แก้ไข
https://m.ppantip.com/topic/36129955/comment11-1
.พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ (พระอาทิพุทธเจ้า)..ตอบคุณ Intratip..
บันทึกเมื่อ25 มิย.57 เวลา 04.24 น.
ตั้งจิตขึ้นไปบนพระนิพพาน ปรากฏกายของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกายเนื้อ และแต่งกายเป็นพระพุทธเจ้าสายมหายาน รัศมีกายของพระพุทธองค์สว่างไสวทั่วหมื่นโลกธาตุ
ทรงแย้มพระโอษฐ์ ตรัสด้วยความเมตตาว่า...
“...(เรียกชื่อ) เสียงของเธอที่ร่ำร้องทวงคืนความเป็นธรรม ดังไปไกลถึงแดนของฉัน ฉันจะทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่เธอ ผู้ที่เคยจาบจ้วงล่วงเกินแก่เธอจะได้รับบทเรียน อย่างช้า ๓ เดือน อย่างเร็ว ๗ วัน
ส่วนผู้ที่มีความศรัทธาแก่เธอก็จะได้รับผลปรากฏแห่งความดีเช่นกัน
หากฉันให้หน้าที่เธอแล้ว กลับไม่ให้อาวุธแก่เธอ ประดุจดังให้เธอไปตายกลางสนามรบ ฉันจะไม่ทำ ดังนั้น นับแต่นี้ไปกฎแห่งกรรมจะปรากฏผลแก่บุคคลเหล่านั้น
หากผู้ใดกลับใจ ตั้งตัวทันและขอขมาแก่เธอ ไม่ว่าจะคิดในใจ หรือเอ่ยวาจาก็ตาม ผลจะปรากฏแก่เขาเหล่านั้นโดยทันทีเช่นกัน”
P : ขอขมาพระรัตนตรัย
B: “เราคือ พระอาทิพุทธเจ้า หรือต้นวงศ์แห่งวิชากายรุ้ง ในนามของพระพุทธเจ้าในสายพุทธมหายาน หากเรียงลำดับประเภทพิเศษนั้น หรือที่เรียกว่า พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ นั่นเอง
เธอมีสิ่งใดจะถามหรือไม่”
P: “ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าข้าฯ ลูกปรารถนาอยากทราบว่า ต้นสายของพุทธตันตระเป็นสายใดพระพุทธเจ้าข้า ฯ (เป็นช่วงที่กำลังฝึกสายพุทธตันตระ)
B: “ พุทธตันตระเป็นสายโพธิญาณประเภทพิเศษอีกประเภทหนึ่ง ผู้ที่บรรลุพระพุทธประเภทพิเศษสายนั้น จะตรงกับลำดับที่ ๘ (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อพบพระไวโรจนพุทธเจ้า เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๗) เป็นสายที่รวบรัดการปฏิบัติหลายสายมารวมกัน ส่วนผู้ที่จะสำเร็จเป็นต้นธาตุต้นธรรมนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้
ขอให้เธอจงเร่งปฏิบัติให้มาก อย่าปล่อยเวลาไป ให้เร่งเรียนรู้เพื่อช่วยเหลือพระมหาโพธิสัตว์ได้สำเร็จวิชาต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะดูรวดเร็วประดุจสายฟ้า แต่ใช้ได้ผล
ผลบุญต่าง ๆ ของเธอจะรวมตัว ขอเธอจงเร่งฝึกรวมกำลังกับพระมหาโพธิสัตว์ให้เร็ว โดยการไม่ลังเลสงสัย แล้วพิจารณาตามอารมณ์อย่าฝืน ถือเป็นการเรียนรู้ และช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลาย เรื่องบางอย่างไม่ถึงเวลาจะไม่เปิดเผยได้ ให้ดูวันต่อวัน”
P: “ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีอะไรจะแนะนำหม่อมฉันเพิ่มเติมหรือไม่ พระพุทธเจ้าข้าฯ”
B: “ ความจริงแล้ว ฉันต้องการมาให้กำลังใจแก่เธอ เธอยังไม่เคยเห็นฉัน จึงไม่รู้จัก ความรู้ที่ได้นั้น เธอจะมั่นใจว่า เธอคิดเองไม่ได้ ดังนั้นการปรากฏตัวของฉันจะทำให้เธอมั่นใจมากกว่าเดิม”
