สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Review เที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยหิมะ จากโอซาก้าถึงฮอกไกโด สำหรับความเดิมล่าสุด ผมเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโดครับ เมืองทั้งเป็นทั้งศูนย์กลางทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งเป็นเมืองที่อยู่บนเกาะมีสถานที่ท่องเที่ยว วิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก การมาเกาะฮอกไกโดคราวนี้จึงไม่พลาดที่จะตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆอย่างในหนังเรื่องแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียวครับ ซึ่งจะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ขอเชิญติดตามการเดินทางครั้งนี้กันได้เลยครับ
กระทู้หลัก >> Link :
https://ppantip.com/topic/36125638
กระทู้วันที่ 7 กพ 60 >> Link :
https://ppantip.com/topic/36128451
---------------------
8 กุมภาพันธ์ 2560 : แม้ว่าเมื่อคืนผมจะได้นอนตอนตีสาม แต่วันนี้ภารกิจยังคงต้องดำเนินต่อไปครับ ผมและชาวคณะออกเดินทางตั้งแต่ตี 5ครึ่ง โดยมีเป้าหมายแรกวันนี้ที่หมู่บ้าน NOBORIBETSU หรือหมู่บ้านออนเซ็นครับ สถานที่แรกที่เราจะไปวันนี้ได้แก่ หุบเขาจิงโกกุดานิ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า หุบเขานรกนั่นเอง (Hell Valley) สถานที่ที่คุณนุ้ยกับนายเด่นชัยยืนจ้องตากันครับ ออกเดินทางตอนเช้า ฟ้ายังไม่สว่างเลยครับ
การเดินทางไปยังหุบเขานรกนี้ ผมก็ต้องมาตั้งหลักจากสถานี JR Sapporo ก่อนครับ โดยเราจะนั่งรถไฟสาย Super Hokuto เพื่อนั่งย้อนกลับไปยังเมืองฮาโกะดาเตะอีกรอบ แต่คราวนี้จะลงกลางทางที่สถานี NOBORIBETSU รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ
เช้าๆที่สถานีซัปโปโร คนยังมีไม่ค่อยเยอะครับ
ขึ้นรถไฟสายโฮกุโตะมาแล้วครับ รอบ 6โมงครึ่ง ตอนเช้าๆ หนาวจับใจจริงๆ วิวข้างนอกมีแต่หิมะรายล้อมตลอดทาง
ผ่านไปชั่วโมงกว่า ตอนนี้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ NOBORIBETSU แล้วครับ คนไม่มีเลย เช้าจัด 555 เดินมาข้างหน้าจะเจอน้องหมีแบบในรูปนี่ละครับ พอหันหลังไปจะเจอกับที่ขายตัวรถ Bus ไปยังหมู่บ้านออนเซ็นครับ ราคารถบัสแบบไปกลับคือ 620เยนต่อคน ครับ
โดยเราจะใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 15 นาทีก็ถึงครับ ทางเข้าหมู่บ้านออนเซ็นโนโบริเบทซึ โดยรอบๆหมู่บ้านก็จะมีกิจกรรมให้ทำเยอะครับ เช่นดูหมี หรือแช่ออนเซ็นชั้นเยี่ยมที่โรงอาบน้ำ ส่วนเป้าหมายผมวันนี้ แค่เดินเข้าหุบเขานรกพอครับ
ทางเดินสองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ และน้ำแข็งปกคลุม ลื่นน่าดูเลยทีเดียวครับ
เดินไปซักพักจะเจอกับยักษ์แดง(ได้ยินว่ามีหลายตัว) ซึ่งเป็นยักษ์ที่เฝ้าประตูทางเข้าหุบเขานรกอยู่ครับ แลดูได้บรรยากาศเลยทีเดียว
