ก่อนอื่นๆ ต้องขอสวัสดี พี่ๆ เพื่อนๆ ชาวบลูแพลนเน็ตในตำนานครับ
นี่เป็นกระทู้แรกของชีวิต และยืม Account ภรรยามาโพสด้วย
จากที่สูบข้อมูลมานาน ได้ไอเดียไปเที่ยวทริปดีๆ จากห้องนี้มาก็เยอะ เลยรู้สึกผิดครับ อยากจะมาแบ่งปันสิ่งดีๆกับเขาบ้าง
เลยถึงเวลาอันสมควรแล้วครับ เลยขุดรูป ขุดเรื่องราวมาเล่าให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ไว้เป็นข้อมูลน่ะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วครับ (ดองเค็มไหมเล่า) วันที่ 26/11/16 ครับ
ปกติแล้วถ้ามาเที่ยวเขาใหญ่ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ส่วนใหญ่ก็คงต้องหาอะไรอร่อยๆ รับประทานแถบถนนธนรัตน์ และเมื่ออิ่มแล้วก็จะขึ้นอช.เขาใหญ่มาชมวิว แล้วก็นอนกางเต็นแบบ ชิคๆ ชิลๆ เป็นแน่ แต่รู้ไหมครับ นอกจาก ร้านอาหารอร่อยๆ วิวสวย และ ลานกางเต้น แล้ว เขาใหญ่ยังมี Rare Item ที่คนที่มาเที่ยวเขาใหญ่หลายๆคนไม่เคยสัมผัส Item นั้นก็คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ อช.เขาใหญ่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆไปเดินชมธรรมชาตินั่นเอง
เราเดินทางออกจากกรุงเทพกันวันศุกร์ช่วงบ่ายครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
Trip เดินป่าครั้งนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน คืนแรกสมาชิคส่วนใหญ่ ตั้งแคมป์นอนกันที่ลานกางเต้น ลำตะคองครับ
แต่ จขกท.กับภรรยา ต้องนอนห้องเช่าแถวถนนธนรัตน์เพราะมาไม่ทันเข้าด่านก่อน 18:00 พอเช้ามาก็ทำอาหารเช้าทานกับแบบง่ายๆ เบาๆ เช่น ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง เบค่อน ไส้กรอก และ อื่นๆ (เบา ตรงไหน) พอได้เวลาแล้วเราก็เดินทางจากลานกางเต็นลำตะคองไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ครับ จะมีป้ายบอกชัดเจน ไม่หลงแน่นอน
พอมาถึงแล้วก็เดินเข้าอาคาร สุวรรณกรเลยครับ อาคารแห่งนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ อช.เขาใหญ่ และจะมี จนท. คอยให้ความรู้และตอบคำถามครับ และจุดเดียวกันนี้เพื่อนๆ สามารถจองรถส่องสัตว์ ตอนกลางคืน และขอแผนที่จากพี่ๆ เจ้าหน้าที่ได้เลย พอเราเดินชมอาคาร สุวรรณกรจนพอแล้ว ทีมงานก็เดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ครับว่า จะเดินป่า เส้นทาง อ่างเก็บน้ำสายศร – ดงติ้ว –หอดูสัตว์หนองผักชีเพื่อให้พี่เจ้าหน้าทราบหากว่าเรายังไม่กลับมาตามเวลาที่ควร เขาจะส่งหน่วยช่วยเหลือเข้าไปตามเพื่อความปลอดภัยครับ
ถ่ายรูปหมูหน้าทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(อาคารสุวรรณกร)ครับ
อ้อแล้วอย่าลืมที่จะประทับตรา Passport อุทยานแห่งที่ที่นี่ด้วยน่ะครับ ที่อช.เขาใหญ่เขาจะมีสแตมป์ เป็นรอยเท้าสัตว์หลากชนิดเลย และสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีก็ไม่ต้องเสียใจครับ ร้านสวัสดิการข้างๆ มีจำหน่ายเล่มล่ะ 100 บาท จัดกันได้เลยครับ