___________________________
ตอบปัญหาคุณ Intratip
"การบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธสิกขีทศพลแต่ละพระองค์นั้น ย่อมมีความต่างตามความปรารถนาในรายละเอียด เช่นให้เลิศด้วยด้านใด สงเคราะห์ด้านใดเป็นหลัก จากนั้นทรงอธิษฐานที่จะบำเพ็ญแต่ละพระองค์ทรงบำเพ็ญนานไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ อสงไขย และยังคงมีอยู่ต่อไป ผู้ที่จะรู้เรื่องนี้ในเชิงลึกนั้น จะต้องเป็นผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธสิกขีทศพลเท่านั้น จึงจะทราบเรื่องโดยละเอียด
การได้รับพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าในอดีตจะต้องเป็นพระพุทธเจ้าที่เคยอธิษฐานแบบพิเศษมาแล้วเท่านั้น แม้ว่าบางพระองค์อาจจะลาประเภทพิเศษก็ตาม ถือว่ายังมีคุณสมบัติจะพยากรณ์ได้ หากพบพระพุทธเจ้าที่ไม่ได้อธิษฐานแบบพิเศษมา ก็จะไม่มีรายละเอียดของการพยากรณ์ แต่จะบอกว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าประเภทพิเศษพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล
ดังนั้น การอธิษฐานแบบพิเศษนั้นจะสำเร็จได้ยากมาก พระโพธิสัตว์หลายพระองค์ได้ลาไป เพราะช่วงท้าย ๆ จะมีอุปสรรคขัดขวางเป็นจำนวนมาก จึงอธิษฐานลดกำลังลงมา เหลืออยู่ใน ๓ ประเภทที่สมเด็จองค์ปฐมทรงจัดไว้
แต่หากพระโพธิสัตว์องค์ใดมีกำลังใจมั่นคงในการเดินทาง ไม่หวั่นไหว เหล่าพรหมเทวดาทั้งหลายจะคอยช่วยเหลือ ประคับประคองท่านเหล่านั้นให้สำเร็จได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเป็นประเภทใดก็ตาม ล้วนแต่มีศักดิ์ศรีเสมอกันทุกพระองค์ ทรงสอนในเรื่อง..
๑. งดเว้นจากการทำชั่ว
๒. การทำความดี
๓. ทำใจให้บริสุทธิ์
โดยประกอบไปด้วยทาน ศีล ภาวนา ส่วนสิ่งปลีกย่อยในความรู้ต่าง ๆ นั้น อาจจะมีต่างกันบ้าง แต่หาใช่เป็นสาระไม่ สาระนั้นอยู่ที่การตัดกิเลส
_______________________________________
เหตุที่ยุคนี้มีเหล่าพุทธภูมิ หรือเหล่าพระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ก็ตามลงมาเกิดกันเยอะ เนื่องจากอายุขัยมนุษย์นั้นสั้น เร่งสร้างบารมีจะง่ายกว่ายุคอื่น ๆ
สำหรับเธอเอง หากค่อย ๆ เรียนรู้ พร้อมการเจริญสติจะทำให้เธอมีปัญญาแตกฉานในเรื่องต่าง ๆ โดยที่เธอไม่ต้องแสวงหา ความรู้นี้เป็นความรู้ที่เธอเคยเรียนมาแต่อดีต ผลมาปรากฏในปัจจุบัน เป็นความรู้ที่ข้ามภพข้ามชาติ
ดังนั้นเธอจงมีจิตที่เมตตาต่อผู้อื่น ที่เขาไม่รู้ แม้เขาจาบจ้วงแก่เธอก็อย่าได้ถือสา อันเนื่องจากความไม่รู้ของเขา แต่กฎของกรรมก็ยังคงทำงาน นั้นเป็นเรื่องของเขาในอนาคต อย่าเอาใจไปจดจ่อ
ส่วนคนที่มีความทุกข์มา ให้สงเคราะห์ตามโอกาสทึ่เป็น ถามครูอาจารย์ก่อนดีที่สุด เอาละคงมีเพียงเท่านี้ หากเธอปรารถนาจะพบฉันก็ไปพบได้ที่วิมานของฉันนะ”
บันทึกการปฏิบัติ วันนี้(๒๕ มีค.๕๘) เวลา ๑๕.๕๐ น.
