ก็คิดว่ากระแสเรื่องนี้จะเงียบไป เพราะกระแสมงมาแรงแหกทุกด่านแล้วนะคะเนี่ย แต่ก็อดไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ดังระดับชื่อเสียงของประเทศเลยก็ว่าได้ ที่รองฯอธิบดี กรมทรัพย์สินทางปัญญญาขโมยภาพวาดจากญี่ปุ่น สิ่งที่แย่คือ เป็นถึงรองฯอธิบดี กรมทรัพย์สินทางปัญญา น่ะ แล้วเรื่องขโมยนี้เป็นอะไรที่ร้ายแรงต่อสายงานโดยตรงแต่ก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้

แต่สิ่งที่เป็นที่สุดของเรื่องนี้ ที่ปลาเน่าตัวเดียวแล้ว ทำไมรัฐบาลไทย ต่างโดดไปโอบอุ้มรองฯคนนี้ จนพาลเน่าตายทั้งกรมทั้งกระทรวงไปหมด
- กรมทรัพย์สินทางปัญญา บอกเป็นภาพวิว ไม่ใช่ภาพหวิว แต่สื่อของญี่ปุ่นเอง เต็มๆค่ะ เบอเร่อเลย
- รองฯ ขอโทษ แล้วยังไง?
- อธิบดีทรัพย์สินทางปัญญาบอก ขโมยภาพไม่ใช่ความผิดต่อราชการ (แต่เสียชื่อเสียงระดับประเทศ)
- สุดท้าย กฎของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) ตัดสิน บอกลหุโทษ ตัดหรือลดขั้นเงินเดือน


         สำหรับกรณีของ นายสุภัฒ แม้จะถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมตัวจากเหตุลักทรัพย์ แต่อัยการญี่ปุ่นไม่ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาล และศาลยังไม่ตัดสิน จึงเข้าข่ายความผิดกระทำความผิดอย่างไม่ร้ายแรง กรณีนี้ตามกฎในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 จะมีโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน โดยจะถูกสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ หรือตัดเงินเดือนครั้งหนึ่งไม่เกิน 5% เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน หรือลดขั้นเงินเดือนครั้งหนึ่งไม่เกินหนึ่งขั้น

เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ปกป้องกันไม่แคร์คนในประเทศบ้างเลยเหรอว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ป่านนี้ปี๊บขาดตลาดหมดแล้วม้าง ภาพลงภาพลักษณ์ที่อุตส่าห์สร้างมา ทีเวลาเค้าจัดอันดับแล้วความโปร่งใสของประเทศนี้มันตกต่ำแล้วเถียงคอเป็นเอ็นนี่ไม่ได้ดูตัวเอง ดูคนรอบข้างบ้างเลยเหรอว่ามันเหม็นกันขนาดไหน ถ้ารองฯยังมีหน้าทำงานต่อ ก็แข็งแกร่งมากน่ะ

แต่ในฐานะที่เป็นคนในประเทศนี้ บอกตรงๆ ขอเอามงบังใบหน้าก่อน

...อายแทน