地獄谷 (Jigokudani)
Hell Valley
สถานที่ที่ถูกเรียกว่า "หุบเขานรก"
แต่ถ้าหากใครได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
จะรู้เลยว่า บรรยากาศ ไม่ไกลเคียงกับชื่อสักนิด =)
*สถานที่แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งในฉากน่าประทับใจ จากภาพยนตร์เรื่อง Fanday ของค่าย GDH ซึ่งเป็นฉากที่พระเอก เด่นชัย มองสบตากับ คุณนุ้ย นางเอก 1 นาที ที่ทำให้เหล่าคนดูอย่างเราๆ เขินไปตามๆกัน*
หุบเขานรก แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองหลวง ซัปโปโร เพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ โดยรถไฟ JR เท่านั้น
เพราะงั้น ถ้าใครอยากมาเที่ยวที่นี่แบบไม่ได้มีจุดมุ่งหมายมาแช่ออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน)
ก็สามารถมาเที่ยวแบบ เช้า เย็น กลับจากซัปโปโรได้สบายๆ
**เมือง โนโบริเบ็ทสึ เป็นหนึ่งในเมืองขึ้นชื่อเรื่องการแช่ออนเซ็น ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวไม่น้อย ที่เดินทางมาพักค้างแรมในเมือง เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ พร้อมทั้งแช่บ่อน้ำร้อนไปในตัว**
เรามาดูกันดีกว่าครับ
ว่าที่หุบเขานรกนี้ เราจะได้เจออะไรกันบ้าง
ภาพตัวอย่างก่อนเข้ารับชม รีวิวจริง
(แหน่ะ เดี๋ยวนี้หมีมันมีพรีวิว)
มา!!!
เราสองคนเดินทางออกจากซัปโปโร ตั้งแต่เช้า เพื่อจะได้มีเวลาเดินเล่นที่หุบเขานรกกันมากขึ้น
เลยนั่งรถไฟ JR ตั้งแต่รอบ 8:39 น. เลยครับ
(แต่จริงๆมีรอบเช้ากว่านี้นะ เผื่อใครอยากไปแช่บ่อน้ำร้อน)
ถึงแล้วววววววววว ประมาณ 10:00 น.
เราก็มาถึงที่ Noboribetsu Station
ซึ่งจริงๆแล้วนอกจาก หุบเขานรก แล้ว
ที่เมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากคือ หมู่บ้านหมี
ซึ่ง!!! เคยมีข่าวว่า หลังจากเหล่าหมีจำศีลมานาน
พอตื่นก็หิว....... เลยบุกหมู่บ้านลงมากินคน = =
จริงไม่จริงไม่รู้ เจ้าหมูเล่าให้ฟัง
ป่ะ เราไปหุบเขานรกกันดีกว่า
เริ่มแรกก็เดินออกมาจากสถานีรถไฟ เลี้ยวขวา หมุนรอบตัว 3 รอบ เราก็จะเจอป้ายรถเมล์ ทาดาาาาาาาา (หมุนทำไม)
และรถเมล์สายนี้ก็จะพาเราไปสู่ Noboribetsu Onsen
เย้!! นั่งรถเมล์เพียง 10 กว่านาที
เราก็มาถึงที่หมู่บ้านออนเซ็นแล้ว
ซึ่งเราจะสังเกตุได้ และเข้าใจในทันที
ว่าแถวนี้ เหมาะเป็นหุบเขา หรือประตูนรกจริงๆ
เพราะสองข้างทาง จะมีรูปปั้นยักษ์ ตั้งอยู่เป็นระยะๆ
ตามสไตล์เด็กอ้วนอย่างหมีหมู
ต่อให้อยู่เฉียดประตูนรก ก็บ่ยั่น จะหาของกินหรอก
และอากาศเย็นๆแบบนี้
มีเหรอ ที่จะพลาดการกินไอติมของแต่ละเมือง
(จริงๆก็รสชาติใกล้เคียงกันนะ ที่อธิบายไปคือเอาไว้เข้าข้างความอ้วนของตัวเองน่ะ)
**บอกเลย อากาศเย็นๆ กินไอติมนี่ฟินมากๆ**
หลังจากได้ติมแล้ว
เราก็เดินผ่านศาลเจ้า เอ็นมะ หรือยมบาล ของญี่ปุ่นนั่นเอง
เลยแวะไหว้สักหน่อย
ประตูศาลเจ้า
ยักษ์ฟ้า ผู้เฝ้าประตูยมโลก
ยักษ์แดง คู่หูยักษ์ฟ้า
..............ข้างหน้า...............