วันนี้ตั้งจิตอธิษฐานขึ้นไปกราบสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ (การผ่านไปยังโลกธาตุของสมเด็จพระอาทิพุทธเจ้านั้น จะมีแดนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังวิมานของพระพุทธองค์ หรืออีกหนึ่งโลกธาตุอันบริสุทธิ์)
บนทางเดินนั้นเป็นเพชรสวยงามระยิบระยับ เมื่อย่างเดินบนทางเดินนั้น มีดอกบัวสีขาวรองรับเท้าของเราไปทุกย่างก้าว ข้าง ๆ ทางมีต้นไม้แก้วสีเงิน มีเสียงดังกังวานไพเราะมาก
เมื่อไปยังประตูวิมานของพระพุทธอาทิพุทธเจ้า มีพระสุรเสียงอนุญาตให้เข้าไปภายใน มีพระโพธิสัตว์ ๒ พระองค์มาต้อนรับ คือ พระสุริยประภาโพธิสัตว์ และพระจันทรประภาโพธิสัตว์
300px-5buddha0.jpg
พบพระพุทธอาทิพุทธเจ้าในกายเนื้อ เมื่อมองไปทางซ้ายมือของพระพุทธองค์ เห็นพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๕ หรือพระไวโรจนะพุทธเจ้า ในชุดเครื่องทรงแบบธิเบต พร้อมพระธยานิพุทธเจ้าอีก ๔ พระองค์ นั่งตามลำดับอาวุโส พร้อมองค์พระโพธิสัตว์สายพระธยานิพุทธเจ้า
“....วันก่อนที่ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีเรื่องการสงสัย การสงสัยมี ๒ ประเภท คือ
๑.สงสัยแล้วถามเพื่อนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ และความก้าวหน้าการปฏิบัติ
๒. สงสัย เพื่อสนองความอยากรู้ และไม่ปฏิบัติ การสงสัยประเภทนี้ไม่ดี และเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง เป็นนิวรณ์เครื่องกั้นความเจริญก้าวหน้าไม่ว่า ทางโลกหรือทางธรรม
วันนี้ฉันแสดงให้เธอเห็นแล้วว่า มีความต่างอย่างไร ทั้งสองโลกธาตุของฉัน และของพระธยานิพุทธเจ้าก็มีความต่างกันออกไป
สำหรับเรื่องพระธยานิพุทธเจ้านั้น ความจริงก็เกิดจากอธิษฐานของฉันในอดีต ให้มีผู้ที่สืบทอดเจตนารมณ์ของฉันให้ยังคงมีแดนธาตุโลกอยู่ตามความปรารถนาแห่งพระโพธิญาณ อันเปรียบเสมือนบุตรของฉัน
การบำเพ็ญบารมีของฉันมีความยาวนานมาพร้อมกับสมเด็จองค์ปฐม แต่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันโดยตรง ฉันเป็นสหธรรมิกของสมเด็จพระโภครัตนสัมภาวะพุทธเจ้า(ทรงบรรลุธรรมหลังสมเด็จองค์ปฐมในลำดับที่ ๙) เคยบำเพ็ญบารมีร่วมกันมาเมื่ออดีตกาลบนานมาแล้ว
ส่วนพระธยานิพุทธเจ้าทั้ง ๕ แท้จริงคือ พระโอรสของฉันในอดีตนั่นเอง และพระไภษัชคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้านั้น ก็คือ ๑ ในพระโอรสของฉันเช่นกัน
พระไวโรจนพุทธเจ้านั้น ปรารถนาจะเป็นพระพุทธสิกขีทศพล หรือพระพุทธเจ้าประเภทพิเศษเหมือนอย่างฉัน จึงต้องบำเพ็ญบารมีมานานหน่อย
พระธยานิทั้ง ๕ นั้น ส่วนใหญ่จะเคยเกิดเป็นพี่น้องกัน ในยุคที่ฉันบำเพ็ญบารมีนั้น พญามารเขาวางผังให้มนุษย์มีอายุสั้นกว่าเดิมมาก มีโรคมาก พระไภษัชคุรุฯ จึงปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าประเภทรักษาโรคทั้งกายใจ
ส่วนพระธยานิพุทธเจ้าทั้ง ๕ นั้นได้ร่วมกันค้นวิชาที่ทำให้มีอีกกายที่ไม่มีวันดับสูญ เรียกว่า “สัมโภคกาย” จะมีการเวียนไปของโลกธาตุของพระพุทธเจ้า เพื่อโปรดสรรพสัตว์ในจักรวาลต่าง ๆ แม้เวลานี้ก็ย่อมมีพระพุทธเจ้าในสายของฉัน โปรดสรรพสัตว์ในต่างจักรวาล ดังที่เธอได้เคยพบบางพระองค์แล้ว
ขยายพระสิกขีทศพลที่ 3
https://m.ppantip.com/topic/36129955/comment11-1
.พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ (พระอาทิพุทธเจ้า)..ตอบคุณ Intratip..
