ใครๆก็ว่าออสเตรเลียเป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่น แต่เราว่าที่นี่เป็นสวรรค์ของคนที่รักกิจกรรมกลางแจ้งทุกแขนงเลย ทริปนี้สั้นๆแต่มีกิจกรรมให้ทำตั้งแต่กลางฟ้า กลางทะเล ยันทะเลทราย ใครที่หลงรักทะเลต้องหลงรักประเทศนี้แน่ๆ ส่วนใครรักสัตว์ก็น่าจะรักประเทศนี้ได้ไม่ยากเช่นกัน ไม่ใช่มีแค่จิงโจ้และโคอาล่านะ วัวออสเตรเลียนุ่มๆชุ่มๆแบบ medium rare ก็มีด้วย ^^
นอกจากเดินเล่นในเมืองใหญ่อย่าง Brisbane
เที่ยวชมจุดหมายในฝันของนักโต้คลื่นอย่าง Gold Coast
พอนั่งเรือออกมาชั่วโมงกว่าก็จะถึงอุทยานแห่งชาติ Moreton Island ซึ่งเป็นเกาะทรายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
ในรูปนี้คือเกาะทราย ฟังชื่อแล้วรู้สึกแห้งแล้งแต่ของจริงดูอุดมสมบูรณ์มาก ที่นี่แหละ กิจกรรมรออยู่เพียบ!
ขอเริ่มกันที่ Moreton Island เกาะนี้เป็นอุทยานที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งเมืองบริสเบน
สัตว์ตัวแรกที่เราเจอคือ Australian Pelican นกเพลิแคนออสเตรเลียมีจะงอยปากที่ยาวที่สุดในโลก
อ้าปากแล้วเหมือนถุงกระเป๋าขนาดใหญ่สีชมพู อมปลาได้หลายตัว หน้าตาเหมือนตัวการ์ตูนสุดๆ พบได้แค่แถบนี้เท่านั้นนะ
ข้างๆ มีนกพุ่งลงน้ำไปหาปลาด้วย
11 โมงเช้า นกเพลิแคนจะพากันบินมารอกินปลาจากเจ้าหน้าที่ มันมารอแบบนี้ที่ริมทะเลทุกวันเลย เป็นนกที่อยู่อิสระตามธรรมชาตินะ
ในที่สุดก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้ว! มองจากบนฟ้าจะเห็นแนวซากเรือทั้ง 15 ลำ เรียงรายขนานไปกับชายฝั่ง ไม่ใช่ว่าบังเอิญจมเองแน่นอน แต่มันถูกทำให้จมลงเพื่อใช้เป็นแนวกันคลื่นนั่นเอง
เราว่าที่นี่เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจมากๆ รอบซากเรือกลายเป็นแนวปะการัง ดำได้ทั้ง snorkeling และ scuba diving เลย
น้ำทะเลที่นี่ ไล่สีได้สวยมากจริงๆนะ
ถ้านั่งฝั่งซ้ายจะได้เห็นชายฝั่ง เห็นน้ำทะเลไล่สี เห็นซากเรือ เห็นทะเลทรายกลางป่า สวยงามมาก ส่วนฝั่งขวาจะได้เห็นแค่มหาสมุทรสุดลูกหูลูกตา
เราได้นั่งขวา 55555
Dugong! ไม่คิดว่าที่นี่จะมีพะยูนให้ดูด้วย กำลังดูดๆอาหารตามพื้นทราย หางชี้เลย น่ารัก
ถ้าใครมาช่วงเดือนมิถุนายน - ตุลาคมจะได้เห็นฝูงวาฬหลังค่อมว่ายน้ำผ่านมาจากแอนตาร์กติกาด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่านกอะไร ดำๆ ขาวๆ ยืนกองกันเต็มหาดเลย
พอถ่ายน้ำหนักเพื่อเดินหน้าถอยหลังเป็น เลี้ยวเป็น เร่งเป็น การยืนบน Segway ชมวิวไปตามชายหาดก็เป็นกิจกรรมที่เพลินมากเลย
Desert Safari Tour พาเรานั่งรถผ่านป่าจนมาโผล่ที่ทะเลทรายกลางเกาะ
sand dune ที่เห็นในรูปนี่สูงและชันมาก ยิ่งช่วงบนๆ ก้าวเดินแล้วเหมือนไหลลงมาย่ำอยู่กับที่เลย ชันจริงๆ
Sand Tobogganing เป็นกิจกรรมที่ให้ไถลงมาจากสันทรายคล้ายๆกับที่เล่นบนหิมะ ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย ใช้เวลาเดินขึ้นแทบตาย ไถลงมาปรู๊ดเดียวก็ต้องเริ่มเดินขึ้นใหม่แล้ว
ตอนไถลงมาต้องพยายามเชิดกระดานสูงๆไว้ ไม่งั้นมันจะมุดทรายแล้วทรายจะฟู่เต็มหน้า กรุบกรอบไปหมดทั้งปาก!
