ถ้าวิศวกรเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนเหมือนอย่างที่กลุ่มวัยรุ่นชี้แจงในคลิปนี้ ตามกฎหมาย วิศวกรจะไม่มีสิทธิอ้างป้องกันตัว

อันนี้เป็นหลักกฎหมายอาญา ว่า การจะอ้างว่าใช้สิทธิป้องกันตัวได้นั้น ผู้อ้างจะต้องมิใช่ฝ่ายที่สมัครใจเข้าทะเลาะวิวาทเสียเอง  

ถ้าสมัครใจเข้าทะเลาะวิวาท  ก็ไม่มีสิทธิอ้างข้อกฎหมายเรื่องป้องกันตัว

ผมฟังจากในคลิปนี้   ถ้าเป็นจริงว่า ฝ่ายวิศวกรขับรถออกมาจากจุดแรกที่จอดแล้ว แต่ขับเบรคๆๆ แบบตั้งใจให้ฝ่ายรถตู้ชนท้าย แล้วถึงขนาดขับรถออกมาปาดรถวีออสของกลุ่มวัยรุ่นให้จอด แบบหาเรื่อง  และก็ยิงวัยรุ่นที่ตายก่อน  แต่รอยแผลที่ถูกต่อย เป็นเเหตุที่เกิดหลังจากก่อเหตุยิงแล้ว ถูกตำรวจล็อกคอไว้ จึงโดนกลุ่มวัยรุ่นชกต่อยเพราะโมโหที่ยิงเพื่อน  อย่างนี้ ถ้าเป็นจริง ต้องถือว่า ฝ่ายวิศวกรสมัครเข้าทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นเสียเอง  จึงไม่มีสิทธิอ้างเหตุป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ได้ตามกฎหมาย

คือ (ถ้าเป็นจริงนะ) วิศวกรสามารถจะระงับเหตุได้ด้วยการไม่ก่อเรื่อง แต่การที่หาเรื่องโดยเหยียบเบรคๆๆๆๆๆๆๆ กะจะให้รถของกลุ่มวัยรุ่นชนท้าย แต่ดันสมัครใจทะเลาะวิวาทเสียเอง แล้วไปปาดหน้ารถวีออสหาเรื่องให้เค้าหยุดรถอีก (เข้าใจว่าวีออสขับตามหลังมา ก็บีบแตรด้วย วิศวกรคงโมโหที่โดนวีออสบีบแตรใส่ เลยปาดหน้าให้จอด) ผมว่าถ้าเป็นจริง อย่างนี้ฝ่ายวิศวกรก็ร้ายใช่เล่นนะ อาจจะเป็นเพราะมั่นใจว่ามีปืนอยู่ในมือ และมั่นใจว่าฝ่ายวัยรุ่นไม่มีปืน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
น่าจะออกกฏหมาย รถทุกคันต้องติดกล้องวงจรปิดตั้งแต่โรงงาน  ประมูลสเปคไปเลย ชัดทั้งกลางวันกลางคืน  มี GPS  เซนเซอร์ตรวจวัดความเร็ว  เซนเซอร์ เวลาเราจอดรถมี คนผ่านกล้องทำงาน อัดเสียงได้ แบบราคาเกือบหมื่นมี ใช้กัน นั้นราคา ผ่านคนกลางมาแล้ว 2-3 เจ้า ถ้าโรงงานผลิตให้คงถูกว่านี้เยอะ  กล้องใช้งานไม่ได้ถือว่ามีความผิด รถบกพร่อง   จะได้จบปัญหา  ซะที
ความคิดเห็นที่ 67
กล้องหน้ารถลุงวิศวกรครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ความคิดเห็นที่ 32
นึกถึงคดีดร.นิด้าฆ่าเมียตาย รอลงอาญาฯแค่ไม่กี่ปี หุๆ

