาเกทรถได้เลย รถที่มาเลเซียออกตรงเวลาจริงๆนะ ถึงจะมีแค่ 4-5 คนทั้งคันรถก็ออกเลย และจาก TBS ไปมะละกาใช้เวลาราวๆ 2ชม. ประมาณเกือบสี่โมงเย็นเราก็มาถึง Melaka Sentral Bus Terminal พอลงรถแล้วก็เดินเข้าไปด้านในตามป้าย Domestic bus ไปหาช่อง 17 เพื่อรอรถบัสสาย 17 ไปลงที่ Christ Church กันเลยค่ะ ค่ารถ 1.5RM
นั่งต่อไปอีกประมาณครึ่งชม.ก็ถึงแล้วค่ะ จุดลงรถสังเกตง่ายตึกแดงๆคนลงเยอะๆ (ขากลับก็มารอที่เดิม) ตรงที่รถบัสจอดนั่นเลย
มาถึงแล้วมะละกา ลา ลา ลา ... หนีห่าวววว ทำไมทัวร์จีนเยอะจัง ฮ่าๆๆๆ อากาศที่นี่ครึ้มแบบวัดใจกันว่าฝนจะตกก่อนหรือหลังไปถึงที่พักดีนะ รีบเดินตามหาที่พักดีกว่าเนอะ
และนี่คือที่พักของเรา Sayang Sayang2 Youth Hostel อยู่แถวย่านไชน่าทาวน์ไม่ไกลจากจาก Christ Church เท่าไหร่ เราจองห้องเดี่ยวห้องน้ำรวมไว้ ห้องที่นี่ไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ (แต่ไม่เป็นไร) เตียงจะอยู่ด้านบนต้องปีนบันไดขึ้นไปแต่ที่นี่เงียบดีนะ เราจองตัดบัตรเดบิตไปเป็นเงินไทย 293 บาท
เก็บของเรียบร้อยออกไปเดินเล่นกันดีกว่า ... มะละกาในวันจันทร์แบบนี้เป็นอะไรที่สงบ ดูสบายๆ ถ้าอยากคึกคักๆต้องมาวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เขาจะมีคล้ายๆถนนคนเดิน ขายของที่ระลึก ของกินกันที่ Jonker Street
เดินออกมาจากที่พักก็จะเจอแยกตรงนี้ มีนกพิราบเต็มไปหมดและมีคนเอาอาหารมาให้ด้วยค่ะแต่เรื่องกลิ่นขี้นกนั้นพูดเลยว่า แรงงงงงงส์ !!!
เดินต่อมาก็จะเจอ St. Francis Xavier Church, ตึก Melaka World Heritage City และตึกแดงแบบนี้ สวยดีเนอะดูเก๋ๆชิคๆดี
ที่มะละกาจะมีคลองตัดผ่านเมืองด้วยนะคะ น้ำใสดีนะทั้งๆที่อยู่ใจกลางเมือง เราเดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูปเพลินๆเลย อยากได้รูปตัวเองก็เอากล้องตั้งกับเก้าอี้แล้วตั้งเวลาเอา ฮ่าาาาๆๆๆ มีเรือพาเที่ยวที่คลองมะละกาด้วยนะ ใครมีโอกาสมาก็ลองนั่งเรือแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
เดินต่อไปอีกแป๊บเดียวก็จะถึง Christ Church, หอนาฬิกาและน้ำพุ จุดที่เราลงรถเมื่อกี้ แลนมาร์คของมะละกาเขาหละคนนี่คึกคักเลย
และจุดต่อไปเดินโค้งไปตามถนนทางซ้ายมือก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เป็นตึกสีแดงเหมือนกัน พื้นถนนปูด้วยอิฐตัวหนอนเดินสบายๆไม่มีลุ้นระเบิดน้ำขังเหมือนบ้านเรา ฮ่าาาาาๆๆ
ได้เวลาออกกำลังขากันแล้วเดินขึ้นไปดู St. Paul Fort กันดีกว่า ...
และด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวเมืองมะละกาได้ด้วยนะคะ มองเห็นฝั่งทะเลลิบๆ
เดินลงมาด้านล่างก็จะเจอ A' Famosa เป็นป้อมเล็กๆตั้งอยู่ด้านหน้าของ St. Paul Fort
เดินมาอีกหน่อยก็เจอ Proclamation of Independence Memorial ถ่ายรูปอยู่แค่ด้านหน้านะคะไม่ได้เข้าไปดูข้างใน ดูอลังการดี
ใกล้ๆกันมีที่ให้เที่ยวให้แวะอีกเยอะเลยนะแต่เราไม่ได้แวะเข้าไปเนื่องจากเริ่มหิวแล้ว มีห้างอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ด้วยค่ะ เราก็ไปฝากท้องที่ร้านนึง ด้วยความที่โหยหาอาหารไทยมากเลยสั่งผัดกระเพรากับตำไทยไป ฮ่าาาาๆๆ รสชาติไม่จัดจ้านเท่าไหร่แต่พอแก้ขัดได้
นั่งกินสักพักออกมาอีกทีก็มืดแล้วววว ขากลับเจอรถสามล้อนำเที่ยวด้วย ตอนกลางวันว่าอลังการแล้วพอตอนกลางคืนเท่านั้นหละ... จัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบมากกกกก ฮ่าาาาๆๆๆ เปิดเพลงตอนวิ่งด้วย ตื้ดดดดดสุดๆ
วิวตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบ ...
กลับเข้าที่พักได้เราก็อาบน้ำแล้วเข้านอน คืนนั้นไม่รู้เหนื่อยอะไรเหมือนจะหลับไปแบบสนิท ไม่ได้ยินเสียงจากด้านนอกเลย ... แอร์เย็นจัง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น