สวัสดีคะ ตอนนี้เจ้าของกระทู้ตั้งครรภ์แรกและมีประสบการณ์เบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเบาหวานแฝงมาแชร์คะ ซึ่งปกติคนท้องส่วนใหญ่จะเกิดภาวะน้ำตาลสูงประมาณเดือนที่เจ็ดของการตั้งครรภ์แต่เราเกิดภาวะน้ำตาลสูงตั้งแต่เดือนที่สาม ซึ่งพอทราบว่าน้ำตาลสูงคุณหมอก็ให้ตรวจ GTT,OGTT เป็นการดื่มกลูโคลสเพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ถ้าใครตรวจเจอแล้วอย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลเพราะมีวิธีดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่ต้องควบคุมแป้งและน้ำตาลก่อนไปตรวจเพื่อให้ค่าที่ได้กลับมาเป็นปกติคะ ซึ่งเราหลังจากตรวจทั้ง GTT,OGTT แล้วไม่ผ่านทั้งสองอย่าง หมอเลยแนะนำให้ซื้อเครื่องเจาะน้ำตาลมา เจาะเองที่บ้านและแจ้งว่าหากไม่สามารถคุมน้ำตาลในค่าที่กำหนดได้หลังจากตรวจเองประมาณหนึ่งสัปดาห์จะต้องไปแอดมิด รพ.3คืนเพื่อให้ รพ.ควบคุมอาหารและเจาะเลือดให้ ซึ่งทำให้ตัวเองคนรอบข้างเครียดมาก พยายามหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเบาหวานในคนท้อง พบว่าหากคุมน้ำตาลไม่ได้จะต้องฉีดอิซูลินที่หน้าท้อง นอกจากนี้ยังผลกระทบอื่นๆ เช่น เด็กจะตัวโตผิดปกติคลอดยาก ครรภ์เป็นพิษ ความดันเลือดสูง ในครรภ์ต่อๆไปก็จะมีอาการเบาหวานอีก แม่เสี่ยงจะเป็นเบาหวานจริงหากไม่ปรับนิสัยการรับประทานอาหาร หากจะตั้งครรภ์ต่อๆไปต้อปรึกษาแพทย์ก่อน ยิ่งพาให้เครียดเข้าไปอีก ร้องไห้เอาขาก่ายหน้าผาก แต่เครียดไปก็ยิ่งท้อเลยหาต้องวิธีคุมน้ำตาลที่ได้ทำแล้วได้ผลกับเรา(ตอนนี้ท้องแปดเดือนแล้วยังคุมน้ำตาลได้อยู่)มาแชร์คะ เผื่อว่าคุณหรือคนใกล้ตัวเจอปัญหานี้จะได้มีไอเดียไปประยุกต์กับชีวิตประจำวัน
1.การกิน ถ้าทำอาหารเองได้จะดีกว่า
-งดแป้งน้ำตาล ส่วนตัวกินข้าวไรซ์เบอรี่ หุงเหมือนหุงข้าวปกติแต่ถ้ากลัวไม่อร่อยให้ผสมข้าวหอมมะลิครึ่งหนึ่งแล้วหุงตามปกติคะถ้าเจอข้าวแข็งแนะนำให้แช่น้ำหนึ่งคืนก่อนเอาข้าวมาหุงช่วยให้ข้าวนิ่มลง
-กินผักครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งมื้อ เราทำแกงจืดเป็นส่วนใหญ่เพราะไม่ต้องเติมน้ำตาล ช่วยในเรื่องขับถ่ายด้วย
-กินผลไม้ที่ไม่หวาน ที่เรากินได้ มีแค่ ฝรั่ง ชมพู่ ที่หมอห้าม มีส้ม แอปเปิ้ล มะละกอ ส่วนสับปะรดกับแตงโมเราไม่แตะเลย
-นม เรากินนมตราหมีเพราะไม่หวาน
2.การเจาะเลือด
-หาซื้อเครื่องเจาะเลือดสำหรับคนเป็นเบาหวานได้ตามร้านขายยาหรือร้านออนไลน์ราคาหลักพัน(ก่อนซื้อเราก็มาอ่านรีวิวในพันทิปนี่แหละ)
-วิธีเจาะเลือดง่ายมาก ไม่เจ็บ ไม่เสียเวลา แค่เจาะเลือดด้วยปากกาเข็ม หยดเลือดบนแผ่นสตริปอ่านค่าจากเครื่องเจาะเลือด
-ผลเลือดที่อ่านค่าได้เฉพาะคนท้องนะคะเพราะเกณฑ์จะต่างจากคนปกติ จะวัดค่าสองช่วงเวลา
ตื่นนอน ต้องน้อยกว่า 95หรือ 110 mg/dL (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) คือถ้าน้อยกว่า 110 ถือว่าไม่เกิน
หลังอาหารสองชั่วโมง ต้องน้อยกว่า 120 หรือ 140 mg/dL (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) คือถ้าน้อยกว่า 140 ถือว่าไม่เกิน