บันทึกเมื่อ25 มิย.57 เวลา 04.24 น.
ตั้งจิตขึ้นไปบนพระนิพพาน ปรากฏกายของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกายเนื้อ และแต่งกายเป็นพระพุทธเจ้าสายมหายาน รัศมีกายของพระพุทธองค์สว่างไสวทั่วหมื่นโลกธาตุ
ทรงแย้มพระโอษฐ์ ตรัสด้วยความเมตตาว่า...
“...(เรียกชื่อ) เสียงของเธอที่ร่ำร้องทวงคืนความเป็นธรรม ดังไปไกลถึงแดนของฉัน ฉันจะทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่เธอ ผู้ที่เคยจาบจ้วงล่วงเกินแก่เธอจะได้รับบทเรียน อย่างช้า ๓ เดือน อย่างเร็ว ๗ วัน
ส่วนผู้ที่มีความศรัทธาแก่เธอก็จะได้รับผลปรากฏแห่งความดีเช่นกัน
หากฉันให้หน้าที่เธอแล้ว กลับไม่ให้อาวุธแก่เธอ ประดุจดังให้เธอไปตายกลางสนามรบ ฉันจะไม่ทำ ดังนั้น นับแต่นี้ไปกฎแห่งกรรมจะปรากฏผลแก่บุคคลเหล่านั้น
หากผู้ใดกลับใจ ตั้งตัวทันและขอขมาแก่เธอ ไม่ว่าจะคิดในใจ หรือเอ่ยวาจาก็ตาม ผลจะปรากฏแก่เขาเหล่านั้นโดยทันทีเช่นกัน”
P : ขอขมาพระรัตนตรัย
B: “เราคือ พระอาทิพุทธเจ้า หรือต้นวงศ์แห่งวิชากายรุ้ง ในนามของพระพุทธเจ้าในสายพุทธมหายาน หากเรียงลำดับประเภทพิเศษนั้น หรือที่เรียกว่า พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ นั่นเอง
เธอมีสิ่งใดจะถามหรือไม่”
P: “ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าข้าฯ ลูกปรารถนาอยากทราบว่า ต้นสายของพุทธตันตระเป็นสายใดพระพุทธเจ้าข้า ฯ (เป็นช่วงที่กำลังฝึกสายพุทธตันตระ)
B: “ พุทธตันตระเป็นสายโพธิญาณประเภทพิเศษอีกประเภทหนึ่ง ผู้ที่บรรลุพระพุทธประเภทพิเศษสายนั้น จะตรงกับลำดับที่ ๘ (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อพบพระไวโรจนพุทธเจ้า เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๗) เป็นสายที่รวบรัดการปฏิบัติหลายสายมารวมกัน ส่วนผู้ที่จะสำเร็จเป็นต้นธาตุต้นธรรมนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้
ขอให้เธอจงเร่งปฏิบัติให้มาก อย่าปล่อยเวลาไป ให้เร่งเรียนรู้เพื่อช่วยเหลือพระมหาโพธิสัตว์ได้สำเร็จวิชาต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะดูรวดเร็วประดุจสายฟ้า แต่ใช้ได้ผล
ผลบุญต่าง ๆ ของเธอจะรวมตัว ขอเธอจงเร่งฝึกรวมกำลังกับพระมหาโพธิสัตว์ให้เร็ว โดยการไม่ลังเลสงสัย แล้วพิจารณาตามอารมณ์อย่าฝืน ถือเป็นการเรียนรู้ และช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลาย เรื่องบางอย่างไม่ถึงเวลาจะไม่เปิดเผยได้ ให้ดูวันต่อวัน”
P: “ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีอะไรจะแนะนำหม่อมฉันเพิ่มเติมหรือไม่ พระพุทธเจ้าข้าฯ”
B: “ ความจริงแล้ว ฉันต้องการมาให้กำลังใจแก่เธอ เธอยังไม่เคยเห็นฉัน จึงไม่รู้จัก ความรู้ที่ได้นั้น เธอจะมั่นใจว่า เธอคิดเองไม่ได้ ดังนั้นการปรากฏตัวของฉันจะทำให้เธอมั่นใจมากกว่าเดิม”