เดินผ่านศาลเจ้าครับ (ไม่ได้ขึ้นทางนี้นะ)
มาถึงแล้วครับทางเข้าหุบเขานรก เจอบ้านหลังใหญ่ๆแบบนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ เป็นจุดพักสำหรับนักท่องเที่ยว
ทางเข้าก็จะมีป้ายสัญลักษณ์ครับ แสดงว่าท่านได้มาเหยียบปากหุบเขานรกแล้ว
โดยหุบเขาจิโกคุดาหนิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด (ที่มา :
http://beta.tiewyeepoon.com)
นี่ครับ ตรงทางเดินบนสะพาน บางจุดลื่นมากๆๆ มีคุณป้าบางท่านล้มไปหลายตลบเลยครับ
ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้จริงๆครับ ต้องขอโทษคุณนุ้ยด้วยจริงๆครับ หากน้องผมไป cast แทนนี่คุณนุ้ยอาจจะไม่ได้เกิดก็ได้ 555
เดินเล่นถ่ายรูปอยู่บริเวณหุบเขานรกอยู่นานครับ ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ก่อนกลับแวะเข้าไปหลบหนาวในจุดพักนักท่องเที่ยวก่อนครับ ข้างในมีฮีทเตอร์อุ่นๆๆให้พักพิง
เนี่ยครับ ทางเดินกลับ พื้นเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ลื่นมากๆๆ หากใส่รองเท้าไม่มีดอกมาละก็ได้เสียวแน่นอนครับ
บริเวณหน้า Bus Station ครับ เดินมารอรถกลับ คราวนี้ได้รอบ 11.20 ครับ
จากนั้นขึ้นรถไฟกลับเมืองโอตารุครับ ปรากฎว่ารถไฟขากลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตู้ Nonreserved ไม่มีที่ว่างเลยครับ สภาพก็อย่างที่เห็นครับ นั่งเบียดอยู่กลางโบกี้แทน 555+
ภาพตัดกลับมา ตอนบ่ายสองครับ เดินทางมาถึงแล้ววววว เมืองโอตารุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของเกาะฮอกไกโด เมืองนี้มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตก และมีบรรยากาศที่โรแมนติคอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยครับ พอออกจากสถานีมาแทบตกใจ หิมะขาวโพลน
[CR] Review วันที่ 4 ตามรอยภาพยนต์แฟนเดย์ หุบเขานรก / หอนาฬิกาไอน้ำ / พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี / เดินเล่นงานเทศกาลหิมะสวนโอโดริ
กระทู้หลัก >> Link : https://ppantip.com/topic/36125638
กระทู้วันที่ 7 กพ 60 >> Link : https://ppantip.com/topic/36128451
---------------------
8 กุมภาพันธ์ 2560 : แม้ว่าเมื่อคืนผมจะได้นอนตอนตีสาม แต่วันนี้ภารกิจยังคงต้องดำเนินต่อไปครับ ผมและชาวคณะออกเดินทางตั้งแต่ตี 5ครึ่ง โดยมีเป้าหมายแรกวันนี้ที่หมู่บ้าน NOBORIBETSU หรือหมู่บ้านออนเซ็นครับ สถานที่แรกที่เราจะไปวันนี้ได้แก่ หุบเขาจิงโกกุดานิ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า หุบเขานรกนั่นเอง (Hell Valley) สถานที่ที่คุณนุ้ยกับนายเด่นชัยยืนจ้องตากันครับ ออกเดินทางตอนเช้า ฟ้ายังไม่สว่างเลยครับ
การเดินทางไปยังหุบเขานรกนี้ ผมก็ต้องมาตั้งหลักจากสถานี JR Sapporo ก่อนครับ โดยเราจะนั่งรถไฟสาย Super Hokuto เพื่อนั่งย้อนกลับไปยังเมืองฮาโกะดาเตะอีกรอบ แต่คราวนี้จะลงกลางทางที่สถานี NOBORIBETSU รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ
เช้าๆที่สถานีซัปโปโร คนยังมีไม่ค่อยเยอะครับ
ขึ้นรถไฟสายโฮกุโตะมาแล้วครับ รอบ 6โมงครึ่ง ตอนเช้าๆ หนาวจับใจจริงๆ วิวข้างนอกมีแต่หิมะรายล้อมตลอดทาง
ผ่านไปชั่วโมงกว่า ตอนนี้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ NOBORIBETSU แล้วครับ คนไม่มีเลย เช้าจัด 555 เดินมาข้างหน้าจะเจอน้องหมีแบบในรูปนี่ละครับ พอหันหลังไปจะเจอกับที่ขายตัวรถ Bus ไปยังหมู่บ้านออนเซ็นครับ ราคารถบัสแบบไปกลับคือ 620เยนต่อคน ครับ
โดยเราจะใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 15 นาทีก็ถึงครับ ทางเข้าหมู่บ้านออนเซ็นโนโบริเบทซึ โดยรอบๆหมู่บ้านก็จะมีกิจกรรมให้ทำเยอะครับ เช่นดูหมี หรือแช่ออนเซ็นชั้นเยี่ยมที่โรงอาบน้ำ ส่วนเป้าหมายผมวันนี้ แค่เดินเข้าหุบเขานรกพอครับ
ทางเดินสองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ และน้ำแข็งปกคลุม ลื่นน่าดูเลยทีเดียวครับ
เดินไปซักพักจะเจอกับยักษ์แดง(ได้ยินว่ามีหลายตัว) ซึ่งเป็นยักษ์ที่เฝ้าประตูทางเข้าหุบเขานรกอยู่ครับ แลดูได้บรรยากาศเลยทีเดียว
เดินผ่านศาลเจ้าครับ (ไม่ได้ขึ้นทางนี้นะ)
มาถึงแล้วครับทางเข้าหุบเขานรก เจอบ้านหลังใหญ่ๆแบบนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ เป็นจุดพักสำหรับนักท่องเที่ยว
ทางเข้าก็จะมีป้ายสัญลักษณ์ครับ แสดงว่าท่านได้มาเหยียบปากหุบเขานรกแล้ว
โดยหุบเขาจิโกคุดาหนิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด (ที่มา : http://beta.tiewyeepoon.com)
นี่ครับ ตรงทางเดินบนสะพาน บางจุดลื่นมากๆๆ มีคุณป้าบางท่านล้มไปหลายตลบเลยครับ
ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้จริงๆครับ ต้องขอโทษคุณนุ้ยด้วยจริงๆครับ หากน้องผมไป cast แทนนี่คุณนุ้ยอาจจะไม่ได้เกิดก็ได้ 555
เดินเล่นถ่ายรูปอยู่บริเวณหุบเขานรกอยู่นานครับ ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ก่อนกลับแวะเข้าไปหลบหนาวในจุดพักนักท่องเที่ยวก่อนครับ ข้างในมีฮีทเตอร์อุ่นๆๆให้พักพิง
เนี่ยครับ ทางเดินกลับ พื้นเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ลื่นมากๆๆ หากใส่รองเท้าไม่มีดอกมาละก็ได้เสียวแน่นอนครับ
บริเวณหน้า Bus Station ครับ เดินมารอรถกลับ คราวนี้ได้รอบ 11.20 ครับ
จากนั้นขึ้นรถไฟกลับเมืองโอตารุครับ ปรากฎว่ารถไฟขากลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตู้ Nonreserved ไม่มีที่ว่างเลยครับ สภาพก็อย่างที่เห็นครับ นั่งเบียดอยู่กลางโบกี้แทน 555+
ภาพตัดกลับมา ตอนบ่ายสองครับ เดินทางมาถึงแล้ววววว เมืองโอตารุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของเกาะฮอกไกโด เมืองนี้มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตก และมีบรรยากาศที่โรแมนติคอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยครับ พอออกจากสถานีมาแทบตกใจ หิมะขาวโพลน