พูดถึงทะเลทราย คิดว่าเดินแล้วต้องร้อนเท้าแน่ๆ แต่ผิดคาด ทรายที่นี่เย็นสบายมาก ขาว ละเอียด เดินแล้วนุ่มมากเลย
เรือใบก็มี paddle board ก็มี หรือจะออกไปเล่น parasailing ที่กลางทะเลเลยก็ได้ กิจกรรมบนเกาะนี้มีอีกเยอะ ถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกน้ำไปซะก่อน
ตอนแรกก็สงสัยนะ ทำไมต้องมาดูโลมาตอนพระอาทิตย์ตกด้วย ขอฟ้าสว่างๆ แดดสวยๆ ได้มั้ย จริงๆเป็นเพราะโลมาปากขวดบนเกาะนี้เป็นโลมาที่อยู่กันตามธรรมชาติ รีสอร์ทไม่ได้เลี้ยงไว้ ตอนเย็นๆเกิดอยากโชว์ตัวก็จะพากันว่ายมารอคนที่ริมหาดแบบนี้แหละ
รอบเกาะมีโลมาอยู่ประมาณ 600-800 ตัว แต่ตอนนี้มีแค่ 12 ตัวที่ชอบว่ายเข้ามารับมื้อเย็นเป็นประจำทุกวัน ทุกตัวมีชื่อด้วย และมีแค่ไม่กี่ที่บนโลกใบนี้ที่อนุญาตให้เราให้อาหารโลมาตามธรรมชาติได้อย่างถูกกฎหมาย Tangalooma เป็นหนึ่งในนั้น เค้าจะคุมปริมาณอาหารที่ให้โลมาในแต่ละวันไว้ที่ 10-25% ดังนั้นโลมาเหล่านี้ยังต้องออกล่าอาหารเองตามธรรมชาติอยู่นะ ป้องกันไม่ให้โลมาเสียนิสัย
กลับมาที่แผ่นดินใหญ่กับเมืองหลวงของรัฐ Queensland อย่าง Brisbane
ที่นี่คือ Kangaroo Point เป็นจุดชมวิวเมืองที่เราว่าสวยดี มีแม่น้ำบริสเบนไหลผ่านเป็นฉากหน้า ชื่อมาแบบนี้แต่ไม่มีจิงโจ้ให้ดูนะ
Streets Beach เป็นชายหาดจำลองที่สร้างไว้ริมแม่น้ำ ชายหาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งพักผ่อนกลางเมืองอย่าง South Bank Parklands
เราชอบที่สวนสาธารณะเค้าเหมือนสร้างขึ้นมาเพื่อพักผ่อนจริงๆ มีทะเล มีหาดทราย มีสระว่ายน้ำ มีสวนพฤกษศาสตร์ มีคาเฟ่ และมีโต๊ะให้คนนั่งทำงานในสวนด้วย เราไปบ่ายวันธรรมดา คนยังเยอะมากๆ
Currumbin Wildlife Sanctuary เป็นสวนสัตว์แห่งเดียวของรัฐ Queensland ที่อนุญาตให้เราอุ้มโคอาล่า! บางรัฐก็ไม่ให้อุ้มทั้งรัฐเลย เค้ากลัวมันเครียด! ตัวนี้ชื่อ Moreton เราอุ้มมาแล้ว น่ารัก หนักๆ นุ่มๆ มันจะกางแขนเกาะเราไว้เบาๆ ส่วนเราต้องทำตัวนิ่งๆ ถ้าดุกดิกมันจะเครียดแล้วกางเล็บแหลมๆจิกเอา
นี่เป็นพระราชาหรือยังไง นอนเสวยสุขบนกองอาหารขนาดนี้
Koala ในภาษาอะบอริจินแปลว่า ไม่กินน้ำ คือมันไม่กินน้ำเลยเพราะได้น้ำผ่านทางใบยูคาลิปตัส หรือที่ประเทศนี้เรียกว่า gum ใบนี้มีสารบางอย่างที่เป็นพิษต่อสัตว์ที่กินเข้าไป แต่โคอาล่าเจ๋งพอ รับมือพิษนี้ได้ มันเลยไม่ต้องแย่งอาหารกับใครเลย อาหารมีเหลือเฟือ แค่กินแล้วก็นอนเกือบ 20 ชั่วโมงเพื่อเซฟพลังงานไว้ย่อยใบยูคา
พูดถึงยูคา จริงๆยูคามีหลายร้อยชนิด แต่ชนิดที่อยู่ในสวนสัตว์นี้มีกลิ่นเหมือนขนมผิวส้มที่กินตอนเด็กๆ สวนสัตว์ที่นี่เลยไม่ค่อยเหม็น
อีกหนึ่งพระเอกของประเทศ เจ้าจิงโจ้!
