รู้ไว้ใช่ว่า .... เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (วันหนึ่งอาจเป็นคนใกล้ตัวท่าน)

สวัสดีครับ  หากกล่าวถึงภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉิน  ใครไม่เคยประสบกับตัวเองก็คงไม่ทราบว่ามันเป็นภาวะที่ร้ายแรงเพียงใด
การส่งผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมักจะมากับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างหนึ่งคือเรื่อง "ค่ารักษา" .... จากคำว่า "ฉุกเฉิน" นั้น
ก็บอกอยู่แล้วว่ามีความจำเป็นต้องส่งผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้สุดก่อนเพื่อรักษาชีวิต  ซึ่งหากโรงพยาบาลนั้น
คือ รพ.เอกชนก็จะมีปัญหาเรื่องค่ารักษาตามมาทันที  จากปัญหานี้  ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)  
และ  สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )  ได้จัดตั้งระบบการแพทย์ฉุกเฉินเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว
โดยมีชื่อเดิมว่า เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ  และเมื่อ 3 วันที่านมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น
เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่”  โดยชื่อภาษาอังกฤษยังคงเดิมคือ EMCO (Emergency Claim Online)  
ตลอด 4 ปี มีผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลตามสิทธิดังกล่าวมากกว่า 70,000 คน

ใครจะมีสิทธิได้รับการรักษาแบบนี้บ้าง ?  
ผู้ป่วยที่มีสิทธิรักษาในโครงการนี้ก็คือคนไทยทุกคนนั่นเอง  โดยยึดถือตามสิทธิของ 3 กองทุน คือ
1. ข้าราชการที่เบิกค่ารักษาจากกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง (ประมาณ 5 ล้านคน)
2. ลูกจ้างพนักงาน  จากกองทุนประกันสังคม (ประมาณ 10 ล้านคน)
3. ประชาชนทั่วไปตามสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ประมาณ 48 ล้านคน)

สิทธิที่ได้รับเป็นอย่างไร ?
สิทธิที่ได้รับในการรักษาพยาบาลฉุกเฉินนี้  ผู้ป่วยสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ เอกชน ทุกแห่ง
โดยไม่มีการถามสิทธิ์ก่อนการรักษา และ ไม่ต้องสำรองเงินค่ารักษาออกไปก่อน  โดยทางโรงพยาบาล
จะรักษาผู้ป่วยให้ใน 72 ชั่วโมงแรก

สิทธินี้ ใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินขั้นใด ?
ระบบนี้  จะใช้กับผู้ป่วยที่เรียกว่า "วิกฤติระดับสีแดง"  กล่าวคือผู้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้ครับ
- หัวใจหยุดเต้น" (Cardiac arrest)  
- ภาวะหยุดหายใจ  
- ภาวะ ช็อก จากการเสียเลือดรุนแรง  
- ชักตลอดเวลา หรือ ชักจนตัวเขียว  
- อาการซึม หมดสติ ไม่รู้สึกตัว  
- อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- อาการทางสมองจากหลอดเลือดสมองตีบตันเฉียบพลันมีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด  
- การบาดเจ็บที่มีเลือดออกมากอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา


   ปัจจุบันนี้  ได้มีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินนี้ให้ผู้ป่วยเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อยุคปัจจุบัน
โดยทาง สพฉ. ได้พัฒนา Application ชื่อว่า ThaiEMS1669 (ทั้ง Android และ iOS)
โดยตัว App. สามารถแจ้งเหตุผ่าน 1669  และมีการส่งข้อมูล ชื่อ-สกุล  หมายเลขโทรศัพท์  อีเมล  เพศ  
ปีเกิด และ/หรือ ข้อมูลส่วนตัวเช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา  โดยจะระบุพิกัดที่เกิดเหตุ (latitude, longitude)
และส่งภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุได้ด้วย  นอกจากนั้นตัว app. จะมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
อาทิ แนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับสารเคมี ภาวะเลือดออก หมดสติกะทันหัน หัวใจวาย
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น  รวมทั้งยังมีรายชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุด้วยครับ


ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะมีมานานแล้ว  แต่ก็มีความสำคัญยิ่งกับกรณีฉุกเฉินครับ
บางท่านก็อาจไม่ทราบว่ามีการพัฒนาเป็น App. สำหรับ Andriod - iOS แล้ว
ก็ download มาติดเครื่องใว้  จะมีประโยชน์ครับ

สวัสดีครับ อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่