[CR] Sunshine Coast, Australia: เมื่อแผ่นฟ้าและน้ำทะเลเป็นสีเดียวกัน


กระทู้ก่อนหน้านี้
บริสเบน ออสเตรเลีย เมืองนี้มีอะไร https://ppantip.com/topic/35990007
บริสเบน ออสเตรเลีย เมืองนี้มีอะไร ตอนที่ 2 South Bank https://ppantip.com/topic/36013739

Sunshine Coast อยู่ห่างจากบริสเบนไปทางเหนือชั่วโมงนิดๆน่าจะได้ ประมาณกรุงเทพไปชลบุรี เป็นเมืองชายทะเลยาวกว่า 60 กิโลเมตรเรียบฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงฤดูหนาว (กรกฎา – พฤศจิกา) ฝูงวาฬจะอพยพผ่านที่นี่ ใครที่สนใจมาเที่ยวแนะนำมาช่วงนั้นเลย ทริปนี้เราไปก่อนปีใหม่ เป็นช่วงฤดูร้อน ไม่มีโอกาสได้ดูวาฬ แต่ได้ดูคนเล่นเซิร์ฟแทน
การเดินทางมา Sunshine Coast มาได้ 2 ทาง จะนั่งรถไฟหรือรถทัวร์จาก Brisbane มาก็ตามสะดวกเลย (พอดีพักที่บ้านแฟน เลยไม่รู้ข้อมูลขนส่งมวลชน)
Mooloolaba Beach ยังไม่ใช่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนออสเตรเลียเดินทางมาพักผ่อนกันมากกว่า น้ำทะเลสีฟ้ายิ่งกว่าท้องฟ้าอีก เนื้อทรายละเอียดและนุ่มมาก จุดที่สวยที่สุดยกให้ที่นี่เลย ปากแม่น้ำ Mooloolah (ก่อนที่จะไหลลงทะเลออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก)
Point Cartwright เป็นจุดชมวิวบนเนินเขาเล็กๆใกล้กับปากแม่น้ำ บนจุดชมวิวจะมองเห็นหาด Mooloolaba ทางทิศตะวันตก

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นหาดอะไรก็ไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ รู้แค่ว่าสวยอลังการมาก

คลื่นแรงมากๆ ถ้าลื่นล้มตกลงไปนี่คงโดนคลื่นซัดกระแทกกับหินแน่นอน ศพไม่สวยไปอีก 5555

มาเดินเล่นบนหญ้าริมทะเลสวยๆดีกว่า หวังว่าคงไม่มีงูหรือแมงมุมซ่อนอยู่ในพุ่มไม้นะ กลัว

ทางเหนือของ Mooloolaba คือ Maroochydore ตอนขับรถผ่านถนนเรียบชายหาด แอบมองเห็นร้านอาหารไทยด้วย อุ่นใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนบ้านเดียวกันอยู่ เราขับรถมุ่งหน้าจะไป Noosa ระหว่างทางขอแวะ Mudjimba Beach

ไม่ถึง 40 นาที เราก็ถึง Sunshine Beach เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Noosa

ภูเขาเล็กๆข้างหน้าคือเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จากจุดนี้เราสามารถเดินไปหาด Noosa ได้ ซึ่งมันอยู่อีกฝั่งของเขา ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร นี่ไม่ฟิตขนาดนั้น เลยกะว่าแค่ขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดเขาก็พอ แล้วขับรถอ้อมเขาไปหาด Noosa

บนยอดเขานี่เหมือนอยู่คนละโลกเลย ก่อนหน้านี้ป่ายังเขียวๆอยู่เลย ข้างบนนี้ต้นไม้ไม่มีใบสักใบ

เดินผ่านป้าไม้ไร้ใบ ก็จะเจอกับทุ่งหญ้า ไม่น่าเชื่อว่าแค่เขาลูกเดียวจะมีความหลากหลายขนาดนี้

ยังไม่จบ เดินไปอีกนิดจะเป็นหาดเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ใต้หน้าผา

ยังมีอีก ต้นไม้ที่เกือบจะไม่มีใบ

ยังไม่หมด ชายหาดนี้มีความพิเศษตรงที่เป็น Nude Beach ทุกคนที่เข้าไปต้องเปลือยกาย เรื่องจริง เพราะจากจุดที่เรายืนอยู่นี่ก็พอจะมองเห็นว่าอะไรเป็นอะไร 555 เขินจัง เป็นหาดที่ไม่มีถนนตัดเข้าไป จะต้องเดินข้ามเขาเท่านั้น เราไม่กล้าเข้าไปในบริเวณชายหาด ต้องให้ความเป็นส่วนตัวเขาหน่อย

เหมือนฟ้าฝนกลั่นแกล้งที่แอบไปดูคนแก้ผ้าที่ Nude Beach เหมือนฝนจะตก เราเลยรีบเดินกลับและขับรถต่อไปยังหาด Noosa พอมาถึงก็เจอการต้อนรับอย่างหนาวเหน็บของพายุฝน ตัดสินใจขับรถหนีฝนกลับบ้านที่ Mooloolaba

