99 ศพ บาดเจ็บสองพัน รัฐบาล ประชาชน วิศวกร ปืน เด็กวัยรุ่น ทะเลาะวิวาท ป้องกันตัว สมควรแก่เหตุ เกินกว่าเหตุ และ ชายชุดดำ

กระทู้คำถาม
เรื่องวิศวกร ยิงเด็กวัยรุ่นเสียชีวิต    เป็นวิจารณ์วิพากษ์กันคับเมือง   

แง่กฎหมาย  ก็ว่าเรื่องสมควรแก่เหตุหรือไม่  เกินกว่าเหตุหรือไม่  เป็นเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันตัวหรือไม่
เป็นการร่วมทะเลาะวิวาทหรือไม่   เป็นการเตรียมการเรื่องอาวุธปืนหรือไม่

ในทางสังคม  ทางอารมณ์   ก็แสดงความเห็นแบบซูโม่กิ๊ก

ฯลฯ



ทำให้นึกเปรียบเทียบถึงเหตุการณ์ปี 53   ว่า

นี่ไงครับ  นี่ไง
ที่ประเทศไทยต้องมีผังล้มเจ้า  มีกองกำลังติดอาวุธ  มีชายชุดดำยิงทหาร ยิงประชาชน

ก็เพื่อให้รัฐบาลในปี 2553  หลุดพ้นข้อหา

เท่านั้นเอง

ตาย 99  เจ็บสองพัน     ช่างมันสิ




เรื่องราววิศวกร กับ เด็กวัยรุ่น  นี่แหละ
สะท้อนภาพเหตุการณ์ปี 2553  ชัดเจน

แม้จะคนละเรื่อง  คนละเหตุ  คนละปัจจัย  คนละสถานการณ์




คนตายเกือบร้อย   แต่ละคนไม่มีอาวุธ  เป็นผู้บริสุทธิ์
เกินครึ่ง  โดนยิงที่อก  ศรีษะ   ซึ่งเป็นจุดตาย   แสดงถึงการใช้อาวุธอย่างเจาะจง

โดยเฉพาะการใช้ปืนติดกล้องเล็ง  ย่อมเห็นได้ชัดว่า  ผู้ถูกยิงมีอาวุธหรือไม่  (ยกตัวอย่าง ซอยราชปรารถ กลางวันแสก ๆ)

เหตุเกิดติดต่อกันนานนับเดือน  
(ขณะที่เหตุการณ์สลายม็อบพันธมิตรเหตุเกิดไม่ข้ามวัน  แต่ ป.ป.ช. เอาตายให้ได้   
  อัยการไม่ฟ้อง ก็จ้างสภาทนายความฟ้องให้   สภาทนายความก็รับคดี   ทั้งที่ตามกฎหมายไม่สามารถจ้างสภาทนายความได้)

แต่กลับไม่มีใครต้องรับผิดชอบ  ไม่มีคำว่าเกินกว่าเหตุ  ไม่มีคำว่าพยายามฆ่า  ไม่มีคำว่าฆ่าคนตาย

ป.ป.ช. ยกคำร้องไปเรียบร้อย   ลอยนวล   (ส่วน ป.ป.ช. 5 คน ที่มีมติยกคำร้องก็ลอยนวลด้วย ลงมติปั๊บ ก็พ้นตำแหน่งไป)

ศาลอาญาไม่รับฟ้องคดีฆ่าคนตาย  (ขณะนี้  อยู่ในชั้นฎีกาฟ้อง   หลังจากชั้นต้นและอุทธรณ์ไม่รับฟ้อง  หากฎีกายืน   ก็จบสนิท)





เหลือใจคัก
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่