เอ่อ.........หมู...........ผู้พยายามทำตัวเข้ากับสถานที่ในทุกแห่งหน
ถึงแล้ววววววว
JIGOKUDANI - Hell Valley
เรามาดูกัน ว่ามันจะสวยจับใจแค่ไหน
ควันที่พวกพุ่งออกมา ไม่เหม็นกลิ่นกำมะถันอย่างที่คิดนะครับ
ดูห่างๆ เหมือนหมอกซะมากกว่า
หากใครแวะมาหน้าร้อน จะมีเส้นทางอื่นๆเปิดให้เดินอีกมากมาย เพราะช่วงที่หมีหมูไป เป็นหน้าหนาว ทำให้ทางเดินขึ้นเขาบางส่วน
ได้ถูกปิดไป อาจจะเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย
ก่อนกลับ
เราก็แวะหาอะไรหม่ำกันในร้านขายของตรงปากทางเข้า หุบเขานรก
ทาดาาาาาา
ไว้จบทริปแล้วเราจะมารีวิวอาหารตามร้านสะดวกซื้อให้ดูกันเนอะ
ยังไงวันนี้ หมีหมู ขอลากันไปก่อนนะครับ
อยากบอกเลยว่าที่หุบเขานรก หากมีเวลา แวะมาเถอะ
มันสวยจริงๆนะ
ยังไงวันนี้ก็ลาละคร้าบบบ
บ๊ายบายยยยย
(จากเจ้ายักษ์ข้างหลัง)
#theplanners
#เที่ยวกับแฟน
[CR] ตามรอยหนัง "แฟนเดย์" ณ หุบเขานรก Jigokudani @ Noboribetsu, Hokkaido
地獄谷 (Jigokudani)
Hell Valley
สถานที่ที่ถูกเรียกว่า "หุบเขานรก"
แต่ถ้าหากใครได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
จะรู้เลยว่า บรรยากาศ ไม่ไกลเคียงกับชื่อสักนิด =)
*สถานที่แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งในฉากน่าประทับใจ จากภาพยนตร์เรื่อง Fanday ของค่าย GDH ซึ่งเป็นฉากที่พระเอก เด่นชัย มองสบตากับ คุณนุ้ย นางเอก 1 นาที ที่ทำให้เหล่าคนดูอย่างเราๆ เขินไปตามๆกัน*
หุบเขานรก แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองหลวง ซัปโปโร เพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ โดยรถไฟ JR เท่านั้น
เพราะงั้น ถ้าใครอยากมาเที่ยวที่นี่แบบไม่ได้มีจุดมุ่งหมายมาแช่ออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน)
ก็สามารถมาเที่ยวแบบ เช้า เย็น กลับจากซัปโปโรได้สบายๆ
**เมือง โนโบริเบ็ทสึ เป็นหนึ่งในเมืองขึ้นชื่อเรื่องการแช่ออนเซ็น ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวไม่น้อย ที่เดินทางมาพักค้างแรมในเมือง เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ พร้อมทั้งแช่บ่อน้ำร้อนไปในตัว**
เรามาดูกันดีกว่าครับ
ว่าที่หุบเขานรกนี้ เราจะได้เจออะไรกันบ้าง
ภาพตัวอย่างก่อนเข้ารับชม รีวิวจริง
(แหน่ะ เดี๋ยวนี้หมีมันมีพรีวิว)
มา!!!
เราสองคนเดินทางออกจากซัปโปโร ตั้งแต่เช้า เพื่อจะได้มีเวลาเดินเล่นที่หุบเขานรกกันมากขึ้น
เลยนั่งรถไฟ JR ตั้งแต่รอบ 8:39 น. เลยครับ
(แต่จริงๆมีรอบเช้ากว่านี้นะ เผื่อใครอยากไปแช่บ่อน้ำร้อน)
ถึงแล้วววววววววว ประมาณ 10:00 น.
