พอดีดู youtube แล้วฮากับคอมเมนต์นี้ครับ
แท็กซี่คันแรก รับคุณช่อลัดดา ที่เรียกไปโรงพยาบาลบางมด แต่คนขับเห็นอาการ จากที่เข้าใจว่าโดนน้ำร้อนสาด มันต้องรักษาเร่งด่วน มันฉุกเฉินต้องพาไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด เลยพาไป รพ.พระราม 2 แต่แปลกว่า พยาบาลที่นั่นกลับไม่คิดว่ามันฉุกเฉินต้องกักตัวไว้ ไอ้ที่ปรึกษาก็บอกว่าไม่ฉุกเฉิน
(อันนี้คือผมโพสต์จิกขันๆเฉยๆนะครับ จริงๆคือรู้น่ะว่า รพ.เขารู้ว่ามันฉุกเฉินแต่ต้องแก้ตัวออกมาแบบนั้น)
ตามกฎหมาย รพ.ต้องไม่ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไปไหน ถึงแม้ผู้ป่วยจะขอไปเองด้วยซ้ำ ยกเว้นว่าหมอสั่งย้ายเพราะเห็นว่าที่อื่นรักษาได้ดีกว่า มีโอกาสรอดมากกว่า และห้ามเอาเรื่องสิทธิการรักษามาเป็นประเด็นให้ย้าย รพ. หรือไม่รีบเร่งรักษา สำหรับกรณีฉุกเฉิน
พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551
มาตรา 28
(๒) "ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินจนเต็มขีดความสามารถของหน่วยปฏิบัติการหรือสถานพยาบาลนั้นก่อนการส่งต่อ เว้นแต่มีแพทย์ให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น"
(๓) "การปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความจําเป็นและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมิให้นําสิทธิการประกัน การขึ้นทะเบียนสถานพยาบาล หรือความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยฉุกเฉินหรือเงื่อนไขใด ๆ มาเป็นเหตุปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไม่ได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างทันทวงที"
เมื่อแท็กซี่ ประเมินอาการผู้ป่วยได้ถูกต้องกว่า โรงพยาบาลพระราม 2
แท็กซี่คันแรก รับคุณช่อลัดดา ที่เรียกไปโรงพยาบาลบางมด แต่คนขับเห็นอาการ จากที่เข้าใจว่าโดนน้ำร้อนสาด มันต้องรักษาเร่งด่วน มันฉุกเฉินต้องพาไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด เลยพาไป รพ.พระราม 2 แต่แปลกว่า พยาบาลที่นั่นกลับไม่คิดว่ามันฉุกเฉินต้องกักตัวไว้ ไอ้ที่ปรึกษาก็บอกว่าไม่ฉุกเฉิน
(อันนี้คือผมโพสต์จิกขันๆเฉยๆนะครับ จริงๆคือรู้น่ะว่า รพ.เขารู้ว่ามันฉุกเฉินแต่ต้องแก้ตัวออกมาแบบนั้น)
ตามกฎหมาย รพ.ต้องไม่ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไปไหน ถึงแม้ผู้ป่วยจะขอไปเองด้วยซ้ำ ยกเว้นว่าหมอสั่งย้ายเพราะเห็นว่าที่อื่นรักษาได้ดีกว่า มีโอกาสรอดมากกว่า และห้ามเอาเรื่องสิทธิการรักษามาเป็นประเด็นให้ย้าย รพ. หรือไม่รีบเร่งรักษา สำหรับกรณีฉุกเฉิน
พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551
มาตรา 28
(๒) "ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินจนเต็มขีดความสามารถของหน่วยปฏิบัติการหรือสถานพยาบาลนั้นก่อนการส่งต่อ เว้นแต่มีแพทย์ให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น"
(๓) "การปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความจําเป็นและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมิให้นําสิทธิการประกัน การขึ้นทะเบียนสถานพยาบาล หรือความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยฉุกเฉินหรือเงื่อนไขใด ๆ มาเป็นเหตุปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไม่ได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างทันทวงที"