เห็นเด็กๆนั่งลูบจิงโจ้กัน เราเลยไปลองลูบหัวมันบ้าง ขนฟูเหมือนกัน นึกว่าเกรียนๆ
Kangaroo ในภาษาอะบอริจินแปลว่า ฉันไม่เข้าใจ
เค้าเล่ากันว่ากัปตันเจมส์คุกผู้ค้นพบออสเตรเลียเห็นเจ้าจิงโจ้กระโดดไปมา เลยถามคนพื้นเมืองเป็นภาษาอังกฤษว่านั่นมันตัวอะไร คนพื้นเมืองเลยพูดออกมาว่า Kangaroo! ฉันไม่เข้าใจว่ากัปตันพูดอะไรน่ะ
เราอยู่บนชายหาด Currumbin มองผ่านกลุ่มนักโต้คลื่นไปไกลๆ จะเห็นแผงตึกสีเทาๆ ที่เส้นขอบฟ้า นั่นแหละเมือง Gold Coast
รู้สึกว่าช่วงที่ไปคลื่นไม่ค่อยแรง คนออกมาเล่น paddle board กันซะมากกว่าจะมา surf
สงสัยว่าทำไมตรงกลางถึงมีฟองคลื่นขาวๆแตกตัวเป็นวงกลมวงใหญ่ขนาดนั้น
Surfer Paradise ชายหาดชื่อดังของ Gold Coast ได้มาเดินเล่นในยามเย็นเห็นฝูงนกนางนวลขาแดงยืนกันเป็นกลุ่มๆ ใครลงเล่นน้ำทิ้งของไว้บนหาด พวกนกก็จะเข้าไปยืนล้อมแบบหันหน้าไปทางเดียวกัน ตลกดี ถ้าเผลอก็มีจิกๆหาอาหารตามกองสัมภาระของเจ้าพวกมนุษย์!
จาก Observation Desk บนตึก Q1 ชั้น 77 จะมองเห็นทั้งหาดยาวๆของ Gold Coast และแม่น้ำ Nerang เลย
ขอปิดท้ายด้วยรูปทะเลก่อนกลับ
[SR] - AUSTRALIA - ออสเตรเลีย ทวีปในฝันของคนรักทะเล!
นอกจากเดินเล่นในเมืองใหญ่อย่าง Brisbane
เที่ยวชมจุดหมายในฝันของนักโต้คลื่นอย่าง Gold Coast
พอนั่งเรือออกมาชั่วโมงกว่าก็จะถึงอุทยานแห่งชาติ Moreton Island ซึ่งเป็นเกาะทรายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
ในรูปนี้คือเกาะทราย ฟังชื่อแล้วรู้สึกแห้งแล้งแต่ของจริงดูอุดมสมบูรณ์มาก ที่นี่แหละ กิจกรรมรออยู่เพียบ!
