แชร์ประสบการณ์ชีวิตคนเงินเดือน 30,000+
มาต่อกันที่ปี 2 หลังจากที่ได้มีมอไซค์เป็นของตัวเอง ผมก็ไม่ต้องกังวนเรื่องตื่นเช้าไปรอรถเมย์และเสี่ยงกับการทะเลาะวิวาท
(ตอนนั้นรถเมย์จะต้องไปเป็นกลุ่มถ้าไปคนเดียวอาจจะโดนหาเรื่องจากต่างสถาบันได้) ผมบินเดียวไม่สนใจเพื่อน ไปแค่เรียน
เรียนเสร็จแล้วกลับบ้าน กลับบ้านเร็วกว่าเดิม เพราะตอนปี 1 ต้องรอเพื่อนครบถึงจะกลับกันได้ กว่าจะถึงบ้าน 2 ทุ่มทุกวัน
ปีนี้ผมมาเจอกับวิชาที่ผมไม่ค่อยถนัดอีกแล้วนั้นคือเขียนแบบ แต่ครั้งนี้เป็นเขียนแบบด้วยคอม เป็นโปรแกรมsolidwork , Autodesk Inventor 3D
และผมก็สอบตกจนได้
ผมได้มาแก้ช่วงซัมเมอร์ นอนค้างที่วิลัย ผมรู้สึกว่าการที่มาซัมเมอร์นี่มันทำให้ผมได้รู้กว่าตอนที่มานั่งเรียนทุกๆอาทิตย์ซะอีก อาจจะเป็นเพราะ
ตอนดึกไม่มีครูอยู่ เลยเดินถามเพื่อนคนที่พอรู้ได้และมีเวลาหัดทำเยอะขึ้น มาถึงตรงนี้แล้วผมสามารถจำมันได้และทำเป็นแล้ว
ต่อกันที่ เทอมที่ 2 เข้าช่วงฝึกงาน ผมทำเรื่องไปฝึกงาน โรงงานผลิตดายในนิคม ไปฝึกกับเพื่อนอีกประมาณ 20 คน ถือว่าไปกันเยอะมาก
ก่อนไปฝึกบริษัทบอกให้ค่าจ้างเป็นค่าแรงขั้นต่ำ ตอนนั้นถือว่าเยอะสำหรับเด็กฝึกงานอย่างพวกผม
ก่อนถึงวันฝึกประมาณอาทิตย์นึง บริษัทโทรมาแจ้งกับทางวิลัยว่าไม่ให้เงินเด็กฝึกงานแล้ว ซึ่งเราไม่สามารถหางานใหม่ที่ได้เงินได้แล้วเพราะใช้เวลาหา
เราเริ่มก็ไปฝึกกัน งานก็ไม่มีอะไรมากแค่ทำความสะอาดเครื่องที่โดนน้ำท่วม ทำสีงานและช่างเล็กๆน้อย แทบไม่ได้ความรู้อะไร
แต่มันก็มีเรื่องราวที่สอนให้ผมอย่าไว้ใจใคร คือเรื่องมีอยู่ว่ามีพี่เลี้ยง 2 คน ปั่นให้พวกผมไปขโมยตัดสายไฟขาย และพวกเรา4-5ก็ทำตามเขาบอก
เราตัดเก็บไว้ ประมาณ2เมตรและซ่อนไว้ ไปเล่าให้พี่เลี้ยงฟัง พออีกวันมีคนเห็นพี่เลี้ยง2คนเอาสายไฟที่เราตัดโยนออกกำแพงและเอาไปขายเอง
ก็ตลกๆดีเหมือนกันที่เราไปเชื่อใครง่ายๆ และพวกเราก็ไม่ยุ่งกับการขโมย หลังจากนั่นมีระดับหัวหน้างานขโมยสายไฟซ่อนไว้หน้ารถ
รปภ จับได้ส่งตำรวจ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยเงินเดือนตั้ง 20,000 มันไม่พอเลยหรอ แลกกับเศษสายไฟมันไม่เห็นจะคุ้มเลย
เนื่องจากพวกเราไปกันเยอะก็จะมีเพื่อนบางคนไม่ได้ฝึกงานต่อเพราะไปแอบสูบบุหรี่กัน เลยต้องกลับไปฝึกงานที่วิลัย ผมว่าก็สบายเหมือนกันนะ
เพราะไม่ต้องทำไรมากแค่กวาดขี้นกล้างห้องน้ำ
รอฟังต่อ ep3 นะครับ