___________________________
ตอบปัญหาคุณ Intratip
"การบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธสิกขีทศพลแต่ละพระองค์นั้น ย่อมมีความต่างตามความปรารถนาในรายละเอียด เช่นให้เลิศด้วยด้านใด สงเคราะห์ด้านใดเป็นหลัก จากนั้นทรงอธิษฐานที่จะบำเพ็ญแต่ละพระองค์ทรงบำเพ็ญนานไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ อสงไขย และยังคงมีอยู่ต่อไป ผู้ที่จะรู้เรื่องนี้ในเชิงลึกนั้น จะต้องเป็นผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธสิกขีทศพลเท่านั้น จึงจะทราบเรื่องโดยละเอียด
การได้รับพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าในอดีตจะต้องเป็นพระพุทธเจ้าที่เคยอธิษฐานแบบพิเศษมาแล้วเท่านั้น แม้ว่าบางพระองค์อาจจะลาประเภทพิเศษก็ตาม ถือว่ายังมีคุณสมบัติจะพยากรณ์ได้ หากพบพระพุทธเจ้าที่ไม่ได้อธิษฐานแบบพิเศษมา ก็จะไม่มีรายละเอียดของการพยากรณ์ แต่จะบอกว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าประเภทพิเศษพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล
ดังนั้น การอธิษฐานแบบพิเศษนั้นจะสำเร็จได้ยากมาก พระโพธิสัตว์หลายพระองค์ได้ลาไป เพราะช่วงท้าย ๆ จะมีอุปสรรคขัดขวางเป็นจำนวนมาก จึงอธิษฐานลดกำลังลงมา เหลืออยู่ใน ๓ ประเภทที่สมเด็จองค์ปฐมทรงจัดไว้
แต่หากพระโพธิสัตว์องค์ใดมีกำลังใจมั่นคงในการเดินทาง ไม่หวั่นไหว เหล่าพรหมเทวดาทั้งหลายจะคอยช่วยเหลือ ประคับประคองท่านเหล่านั้นให้สำเร็จได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเป็นประเภทใดก็ตาม ล้วนแต่มีศักดิ์ศรีเสมอกันทุกพระองค์ ทรงสอนในเรื่อง..
๑. งดเว้นจากการทำชั่ว
๒. การทำความดี
๓. ทำใจให้บริสุทธิ์
โดยประกอบไปด้วยทาน ศีล ภาวนา ส่วนสิ่งปลีกย่อยในความรู้ต่าง ๆ นั้น อาจจะมีต่างกันบ้าง แต่หาใช่เป็นสาระไม่ สาระนั้นอยู่ที่การตัดกิเลส
_______________________________________
เหตุที่ยุคนี้มีเหล่าพุทธภูมิ หรือเหล่าพระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ก็ตามลงมาเกิดกันเยอะ เนื่องจากอายุขัยมนุษย์นั้นสั้น เร่งสร้างบารมีจะง่ายกว่ายุคอื่น ๆ
สำหรับเธอเอง หากค่อย ๆ เรียนรู้ พร้อมการเจริญสติจะทำให้เธอมีปัญญาแตกฉานในเรื่องต่าง ๆ โดยที่เธอไม่ต้องแสวงหา ความรู้นี้เป็นความรู้ที่เธอเคยเรียนมาแต่อดีต ผลมาปรากฏในปัจจุบัน เป็นความรู้ที่ข้ามภพข้ามชาติ
ดังนั้นเธอจงมีจิตที่เมตตาต่อผู้อื่น ที่เขาไม่รู้ แม้เขาจาบจ้วงแก่เธอก็อย่าได้ถือสา อันเนื่องจากความไม่รู้ของเขา แต่กฎของกรรมก็ยังคงทำงาน นั้นเป็นเรื่องของเขาในอนาคต อย่าเอาใจไปจดจ่อ
ส่วนคนที่มีความทุกข์มา ให้สงเคราะห์ตามโอกาสทึ่เป็น ถามครูอาจารย์ก่อนดีที่สุด เอาละคงมีเพียงเท่านี้ หากเธอปรารถนาจะพบฉันก็ไปพบได้ที่วิมานของฉันนะ”
บันทึกการปฏิบัติ วันนี้(๒๕ มีค.๕๘) เวลา ๑๕.๕๐ น.