ไม่มีอะไร พูดลอยๆ

อีกกรณี วัยรุ่นบอกว่าเห็นลุงโชว์ปืนขู่แล้ว แต่ก็ยังลงจากรถไปล้อม มันก็พอชี้ได้ว่า ไม่เกรงกลัวเลย  อีกฝ่ายก็อาจจะยกได้ว่า ยกปืนเตือน(เทียบเท่ายิงขึ้นฟ้า) แต่อีกฝ่ายยังส่งพวกมาล้อม แสดงว่าอาจมีอาวุธ คนในรถก็มีแต่คนสูงอายุเจอวัยรุ่มล้อมหลายคนก็กลัวได้ เลยยิงขู่ไปหนึ่งนัดเพื่อเตือนซ้ำ ไม่ได้มีเจตนาฆ่า

จะว่าไปเรื่องป้องกันตัวนี่ เมืองไทยถ้าไม่มีคนช่วยเรื่องสำนวนก็มักจะโดนหนักๆ แต่กลับกัน ถ้าไม่ป้องกันตัวแล้วโดนอีกฝ่ายรุมฆ่าตาย ก็มักจะตายฟรี ยิ่งเป็นเยาวชนฆ่า เข้าสถานกักกันไม่กี่ปีก็ออก ญาติยังไม่หายเศร้าเลยก็ว่าได้ ต้องมากลัวโดนล้างแค้นอีก

แต่นั่นแหละเจอแบบนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือขับรถหักหลบไป แต่ถ้าพลาดพลั้งไปชน ฝ่ายนู้นก็หาว่าขับรถไล่ชนไปซะอีก ยังดีมีคลิปวงจรปิด เลยไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่ลงจากปากวัยรุ่นแบบเดียวแต่ทีแรก

ป.ล. เปิดไฟเลี้ยวแล้วจอด มาบอกว่าตั้งใจเบรคให้ชนท้ายตลกดีครับ มีเปิดไฟเลี้ยวเตือนด้วยซะงั้น?

ป.ล.2 ผมยังมึนงงกับข้อกฎหมายเรื่องทะเลาะวิวาทในบ้านเรามากๆ เช่นถ้าอีกฝ่ายหาเรื่องก่อนแล้วเราตอบโต้ กลายเป็นสมัครใจวิวาท ต้องยอมให้เขาทำร้ายร่างกายฝ่ายเดียว โดยเราทำได้แค่ปัดป้อง ถึงจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายได้ ยากมากๆที่จะยกเรื่องป้องกันตัวมาสู้ นอกจากมีคลิปทั้งภาพและเสียงชัดเจน ซึ่งก็ต้องคิดอีกว่า ถ้าเรายอมโดนทำร้ายโดยไม่ตอบโต้ แล้วเราบาดเจ็บสาหัสหรือตายไป จะมีอะไรมาทดแทนได้ไหม? สุดท้ายถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องเอา"ตัวเราและครอบครัว"ให้ปลอดภัยไว้ก่อนครับ ตั้งศาลสู้ดีกว่าตั้งศาลาสวด
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ต้องยกคำพิพากษาศาลฎีกามาหรอกครับ

พิสูจณ์กันให้ได้ก่อน ว่าวิศวกรเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนจริงไหม

เพราะวัยรุ่นให้การกันเอง ศาลจะให้น้ำหนักไหม

เท่าที่เห็นในวงจรปิด เห็นเข้าทางอย่างเดียวคือมีการหยุดรถกระทันหัน ใช้คำว่าปาดก็ยังคลุมเครือเลย

แต่อย่าลืมว่าตรงนั้นมันป้อมตำรวจ ถ้าวิศวกรให้การว่าต้องการหยุดพอขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

ก็พอมีเหตุให้รับฟังได้ไหม คงอยู่ที่การให้การ   นอกจากนั้นวิศวกรอยู่แต่ในรถครับ ไม่ได้ลงมาด้วยซ้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่