Passport อุทยานแห่งชาติหน้าตาเป็นแบบนี้ครับเอาไว้เก็บแต้มและความทรงจำดีๆครับ
ตราประทับของอช.เขาใหญ่เป็นรูปรอยเท้าสัตว์ที่อาศัยบนเขาใหญ่ครับ เลือกประทับได้ตามใจชอบเลย
พอแจ้งพี่ๆเจ้าหน้าที่เรียบร้อยก็เริ่มเดินเลยครับเราเริ่มออกเดินทางประมาณ 9:30น. ระยะทางในการเดิน Trip นี้ประมาณ 8km ครับ เส้นทางเป็น Trial เดินป่า ที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้างต้องคอยสังเกตุ และบางช่วงจะเดินขึ้นเนินครับ ไม่ยาก แต่ได้เหงื่อกันพอสมควร และจะมีลำห้วย เพื่อวัดใจด้วยครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังกันครับ ตามไปชมกัน
จุด Start ของเราจะเดินออกจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ ไปถ่ายรูปกับป้าย อช.เขาใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกันก่อนครับ
ถ่ายกับป้ายอุทยานกันก่อนครับ Credit: Sammy Sam
เรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นเนินตามทางลาดยางขึ้นเนินมุ่งหน้าอ่างเก็บน้ำสายศรครับ เนินนี้เป็นเนินที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้วอร์มก่อนเดินจริงครับ
แค่เนินก็เหนื่อยแล้ว คริคริ วันนี้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยช่วงเช้าของอช.เขาใหญ่จะอยู่ประมาณ 23 องศาครับ เย็นสบายพอสายๆหน่อยแดดก็จะปรับอุณภูมิให้สูงขึ้นครับ
เดินขึ้นเนินตามถนนลาดยางไปจะเห็นว่ามีทางเดินเป็นไม้ แต่เดินไม่ได้น่ะครับเพราะไม้ผุหมดแล้วอันตราย
พอถึงอ่างเก็บน้ำสายศรให้เราเลี้ยวขวาไปตามทางลูกรัง บนสันอ่างเก็บน้ำครับ บริเวณนี้เพื่อน สามารถถ่ายรูปอ่างเก็บน้ำได้อย่างสวยงานครับ ยิ่งถ้ามาเช้าหน่อย จะมีหมอกอยู่เหนือน้ำและแสงแดด เมื่อกระทบน้ำจะสวยมากครับ
อ่างเก็บน้ำสายศร
ลมเย็นๆ วิวสวยมากๆ ถ้าไม่ติดต้องเดินป่าน่ะ จะนั่งชมทั้งวันเลย
พอเราเดินจนสุดทางลูกรังก็จะมีป้ายบอกครับ ว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เราก็เดินตามไปครับ จะเริ่มเป็นทางเดินป่าจริงๆ แล้วครับ พอเริ่มเดินไปซักพักเราก็จะเข้าป่าลึกไปเรื่อยๆ ครับ ต้นไม้จะหนาขึ้นอากาศจะเย็นลง พอไปเรื่อยๆ สองข้างทางจะเริ่มมีเห็ด ต้นไม้แปลกๆ ให้เราดูตาม 2 ข้างทางครับ
เข้ามาจะเป็นแบบนี้เลยครับ ต้นไม้ทั้งนั้นร่มรื่นมากๆ
มาๆ เดินตามกันมา เดี๋ยวหลงล่ะแย่เลย
อ่านมาสักระยะแล้วเริ่มเบื่อกันรึยังครับ เดวขอทำธุระนิดนึงแล้วจะรีบกลับมาต่อให้น่ะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อนสามารถติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวหลากหลายสไตย์ได้ที่ Travel Remedy
fb.me/TravelRemedy
ยินดีต้อนรับและ แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยวกันกับ Travel Remedy ครับ