จาก Mooloolaba gikขึ้นเหนือไป Noosa กันมาแล้ว คราวนี้เราลงใต้ไป Caloundra ขับรถไม่ถึง 30 นาที เป้าหมายหลักของเราคือ Bribie Island แต่ระหว่างทางก็ขอแวะทะเลสาบ Currimundi

จุดเด่นคือเนินทรายขนาดใหญ่ เห็นเด็กๆเอากระบะแล้วไสล์ลงมาแล้วก็น่าสนุกดี ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่รับน้ำก่อนที่จะไหลออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

อีกที่ก็คือ Shelly Beach ไฮไลท์เลยคือ Rock Pools ที่เราจะได้สัมผัสกับสัตว์ทะเลตัวเป็นๆ

เป็นหาดที่เด็กมีความสุขมาก ได้เดินสำรวจสิ่งมีชีวิตตามแอ่งน้ำหรือซอกหิน

ถ้าเราเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ น่ารักๆ ที่นี่คงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของพวกเรา

ตัวนุ่มๆลื่นๆที่เราเจอคือทากทะเล สงสัยกำลังกินสาหร่ายอยู่ จับได้นะ แต่ไม่ควรเอาน้องขึ้นมาจากน้ำ

ปลิงทะเลก็มา

สาหร่ายทะเลน้ำตื้นก็มี

โชคดีที่ฝนไม่ตก ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมาบ้างแล้ว สีของน้ำทะเลก็เริ่มสดใสขึ้นมาบ้าง สถานีต่อไปคือ Bribie Island ข้ามไปเกาะโดยใช้เรือยนต์ของที่บ้าน (ลากต่อท้ายรถมา)

ไม่มีคำบรรยายกับภาพชายหาดที่อยู่ตรงหน้าเลยจริงๆ สวยสะดุดตาจนไม่รู้จะพูดว่าอะไร

พายเรือแคนูเล่นกันพักใหญ่ ก็สังเกตว่าระดับน้ำมันลดลง นั่นคือสัญญาณที่ดีที่เราจะได้เจอกับเซอร์ไพรส์ที่เกาะแห่งนี้มีไว้ต้อนรับเรา มันคือช่วงเวลาที่ปูชนิดหนึ่ง ชื่อว่า Soldier Crab จะขึ้นมาเดินกันเต็มหาด

มองดีๆเหมือนฝูงแมงมุมกำลังจะบุกยึดโลก

จับได้นะ น้องไม่หนีบ น้องแค่ดิ้นเฉยๆ



การเดินทางครั้งนี้ เราได้ค้นพบอะไรบางอย่าง นั่นคือความสัมพันธ์ของท้องฟ้าและทะเล ทำให้นึกถึงเพลงเพราะเพลงนึงชื่อว่า Sky&Sea (เอิ๊ต ภัทรวี) ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ ไม่มีวันไหนที่เราจะเห็นท้องฟ้าเป็นเช่นเดิม ท้องฟ้าไม่เคยเหงา ตอนกลางวันมีเหล่านกคอยเป็นเพื่อน มีดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่น ตอนกลางคืนก็ยังมีดวงดาวระยิบระยับรอบกาย ในขณะที่ท้องะเลคอยทำหน้าที่เป็นที่พักพิงให้กับสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่จำนานมาก คอยให้ความสุขกับมนุษย์ผู้มาเยือน แต่ในบางครั้งทะเลก็รู้สึกเหงา ในดินแดนอันไกลโพ้น ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีเสียงเฮฮาของผู้คน ทะเลก็มีเพียงท้องฟ้า  เป็นสิ่งเดียวที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แต่กลับอยู่ไกลที่สุด เวลาแผ่นฟ้ามืครึ้ม ฝนตก ทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีหม่นพร้อมที่จะโอบกอด เป็นที่รองรับน้ำตาแห่งความเสียใจ เวลาที่ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลก็จะเป็นสีคราม ดีใจที่เห็นท้องฟ้ามีความสุขอีกครั้ง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าท้องฟ้าจะมองเห็นทะเลบ้างไหม ทะเลที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะคอยดูแลท้องฟ้าอยู่ห่างๆ ห่างไกลเหลือเกิน



กระทู้นี้ตั้งใจจะให้เป็นการรีวิวชายหาดแถบ Sunshine Coast ครั้งต่อไปจะพาขับรถกินลมชมฟาร์มแถวๆ Sunshine Coast Hinterland แล้วไปเดินป่า เที่ยวน้ำตก ดูสัตว์ท้องถิ่นของออสเตรเลียกัน


ชื่อสินค้า:   ออกเดินทางเพื่อนค้นหาความสัมพันธ์ของท้องฟ้าและทะเล
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่