ซึ่งเราต้องเจาะตรวจน้ำตาลนี้ไปจนคลอดและเอาผลตรวจไปให้หมอที่เราฝากท้องดูด้วยเผื่อหมอจะมีคำแนะนำต่างๆให้นะคะแต่อย่าลืมว่าหากค่าที่ได้เกินจากที่กำหนด ต้องไป รพ. ทันทีแต่ถ้าเราคุมได้ก็ไม่ต้องกังวล ผลเลือดก็จะแตกต่างไปตามอาหารที่เรากินนั่นแหละคะ ช่วงแรกก็ต้องดูว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ แต่ไม่ต้องเครียดนะคะเราปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็จะรู้เองว่าอะไรควรกิน คิดซะว่าเพื่อลูกในท้องที่เราต้องเลือกอาหารให้เค้านะคะ พอเค้าคลอดเราก็จะหายเป็นปกติเพราะสายรกหลุดออกไปแล้วแต่อย่าชะล่าใจเพราะโอกาสที่แม่จะเป็นเบาหวานมีสูงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นหากไม่ดูแลหรือเปลี่ยนนิสัยการกิน ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากเล่าสู่กันฟังคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่อ่านอยู่หรือคุณพ่อ คุณแม่ที่ประสบปัญหาเดียวกันนะคะ อยากเป็นกำลังใจให้ก้าวข้ามผ่านไปได้เพื่อลูกน้อยที่แข็งแรงคะ
ดราม่าเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เศร้าแท้แต่อดทน
1.การกิน ถ้าทำอาหารเองได้จะดีกว่า
-งดแป้งน้ำตาล ส่วนตัวกินข้าวไรซ์เบอรี่ หุงเหมือนหุงข้าวปกติแต่ถ้ากลัวไม่อร่อยให้ผสมข้าวหอมมะลิครึ่งหนึ่งแล้วหุงตามปกติคะถ้าเจอข้าวแข็งแนะนำให้แช่น้ำหนึ่งคืนก่อนเอาข้าวมาหุงช่วยให้ข้าวนิ่มลง
-กินผักครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งมื้อ เราทำแกงจืดเป็นส่วนใหญ่เพราะไม่ต้องเติมน้ำตาล ช่วยในเรื่องขับถ่ายด้วย
-กินผลไม้ที่ไม่หวาน ที่เรากินได้ มีแค่ ฝรั่ง ชมพู่ ที่หมอห้าม มีส้ม แอปเปิ้ล มะละกอ ส่วนสับปะรดกับแตงโมเราไม่แตะเลย
-นม เรากินนมตราหมีเพราะไม่หวาน
2.การเจาะเลือด
-หาซื้อเครื่องเจาะเลือดสำหรับคนเป็นเบาหวานได้ตามร้านขายยาหรือร้านออนไลน์ราคาหลักพัน(ก่อนซื้อเราก็มาอ่านรีวิวในพันทิปนี่แหละ)
-วิธีเจาะเลือดง่ายมาก ไม่เจ็บ ไม่เสียเวลา แค่เจาะเลือดด้วยปากกาเข็ม หยดเลือดบนแผ่นสตริปอ่านค่าจากเครื่องเจาะเลือด
-ผลเลือดที่อ่านค่าได้เฉพาะคนท้องนะคะเพราะเกณฑ์จะต่างจากคนปกติ จะวัดค่าสองช่วงเวลา
ตื่นนอน ต้องน้อยกว่า 95หรือ 110 mg/dL (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) คือถ้าน้อยกว่า 110 ถือว่าไม่เกิน
หลังอาหารสองชั่วโมง ต้องน้อยกว่า 120 หรือ 140 mg/dL (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) คือถ้าน้อยกว่า 140 ถือว่าไม่เกิน
ซึ่งเราต้องเจาะตรวจน้ำตาลนี้ไปจนคลอดและเอาผลตรวจไปให้หมอที่เราฝากท้องดูด้วยเผื่อหมอจะมีคำแนะนำต่างๆให้นะคะแต่อย่าลืมว่าหากค่าที่ได้เกินจากที่กำหนด ต้องไป รพ. ทันทีแต่ถ้าเราคุมได้ก็ไม่ต้องกังวล ผลเลือดก็จะแตกต่างไปตามอาหารที่เรากินนั่นแหละคะ ช่วงแรกก็ต้องดูว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ แต่ไม่ต้องเครียดนะคะเราปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็จะรู้เองว่าอะไรควรกิน คิดซะว่าเพื่อลูกในท้องที่เราต้องเลือกอาหารให้เค้านะคะ พอเค้าคลอดเราก็จะหายเป็นปกติเพราะสายรกหลุดออกไปแล้วแต่อย่าชะล่าใจเพราะโอกาสที่แม่จะเป็นเบาหวานมีสูงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นหากไม่ดูแลหรือเปลี่ยนนิสัยการกิน ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากเล่าสู่กันฟังคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่อ่านอยู่หรือคุณพ่อ คุณแม่ที่ประสบปัญหาเดียวกันนะคะ อยากเป็นกำลังใจให้ก้าวข้ามผ่านไปได้เพื่อลูกน้อยที่แข็งแรงคะ