ขอเริ่มกันที่ Moreton Island เกาะนี้เป็นอุทยานที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งเมืองบริสเบน
สัตว์ตัวแรกที่เราเจอคือ Australian Pelican นกเพลิแคนออสเตรเลียมีจะงอยปากที่ยาวที่สุดในโลก
อ้าปากแล้วเหมือนถุงกระเป๋าขนาดใหญ่สีชมพู อมปลาได้หลายตัว หน้าตาเหมือนตัวการ์ตูนสุดๆ พบได้แค่แถบนี้เท่านั้นนะ
ข้างๆ มีนกพุ่งลงน้ำไปหาปลาด้วย
11 โมงเช้า นกเพลิแคนจะพากันบินมารอกินปลาจากเจ้าหน้าที่ มันมารอแบบนี้ที่ริมทะเลทุกวันเลย เป็นนกที่อยู่อิสระตามธรรมชาตินะ
ในที่สุดก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้ว! มองจากบนฟ้าจะเห็นแนวซากเรือทั้ง 15 ลำ เรียงรายขนานไปกับชายฝั่ง ไม่ใช่ว่าบังเอิญจมเองแน่นอน แต่มันถูกทำให้จมลงเพื่อใช้เป็นแนวกันคลื่นนั่นเอง
เราว่าที่นี่เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจมากๆ รอบซากเรือกลายเป็นแนวปะการัง ดำได้ทั้ง snorkeling และ scuba diving เลย
น้ำทะเลที่นี่ ไล่สีได้สวยมากจริงๆนะ
ถ้านั่งฝั่งซ้ายจะได้เห็นชายฝั่ง เห็นน้ำทะเลไล่สี เห็นซากเรือ เห็นทะเลทรายกลางป่า สวยงามมาก ส่วนฝั่งขวาจะได้เห็นแค่มหาสมุทรสุดลูกหูลูกตา
เราได้นั่งขวา 55555
Dugong! ไม่คิดว่าที่นี่จะมีพะยูนให้ดูด้วย กำลังดูดๆอาหารตามพื้นทราย หางชี้เลย น่ารัก
ถ้าใครมาช่วงเดือนมิถุนายน - ตุลาคมจะได้เห็นฝูงวาฬหลังค่อมว่ายน้ำผ่านมาจากแอนตาร์กติกาด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่านกอะไร ดำๆ ขาวๆ ยืนกองกันเต็มหาดเลย
พอถ่ายน้ำหนักเพื่อเดินหน้าถอยหลังเป็น เลี้ยวเป็น เร่งเป็น การยืนบน Segway ชมวิวไปตามชายหาดก็เป็นกิจกรรมที่เพลินมากเลย
Desert Safari Tour พาเรานั่งรถผ่านป่าจนมาโผล่ที่ทะเลทรายกลางเกาะ
sand dune ที่เห็นในรูปนี่สูงและชันมาก ยิ่งช่วงบนๆ ก้าวเดินแล้วเหมือนไหลลงมาย่ำอยู่กับที่เลย ชันจริงๆ
Sand Tobogganing เป็นกิจกรรมที่ให้ไถลงมาจากสันทรายคล้ายๆกับที่เล่นบนหิมะ ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย ใช้เวลาเดินขึ้นแทบตาย ไถลงมาปรู๊ดเดียวก็ต้องเริ่มเดินขึ้นใหม่แล้ว
ตอนไถลงมาต้องพยายามเชิดกระดานสูงๆไว้ ไม่งั้นมันจะมุดทรายแล้วทรายจะฟู่เต็มหน้า กรุบกรอบไปหมดทั้งปาก!
พูดถึงทะเลทราย คิดว่าเดินแล้วต้องร้อนเท้าแน่ๆ แต่ผิดคาด ทรายที่นี่เย็นสบายมาก ขาว ละเอียด เดินแล้วนุ่มมากเลย
เรือใบก็มี paddle board ก็มี หรือจะออกไปเล่น parasailing ที่กลางทะเลเลยก็ได้ กิจกรรมบนเกาะนี้มีอีกเยอะ ถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกน้ำไปซะก่อน
ตอนแรกก็สงสัยนะ ทำไมต้องมาดูโลมาตอนพระอาทิตย์ตกด้วย ขอฟ้าสว่างๆ แดดสวยๆ ได้มั้ย จริงๆเป็นเพราะโลมาปากขวดบนเกาะนี้เป็นโลมาที่อยู่กันตามธรรมชาติ รีสอร์ทไม่ได้เลี้ยงไว้ ตอนเย็นๆเกิดอยากโชว์ตัวก็จะพากันว่ายมารอคนที่ริมหาดแบบนี้แหละ