กระทู้ดองเค็มกระทู้แรกของชีวิต ทริป “เดินป่าเขาใหญ่-ไม่ไกลกรุงเทพฯ” แบ่งปันประสบการณ์ เดินป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
นี่เป็นกระทู้แรกของชีวิต และยืม Account ภรรยามาโพสด้วย
จากที่สูบข้อมูลมานาน ได้ไอเดียไปเที่ยวทริปดีๆ จากห้องนี้มาก็เยอะ เลยรู้สึกผิดครับ อยากจะมาแบ่งปันสิ่งดีๆกับเขาบ้าง
เลยถึงเวลาอันสมควรแล้วครับ เลยขุดรูป ขุดเรื่องราวมาเล่าให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ไว้เป็นข้อมูลน่ะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วครับ (ดองเค็มไหมเล่า) วันที่ 26/11/16 ครับ
ปกติแล้วถ้ามาเที่ยวเขาใหญ่ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ส่วนใหญ่ก็คงต้องหาอะไรอร่อยๆ รับประทานแถบถนนธนรัตน์ และเมื่ออิ่มแล้วก็จะขึ้นอช.เขาใหญ่มาชมวิว แล้วก็นอนกางเต็นแบบ ชิคๆ ชิลๆ เป็นแน่ แต่รู้ไหมครับ นอกจาก ร้านอาหารอร่อยๆ วิวสวย และ ลานกางเต้น แล้ว เขาใหญ่ยังมี Rare Item ที่คนที่มาเที่ยวเขาใหญ่หลายๆคนไม่เคยสัมผัส Item นั้นก็คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ อช.เขาใหญ่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆไปเดินชมธรรมชาตินั่นเอง
เราเดินทางออกจากกรุงเทพกันวันศุกร์ช่วงบ่ายครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
Trip เดินป่าครั้งนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน คืนแรกสมาชิคส่วนใหญ่ ตั้งแคมป์นอนกันที่ลานกางเต้น ลำตะคองครับ
แต่ จขกท.กับภรรยา ต้องนอนห้องเช่าแถวถนนธนรัตน์เพราะมาไม่ทันเข้าด่านก่อน 18:00 พอเช้ามาก็ทำอาหารเช้าทานกับแบบง่ายๆ เบาๆ เช่น ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง เบค่อน ไส้กรอก และ อื่นๆ (เบา ตรงไหน) พอได้เวลาแล้วเราก็เดินทางจากลานกางเต็นลำตะคองไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ครับ จะมีป้ายบอกชัดเจน ไม่หลงแน่นอน
พอมาถึงแล้วก็เดินเข้าอาคาร สุวรรณกรเลยครับ อาคารแห่งนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ อช.เขาใหญ่ และจะมี จนท. คอยให้ความรู้และตอบคำถามครับ และจุดเดียวกันนี้เพื่อนๆ สามารถจองรถส่องสัตว์ ตอนกลางคืน และขอแผนที่จากพี่ๆ เจ้าหน้าที่ได้เลย พอเราเดินชมอาคาร สุวรรณกรจนพอแล้ว ทีมงานก็เดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ครับว่า จะเดินป่า เส้นทาง อ่างเก็บน้ำสายศร – ดงติ้ว –หอดูสัตว์หนองผักชีเพื่อให้พี่เจ้าหน้าทราบหากว่าเรายังไม่กลับมาตามเวลาที่ควร เขาจะส่งหน่วยช่วยเหลือเข้าไปตามเพื่อความปลอดภัยครับ
ถ่ายรูปหมูหน้าทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(อาคารสุวรรณกร)ครับ
อ้อแล้วอย่าลืมที่จะประทับตรา Passport อุทยานแห่งที่ที่นี่ด้วยน่ะครับ ที่อช.เขาใหญ่เขาจะมีสแตมป์ เป็นรอยเท้าสัตว์หลากชนิดเลย และสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีก็ไม่ต้องเสียใจครับ ร้านสวัสดิการข้างๆ มีจำหน่ายเล่มล่ะ 100 บาท จัดกันได้เลยครับ