วันนี้ตั้งจิตอธิษฐานขึ้นไปกราบสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔ (การผ่านไปยังโลกธาตุของสมเด็จพระอาทิพุทธเจ้านั้น จะมีแดนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังวิมานของพระพุทธองค์ หรืออีกหนึ่งโลกธาตุอันบริสุทธิ์)
บนทางเดินนั้นเป็นเพชรสวยงามระยิบระยับ เมื่อย่างเดินบนทางเดินนั้น มีดอกบัวสีขาวรองรับเท้าของเราไปทุกย่างก้าว ข้าง ๆ ทางมีต้นไม้แก้วสีเงิน มีเสียงดังกังวานไพเราะมาก
เมื่อไปยังประตูวิมานของพระพุทธอาทิพุทธเจ้า มีพระสุรเสียงอนุญาตให้เข้าไปภายใน มีพระโพธิสัตว์ ๒ พระองค์มาต้อนรับ คือ พระสุริยประภาโพธิสัตว์ และพระจันทรประภาโพธิสัตว์
300px-5buddha0.jpg
พบพระพุทธอาทิพุทธเจ้าในกายเนื้อ เมื่อมองไปทางซ้ายมือของพระพุทธองค์ เห็นพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๕ หรือพระไวโรจนะพุทธเจ้า ในชุดเครื่องทรงแบบธิเบต พร้อมพระธยานิพุทธเจ้าอีก ๔ พระองค์ นั่งตามลำดับอาวุโส พร้อมองค์พระโพธิสัตว์สายพระธยานิพุทธเจ้า
“....วันก่อนที่ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีเรื่องการสงสัย การสงสัยมี ๒ ประเภท คือ
๑.สงสัยแล้วถามเพื่อนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ และความก้าวหน้าการปฏิบัติ
๒. สงสัย เพื่อสนองความอยากรู้ และไม่ปฏิบัติ การสงสัยประเภทนี้ไม่ดี และเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง เป็นนิวรณ์เครื่องกั้นความเจริญก้าวหน้าไม่ว่า ทางโลกหรือทางธรรม
วันนี้ฉันแสดงให้เธอเห็นแล้วว่า มีความต่างอย่างไร ทั้งสองโลกธาตุของฉัน และของพระธยานิพุทธเจ้าก็มีความต่างกันออกไป
สำหรับเรื่องพระธยานิพุทธเจ้านั้น ความจริงก็เกิดจากอธิษฐานของฉันในอดีต ให้มีผู้ที่สืบทอดเจตนารมณ์ของฉันให้ยังคงมีแดนธาตุโลกอยู่ตามความปรารถนาแห่งพระโพธิญาณ อันเปรียบเสมือนบุตรของฉัน
การบำเพ็ญบารมีของฉันมีความยาวนานมาพร้อมกับสมเด็จองค์ปฐม แต่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันโดยตรง ฉันเป็นสหธรรมิกของสมเด็จพระโภครัตนสัมภาวะพุทธเจ้า(ทรงบรรลุธรรมหลังสมเด็จองค์ปฐมในลำดับที่ ๙) เคยบำเพ็ญบารมีร่วมกันมาเมื่ออดีตกาลบนานมาแล้ว
ส่วนพระธยานิพุทธเจ้าทั้ง ๕ แท้จริงคือ พระโอรสของฉันในอดีตนั่นเอง และพระไภษัชคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้านั้น ก็คือ ๑ ในพระโอรสของฉันเช่นกัน
พระไวโรจนพุทธเจ้านั้น ปรารถนาจะเป็นพระพุทธสิกขีทศพล หรือพระพุทธเจ้าประเภทพิเศษเหมือนอย่างฉัน จึงต้องบำเพ็ญบารมีมานานหน่อย
พระธยานิทั้ง ๕ นั้น ส่วนใหญ่จะเคยเกิดเป็นพี่น้องกัน ในยุคที่ฉันบำเพ็ญบารมีนั้น พญามารเขาวางผังให้มนุษย์มีอายุสั้นกว่าเดิมมาก มีโรคมาก พระไภษัชคุรุฯ จึงปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าประเภทรักษาโรคทั้งกายใจ
ส่วนพระธยานิพุทธเจ้าทั้ง ๕ นั้นได้ร่วมกันค้นวิชาที่ทำให้มีอีกกายที่ไม่มีวันดับสูญ เรียกว่า “สัมโภคกาย” จะมีการเวียนไปของโลกธาตุของพระพุทธเจ้า เพื่อโปรดสรรพสัตว์ในจักรวาลต่าง ๆ แม้เวลานี้ก็ย่อมมีพระพุทธเจ้าในสายของฉัน โปรดสรรพสัตว์ในต่างจักรวาล ดังที่เธอได้เคยพบบางพระองค์แล้ว