แชร์ประสบการณ์ช่วงเรียนและช่วงทำงาน EP2
มาต่อกันที่ปี 2 หลังจากที่ได้มีมอไซค์เป็นของตัวเอง ผมก็ไม่ต้องกังวนเรื่องตื่นเช้าไปรอรถเมย์และเสี่ยงกับการทะเลาะวิวาท
(ตอนนั้นรถเมย์จะต้องไปเป็นกลุ่มถ้าไปคนเดียวอาจจะโดนหาเรื่องจากต่างสถาบันได้) ผมบินเดียวไม่สนใจเพื่อน ไปแค่เรียน
เรียนเสร็จแล้วกลับบ้าน กลับบ้านเร็วกว่าเดิม เพราะตอนปี 1 ต้องรอเพื่อนครบถึงจะกลับกันได้ กว่าจะถึงบ้าน 2 ทุ่มทุกวัน
ปีนี้ผมมาเจอกับวิชาที่ผมไม่ค่อยถนัดอีกแล้วนั้นคือเขียนแบบ แต่ครั้งนี้เป็นเขียนแบบด้วยคอม เป็นโปรแกรมsolidwork , Autodesk Inventor 3D
และผมก็สอบตกจนได้
ผมได้มาแก้ช่วงซัมเมอร์ นอนค้างที่วิลัย ผมรู้สึกว่าการที่มาซัมเมอร์นี่มันทำให้ผมได้รู้กว่าตอนที่มานั่งเรียนทุกๆอาทิตย์ซะอีก อาจจะเป็นเพราะ
ตอนดึกไม่มีครูอยู่ เลยเดินถามเพื่อนคนที่พอรู้ได้และมีเวลาหัดทำเยอะขึ้น มาถึงตรงนี้แล้วผมสามารถจำมันได้และทำเป็นแล้ว
ต่อกันที่ เทอมที่ 2 เข้าช่วงฝึกงาน ผมทำเรื่องไปฝึกงาน โรงงานผลิตดายในนิคม ไปฝึกกับเพื่อนอีกประมาณ 20 คน ถือว่าไปกันเยอะมาก
ก่อนไปฝึกบริษัทบอกให้ค่าจ้างเป็นค่าแรงขั้นต่ำ ตอนนั้นถือว่าเยอะสำหรับเด็กฝึกงานอย่างพวกผม
ก่อนถึงวันฝึกประมาณอาทิตย์นึง บริษัทโทรมาแจ้งกับทางวิลัยว่าไม่ให้เงินเด็กฝึกงานแล้ว ซึ่งเราไม่สามารถหางานใหม่ที่ได้เงินได้แล้วเพราะใช้เวลาหา
เราเริ่มก็ไปฝึกกัน งานก็ไม่มีอะไรมากแค่ทำความสะอาดเครื่องที่โดนน้ำท่วม ทำสีงานและช่างเล็กๆน้อย แทบไม่ได้ความรู้อะไร
แต่มันก็มีเรื่องราวที่สอนให้ผมอย่าไว้ใจใคร คือเรื่องมีอยู่ว่ามีพี่เลี้ยง 2 คน ปั่นให้พวกผมไปขโมยตัดสายไฟขาย และพวกเรา4-5ก็ทำตามเขาบอก
เราตัดเก็บไว้ ประมาณ2เมตรและซ่อนไว้ ไปเล่าให้พี่เลี้ยงฟัง พออีกวันมีคนเห็นพี่เลี้ยง2คนเอาสายไฟที่เราตัดโยนออกกำแพงและเอาไปขายเอง
ก็ตลกๆดีเหมือนกันที่เราไปเชื่อใครง่ายๆ และพวกเราก็ไม่ยุ่งกับการขโมย หลังจากนั่นมีระดับหัวหน้างานขโมยสายไฟซ่อนไว้หน้ารถ
รปภ จับได้ส่งตำรวจ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยเงินเดือนตั้ง 20,000 มันไม่พอเลยหรอ แลกกับเศษสายไฟมันไม่เห็นจะคุ้มเลย
เนื่องจากพวกเราไปกันเยอะก็จะมีเพื่อนบางคนไม่ได้ฝึกงานต่อเพราะไปแอบสูบบุหรี่กัน เลยต้องกลับไปฝึกงานที่วิลัย ผมว่าก็สบายเหมือนกันนะ
เพราะไม่ต้องทำไรมากแค่กวาดขี้นกล้างห้องน้ำ
รอฟังต่อ ep3 นะครับ