เราก็มาถึงที่ Noboribetsu Station
ซึ่งจริงๆแล้วนอกจาก หุบเขานรก แล้ว
ที่เมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากคือ หมู่บ้านหมี
ซึ่ง!!! เคยมีข่าวว่า หลังจากเหล่าหมีจำศีลมานาน
พอตื่นก็หิว....... เลยบุกหมู่บ้านลงมากินคน = =
จริงไม่จริงไม่รู้ เจ้าหมูเล่าให้ฟัง
ป่ะ เราไปหุบเขานรกกันดีกว่า
เริ่มแรกก็เดินออกมาจากสถานีรถไฟ เลี้ยวขวา หมุนรอบตัว 3 รอบ เราก็จะเจอป้ายรถเมล์ ทาดาาาาาาาา (หมุนทำไม)
และรถเมล์สายนี้ก็จะพาเราไปสู่ Noboribetsu Onsen
เย้!! นั่งรถเมล์เพียง 10 กว่านาที
เราก็มาถึงที่หมู่บ้านออนเซ็นแล้ว
ซึ่งเราจะสังเกตุได้ และเข้าใจในทันที
ว่าแถวนี้ เหมาะเป็นหุบเขา หรือประตูนรกจริงๆ
เพราะสองข้างทาง จะมีรูปปั้นยักษ์ ตั้งอยู่เป็นระยะๆ
ตามสไตล์เด็กอ้วนอย่างหมีหมู
ต่อให้อยู่เฉียดประตูนรก ก็บ่ยั่น จะหาของกินหรอก
และอากาศเย็นๆแบบนี้
มีเหรอ ที่จะพลาดการกินไอติมของแต่ละเมือง
(จริงๆก็รสชาติใกล้เคียงกันนะ ที่อธิบายไปคือเอาไว้เข้าข้างความอ้วนของตัวเองน่ะ)
**บอกเลย อากาศเย็นๆ กินไอติมนี่ฟินมากๆ**
หลังจากได้ติมแล้ว
เราก็เดินผ่านศาลเจ้า เอ็นมะ หรือยมบาล ของญี่ปุ่นนั่นเอง
เลยแวะไหว้สักหน่อย
ประตูศาลเจ้า
ยักษ์ฟ้า ผู้เฝ้าประตูยมโลก
ยักษ์แดง คู่หูยักษ์ฟ้า
..............ข้างหน้า...............
เอ่อ.........หมู...........ผู้พยายามทำตัวเข้ากับสถานที่ในทุกแห่งหน
ถึงแล้ววววววว
JIGOKUDANI - Hell Valley
เรามาดูกัน ว่ามันจะสวยจับใจแค่ไหน
ควันที่พวกพุ่งออกมา ไม่เหม็นกลิ่นกำมะถันอย่างที่คิดนะครับ
ดูห่างๆ เหมือนหมอกซะมากกว่า
หากใครแวะมาหน้าร้อน จะมีเส้นทางอื่นๆเปิดให้เดินอีกมากมาย เพราะช่วงที่หมีหมูไป เป็นหน้าหนาว ทำให้ทางเดินขึ้นเขาบางส่วน
ได้ถูกปิดไป อาจจะเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย
ก่อนกลับ
เราก็แวะหาอะไรหม่ำกันในร้านขายของตรงปากทางเข้า หุบเขานรก
ทาดาาาาาา
ไว้จบทริปแล้วเราจะมารีวิวอาหารตามร้านสะดวกซื้อให้ดูกันเนอะ
ยังไงวันนี้ หมีหมู ขอลากันไปก่อนนะครับ
อยากบอกเลยว่าที่หุบเขานรก หากมีเวลา แวะมาเถอะ
มันสวยจริงๆนะ
ยังไงวันนี้ก็ลาละคร้าบบบ
บ๊ายบายยยยย
(จากเจ้ายักษ์ข้างหลัง)
#theplanners
#เที่ยวกับแฟน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น