แผนการเราเปลี่ยนได้ตลอดทาง และตลอดเวลาจริงๆ ครับ ลองๆ ดูแล้วระยะทางใกล้กว่า ถึงจะเคยมาเที่ยวที่นี่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยมากางเต็นท์เลย มาลองดูสักครั้งแล้วกัน

ขับรถมาจาก สวนป่าดอยบ่อหลวง ไม่นาน ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จอดซื้อบัตรเข้าอุทยานที่ด้านล่าง ส่วนถ้าจะกางเต็นท์ก็มาจ่ายเงินค่ากางด้านบน พอมาถึงที่จ่ายเงินค่ากางเต็นท์เจ้าหน้าที่ก็แนะนำดีมาก ให้เข้ามาดูที่กางก่อนว่าชอบไหม ถ้าไปชอบก็ลองไปดูของเอกชนมีหลายที่ ถ้าชอบของอุทยานก็กางเลย แล้วค่อยกลับมาจ่ายเงิน เราก็เลยวนไปดูที่กางก่อน ก็คล้ายๆ กับสวนป่าดอยบ่อหลวงที่เราพึ่งมา คือเป็นสวนสน มีคนมากางอยู่ก่อนหลายเต็นท์แล้ว และก็ม่ีเต็นท์ของอุทยานอยู่ด้วย เราดูแล้วก็ใช้ได้อยู่เลยคิดว่ากางที่นี่แหละ ไม่ต้องไปวนหาของเอกชนต่อ ที่สำคัญราคาถูกด้วย 555+

เมื่อเลือกที่ได้ก็ลงมือปักสมอ รอบนี้ไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ วิชาการกางเต็นท์เริ่มกลับมาแล้ว รอบนี้เราเลือกที่กางใกล้ที่จอดรถ ขนของง่าย เวลาลืมของก็ไม่ต้องเดินไกล

พอกางเสร็จมื้อกลางวันเราก็หาซื้อข้าวกินหน้าอุทยาน ผมว่าราคาแรงกว่าทุกที่ที่เคยไปมาเลย เรื่องรสชาติก็... แล้วแต่คนชอบครับ  555+

เสร็จแล้วจร้าาา น่านอนไหมละ

เวลาเหลือเยอะ เราก็ขึ้นไปเที่ยวบนยอดดอยต่อ พร้อมกับแวะจ่ายค่ากางเต็นท์ด้วย คนละ 30 บาท ก่อนออกมาเราได้หมักหมูรอไว้สำหรับอาหารเย็นวันนี้แล้ว รับรองว่าอร่อยแน่

วันนี้ยอดดอยอากาศหนาวใช้ได้เลย ตอนขึ้นไม่เท่าไร ตอนลงนี่ว้าวมาก เพราะมีหมอกลงแทบตลอดทางเลย

ยอดดอยอากาศดี อุณหภูมิเป็นเลขตัวเดียว

ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ

นางแบบผู้เตรียมชุดมาเลยขอถ่ายรูปซะหน่อย

ตอนขับรถลงมาหมอกปกคลุมแทบตลอดทาง

หมอกหนาจนระยะการมองข้างหน้าค่อนข้างจำกัด

สวย วิวดี ขับรถเปิดประจกสบายเลย เสียได้ไม่ได้เอาคันที่เปิดหลังคาได้มา (จอดอยู่โชว์รูม ยังไม่มีเงินซื้อ 555+)

ตอนลงมาจากยอดดอย ตรงทางเข้าลานกางเต็นท์ เราทนความหนาวไม่ไหว เลยต้องแวะซื้อเสื้อกันหนาวมาใส่ อุ่นขึ้นเยอะเลย แถมราคาถูกด้วย ตัวละ 150 บาท เป็นเสื้อกันหนาวมือสอง ถือว่าช่วยชีวิตเราได้เยอะเลย

นี่ไงเสื้อกันหนาวใหม่ แฟนผมแซวว่าเป็น "วิถีไบค์เกอร์" 555+

หลังจากลงมาเราก็รีบอาบน้ำก่อนเลย เพราะยิ่งช้าอากาศจะยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคืนก็ไม่ได้อาบ น้ำเย็นมากกกก แต่พออาบเสร็จแล้วก็สบายตัวสุดๆ แต่ตอนก่อนอาบนี่สิ กว่าจะทำใจได้

หลังจากนั้นก็ออกไปเดินเล่นหน้าอุทยานสักหน่อย วันนี้เวลาเหลือค่อนข้างเยอะ

ได้หมวกมาเพิ่ม 1 ใบนะจร้าาา

ระหว่างเดินกลับเต็นท์เจอพี่คนขับรถแดง เลยคุยกันไปเรื่อยเปี่อย แล้วพี่เค้าก็แนะนำที่เที่ยวให้ เค้าบอกว่าให้เราขับวนไปทางปางอุ๋งก่อน จะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปมา เพราะตอนแรกเราจะไปห้วยน้ำดังก่อน เอาเป็นว่าเราเชื่อพี่เค้า เพราะพี่เค้าบอกว่าระหว่างก็สวย วิวดีตลอดทาง แล้วก็เลือกเอาเลยว่าอยากพักที่ บ้านรักไทย หรือที่ปางอุ๋ง พอได้ข้อมูลการเดินทางในวันพรุ่งนี้แล้ว เราก็กลับมาเตรียมอาหารเย็นกันต่อ ได้เวลาแห่งความสุขแล้ว

เย็นนี้เป็นหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

ผักที่เห็นหมดนี่ราคา 20 บาท ซื้อมาจากตลาดหน้าอุทยาน ถูกมากกก สด กรอบ อร่อย

หลังจากอิ่มเรียบร้อยจัดการธุระต่างๆ เสร็จ ก็นั่งเล่นชิวๆ อยู่แปปนึง เพราะคืนนี้เรามีเสื้อกันหนาวกันแล้ว ถ้าถามหาความเงียบสงบ ที่นี่ไม่ค่อยเงียบสงบเท่าไร เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ และลานกางเต็นท์อยู่ติดถนน เสียงรถดังแทบจะตลอด โดยเฉพาะเสียงมอเตอร์ไซด์ หลังจากนั้นเราก็เข้าเต็นท์นอน คืนนี้เราเปลี่ยนวิธีการนอนนิดหน่อย โดยเอาท็อปเปอร์ที่เราเตรียมมาปูนอน มาห่ม ทำให้การนอนของเราในคืนนี้มันดีมากกกก อุ่นสบาย

เมื่อคืนตื่นมากลางดึกหลายครั้งอยู่ครับ เพราะมีเต็นท์ที่พาเด็กมานอนด้วย น้องร้องตลอดเลย 555+ พอเริ่มประมาณตีสี่ หลายๆ เต็นท์ก็เตรียมตัวขึ้นดอยไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันแล้ว แต่มันไม่ใช่แนวเรา เพราะแนวเราต้องเป็นพระอาทิตย์ตกเท่านั้น เหตุผลเดียวที่ไม่ชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นคือต้องตื่นเช้า 555+

เก็บของเสร็จแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางต่อ รถคันเล็ก หรือของเราเยอะไปหว่า

แล้วพบกันที่แม่ฮ่องสอน ใน EP. ถัดไปครับ