Passport อุทยานแห่งชาติหน้าตาเป็นแบบนี้ครับเอาไว้เก็บแต้มและความทรงจำดีๆครับ
ตราประทับของอช.เขาใหญ่เป็นรูปรอยเท้าสัตว์ที่อาศัยบนเขาใหญ่ครับ เลือกประทับได้ตามใจชอบเลย
พอแจ้งพี่ๆเจ้าหน้าที่เรียบร้อยก็เริ่มเดินเลยครับเราเริ่มออกเดินทางประมาณ 9:30น. ระยะทางในการเดิน Trip นี้ประมาณ 8km ครับ เส้นทางเป็น Trial เดินป่า ที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้างต้องคอยสังเกตุ และบางช่วงจะเดินขึ้นเนินครับ ไม่ยาก แต่ได้เหงื่อกันพอสมควร และจะมีลำห้วย เพื่อวัดใจด้วยครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังกันครับ ตามไปชมกัน
จุด Start ของเราจะเดินออกจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ ไปถ่ายรูปกับป้าย อช.เขาใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกันก่อนครับ
ถ่ายกับป้ายอุทยานกันก่อนครับ Credit: Sammy Sam
เรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นเนินตามทางลาดยางขึ้นเนินมุ่งหน้าอ่างเก็บน้ำสายศรครับ เนินนี้เป็นเนินที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้วอร์มก่อนเดินจริงครับ
แค่เนินก็เหนื่อยแล้ว คริคริ วันนี้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยช่วงเช้าของอช.เขาใหญ่จะอยู่ประมาณ 23 องศาครับ เย็นสบายพอสายๆหน่อยแดดก็จะปรับอุณภูมิให้สูงขึ้นครับ
เดินขึ้นเนินตามถนนลาดยางไปจะเห็นว่ามีทางเดินเป็นไม้ แต่เดินไม่ได้น่ะครับเพราะไม้ผุหมดแล้วอันตราย
พอถึงอ่างเก็บน้ำสายศรให้เราเลี้ยวขวาไปตามทางลูกรัง บนสันอ่างเก็บน้ำครับ บริเวณนี้เพื่อน สามารถถ่ายรูปอ่างเก็บน้ำได้อย่างสวยงานครับ ยิ่งถ้ามาเช้าหน่อย จะมีหมอกอยู่เหนือน้ำและแสงแดด เมื่อกระทบน้ำจะสวยมากครับ
อ่างเก็บน้ำสายศร
ลมเย็นๆ วิวสวยมากๆ ถ้าไม่ติดต้องเดินป่าน่ะ จะนั่งชมทั้งวันเลย
พอเราเดินจนสุดทางลูกรังก็จะมีป้ายบอกครับ ว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เราก็เดินตามไปครับ จะเริ่มเป็นทางเดินป่าจริงๆ แล้วครับ พอเริ่มเดินไปซักพักเราก็จะเข้าป่าลึกไปเรื่อยๆ ครับ ต้นไม้จะหนาขึ้นอากาศจะเย็นลง พอไปเรื่อยๆ สองข้างทางจะเริ่มมีเห็ด ต้นไม้แปลกๆ ให้เราดูตาม 2 ข้างทางครับ
เข้ามาจะเป็นแบบนี้เลยครับ ต้นไม้ทั้งนั้นร่มรื่นมากๆ
มาๆ เดินตามกันมา เดี๋ยวหลงล่ะแย่เลย
อ่านมาสักระยะแล้วเริ่มเบื่อกันรึยังครับ เดวขอทำธุระนิดนึงแล้วจะรีบกลับมาต่อให้น่ะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อนสามารถติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวหลากหลายสไตย์ได้ที่ Travel Remedy
fb.me/TravelRemedy
ยินดีต้อนรับและ แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยวกันกับ Travel Remedy ครับ