รอบเกาะมีโลมาอยู่ประมาณ 600-800 ตัว แต่ตอนนี้มีแค่ 12 ตัวที่ชอบว่ายเข้ามารับมื้อเย็นเป็นประจำทุกวัน ทุกตัวมีชื่อด้วย และมีแค่ไม่กี่ที่บนโลกใบนี้ที่อนุญาตให้เราให้อาหารโลมาตามธรรมชาติได้อย่างถูกกฎหมาย Tangalooma เป็นหนึ่งในนั้น เค้าจะคุมปริมาณอาหารที่ให้โลมาในแต่ละวันไว้ที่ 10-25% ดังนั้นโลมาเหล่านี้ยังต้องออกล่าอาหารเองตามธรรมชาติอยู่นะ ป้องกันไม่ให้โลมาเสียนิสัย
กลับมาที่แผ่นดินใหญ่กับเมืองหลวงของรัฐ Queensland อย่าง Brisbane
ที่นี่คือ Kangaroo Point เป็นจุดชมวิวเมืองที่เราว่าสวยดี มีแม่น้ำบริสเบนไหลผ่านเป็นฉากหน้า ชื่อมาแบบนี้แต่ไม่มีจิงโจ้ให้ดูนะ
Streets Beach เป็นชายหาดจำลองที่สร้างไว้ริมแม่น้ำ ชายหาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งพักผ่อนกลางเมืองอย่าง South Bank Parklands
เราชอบที่สวนสาธารณะเค้าเหมือนสร้างขึ้นมาเพื่อพักผ่อนจริงๆ มีทะเล มีหาดทราย มีสระว่ายน้ำ มีสวนพฤกษศาสตร์ มีคาเฟ่ และมีโต๊ะให้คนนั่งทำงานในสวนด้วย เราไปบ่ายวันธรรมดา คนยังเยอะมากๆ
Currumbin Wildlife Sanctuary เป็นสวนสัตว์แห่งเดียวของรัฐ Queensland ที่อนุญาตให้เราอุ้มโคอาล่า! บางรัฐก็ไม่ให้อุ้มทั้งรัฐเลย เค้ากลัวมันเครียด! ตัวนี้ชื่อ Moreton เราอุ้มมาแล้ว น่ารัก หนักๆ นุ่มๆ มันจะกางแขนเกาะเราไว้เบาๆ ส่วนเราต้องทำตัวนิ่งๆ ถ้าดุกดิกมันจะเครียดแล้วกางเล็บแหลมๆจิกเอา
นี่เป็นพระราชาหรือยังไง นอนเสวยสุขบนกองอาหารขนาดนี้
Koala ในภาษาอะบอริจินแปลว่า ไม่กินน้ำ คือมันไม่กินน้ำเลยเพราะได้น้ำผ่านทางใบยูคาลิปตัส หรือที่ประเทศนี้เรียกว่า gum ใบนี้มีสารบางอย่างที่เป็นพิษต่อสัตว์ที่กินเข้าไป แต่โคอาล่าเจ๋งพอ รับมือพิษนี้ได้ มันเลยไม่ต้องแย่งอาหารกับใครเลย อาหารมีเหลือเฟือ แค่กินแล้วก็นอนเกือบ 20 ชั่วโมงเพื่อเซฟพลังงานไว้ย่อยใบยูคา
พูดถึงยูคา จริงๆยูคามีหลายร้อยชนิด แต่ชนิดที่อยู่ในสวนสัตว์นี้มีกลิ่นเหมือนขนมผิวส้มที่กินตอนเด็กๆ สวนสัตว์ที่นี่เลยไม่ค่อยเหม็น
อีกหนึ่งพระเอกของประเทศ เจ้าจิงโจ้!
เห็นเด็กๆนั่งลูบจิงโจ้กัน เราเลยไปลองลูบหัวมันบ้าง ขนฟูเหมือนกัน นึกว่าเกรียนๆ
Kangaroo ในภาษาอะบอริจินแปลว่า ฉันไม่เข้าใจ
เค้าเล่ากันว่ากัปตันเจมส์คุกผู้ค้นพบออสเตรเลียเห็นเจ้าจิงโจ้กระโดดไปมา เลยถามคนพื้นเมืองเป็นภาษาอังกฤษว่านั่นมันตัวอะไร คนพื้นเมืองเลยพูดออกมาว่า Kangaroo! ฉันไม่เข้าใจว่ากัปตันพูดอะไรน่ะ
เราอยู่บนชายหาด Currumbin มองผ่านกลุ่มนักโต้คลื่นไปไกลๆ จะเห็นแผงตึกสีเทาๆ ที่เส้นขอบฟ้า นั่นแหละเมือง Gold Coast
รู้สึกว่าช่วงที่ไปคลื่นไม่ค่อยแรง คนออกมาเล่น paddle board กันซะมากกว่าจะมา surf
สงสัยว่าทำไมตรงกลางถึงมีฟองคลื่นขาวๆแตกตัวเป็นวงกลมวงใหญ่ขนาดนั้น
Surfer Paradise ชายหาดชื่อดังของ Gold Coast ได้มาเดินเล่นในยามเย็นเห็นฝูงนกนางนวลขาแดงยืนกันเป็นกลุ่มๆ ใครลงเล่นน้ำทิ้งของไว้บนหาด พวกนกก็จะเข้าไปยืนล้อมแบบหันหน้าไปทางเดียวกัน ตลกดี ถ้าเผลอก็มีจิกๆหาอาหารตามกองสัมภาระของเจ้าพวกมนุษย์!
จาก Observation Desk บนตึก Q1 ชั้น 77 จะมองเห็นทั้งหาดยาวๆของ Gold Coast และแม่น้ำ Nerang เลย
ขอปิดท้ายด้วยรูปทะเลก่อนกลับ