Cleft Island
เกาะหินขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีรูโหว่ขนาดใหญ่เว้าเข้าไปในชั้นหิน เป็นรูปทรงสุดแปลกที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในชื่อ “Cleft Island” และ “Skull Island” หรือเกาะหัวกะโหลก เป็นเกาะหินแกรนิตที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของแหลม Wilsons ในรัฐวิคตอเรีย แห่งประเทศออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในสามของหมู่เกาะที่เรียกว่า Anser ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่สวยงามที่สุดในแหลม Wilsons
เกาะหินแกรนิตแห่งนี้มีลักษณะที่โดดเด่นที่สุด คือรูปร่างของเกาะที่ไม่ได้เป็นเนื้อหินล้วนอย่าเกาะทั่วไป แต่ทางด้านฝั่งตะวันตกของเกาะ กับมีรูโหว่ขนาดใหญ่ยักษ์ เป็นช่องว่างที่ดูเหมือนประตูถ้ำขนาดใหญ่ ภายในพื้นถ้ำเต็มไปด้วยต้นหญ้าสีเขียว ซึ่งหญ้าเหล่านี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม และความแปลกของรูปทรงเกาะผู้คนจึงเรียกเกาะแห่งนี้ในสิ่งที่ทำให้จินตนาการถึง เช่น เกาะหัวกะโหลกและเกาะแตกกะเทาะ แต่สำหรับผู้เขียน เมื่อเห็นแล้วทำให้นึกถึงรอยฟันผุตลกๆมากกว่า
ส่วนต้นกำเนิดของรอยแตกที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของเกาะ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา เมื่อน้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นและเข้าสาดซัดเนื้อถ้ำ ในระยะเวลานับพันปี ทำให้ช่องโหว่เกิดขึ้นและกลายเป็นถ้ำธรรมชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถ้ำมีความกว้างกว่า 130 เมตร สูง 60 เมตร และลึกเข้าไป 60 เมตร เมื่อพิจารณษจากขนาดถ้ำ ของจริงคงจะมีขนาดใหญ่ยักษ์จริงๆ โดยเชื่อว่าสมัยก่อนมีการใช้ถ้ำแห่งนี้ในการส่งเรือ แต่ปัจจุบันเราสามารถชมถ้ำได้จากภายนอก เพราะการเข้าไปสำรวจภายในนั้นต้องมีคามชำนาญ เนื่องจากทางเข้าถ้ำนั้นเป็นผนังสูงชั้นกว่าที่เห็นจากภาพ
ที่มา amusingplanet.com
Kangaroo
“Remarkable Rocks” เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 200 ฟุตในอุทยานแห่งชาติ Flinders Chase บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ Kangaroo ซึ่งเป็นกลุ่มหินแกรนิตขนาดใหญ่บนโดมลาวายักษ์ ที่ถูกกัดเซาะด้วยลม ละอองจากคลื่นทะเล และน้ำฝนตลอด 500 ล้านปีที่ผ่านมา
หินแกรนิตเหล่านี้เคยถูกฝังอยู่ใต้พื้นโลกในยุค Ordovician เมื่อประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นเกาะแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของทวีกกอนด์วานา แผ่นทวีปใหญ่ที่ครอบคลุมตั้งแต่ดินแดนออสเตรเลีย อเมริกาใต้ แอฟริกา อินเดีย ไปจนถึงแอนตาร์กติกา
หลังจากการแยกตัวของแผ่นทวีปเมื่อ 150 ล้านปีที่แล้ว ทำให้เจ้าหินแกรนิตนี้ติดไปกับทวีปออสเตรเลีย และด้วยความที่มันมีสัดส่วนของแร่ธาตุที่ผุกร่อนได้ง่าย อย่าง Feldspar และ Mica เมื่อเจอกับการกัดเซาะของลมอย่างต่อเนื่องในสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้ง จึงทำให้หินทรงกลมเหล่านี้ผุกร่อนจนเกิดรูปร่างแปลกประหลาดอย่างที่เห็นกันนั่นเอง
ที่มา Amusing planet
ภาพ Lifes an adventure
Cr.
http://realmetro.com/remarkable-rocks-in-australia/
" หินเรือใบ "
ชายฝั่งทะเลบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาคตะวันออกแห่งท้องทะเลอันดามันในมหาสมุทรอินเดีย มีการยุบตัวลงของชายฝั่งทะเล (Submerged shoreline) จึงมีการกัดเซาะพังทลายโดยมีน้ำทะเลเป็นตัวกระทำอย่างรุนแรง ทำให้บริเวณตัวเกาะเกิดเป็นลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตา คือมีลักษณะสูงชัน ไม่มีอ่าวขนาดใหญ่
หินส่วนใหญ่ที่พบบริเวณหมู่เกาะสิมิลันเป็นหินอัคนีชนิดแกรนิต ในยุค Cretaceous มีอายุประมาณ 145-65 ล้านปี จากลักษณะหมู่เกาะที่ห่างไกลจากชายฝั่ง ทำให้สภาพธรรมชาติของหมู่เกาะสิมิลันมความสมบูรณ์มากทั้งบนบกและในน้ำ
เกาะแปด นับได้ว่าเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่หินเรือใบและน้ำทะเลสีฟ้าใสที่น่าจะใสที่สุดในประเทศไทย ทั้งหาดทรายก็นับได้ว่าเป็นที่สุดของประเทศเช่นกัน
ที่มา MU KOH SIMILAN NATIONAL PARK
The Baths
ชายหาดบนเกาะเวอร์จิน กอร์ดา ยังมีโขดหินที่ก่อตัวขึ้นจากธรรมชาติ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนในชื่อ The Baths กลุ่มหินที่ตั้งอยู่ภายใต้ทะเลและโผล่พ้นผืนน้ำ เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีทัศนียภาพไม่ซ้ำใคร ทั้งถ้ำโขดหินและสระน้ำขนาดเล็ก
หมู่เกาะเวอร์จินมีชื่อเสียงมากในด้านวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงามจับตา และจุดชมวิวอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้ง The Baths โขดหินแกรนิต ทรงกลมทรงเหลี่ยมที่เรียงต่อกัน ซ้อนกันบรรจบกัน ซึ่งเป็นหินที่ก่อเกิดมาจากภูเขาไฟ เกิดการหลอมรวมและกัดกร่อนมีรูปร่างไม่เท่ากันใหญ่บ้างเล็กบ้าง ทำให้หินมีลักษณะคล้ายกับอุโมงค์ของถ้ำขนาดเล็กที่น้ำามารถเซาะผ่านไปได้ เป็นไฮไลท์ของชายหาดแห่งนี้
ชายหาดแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวิวทิวทัศน์เฉพาะตัว เพราะหิน The Baths นั้นมีขนาดใหญ่มหึมาเต็มไปทั่วชายหาด ส่งผลให้มีความงดงามตามช่วงเวลาในแต่ละวัน ทั้งยามเช้า ยามบ่าย และยามอาทิตย์อัสดง ที่แสงแดดจะสาดส่องลงบนผิวน้ำและแทรกเข้าสู่โขดหิน เป็นศิลปะจากรรมชาติที่ควรเห็นด้วยตาตัวเอง
ที่มา atlasobscura.com
Cr.ภาพ dronestagr.am/
LOFOTEN ISLANDS
“โลโฟเทน” หมู่เกาะทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ดินแดนในเขต ขั้วโลกเหนือที่มีแลนด์สเคปงดงามตระการตา จุดหมายปลายทาง ในฝันของนักล่าแสงเหนือและนักถ่ายภาพทั่วโลก
หมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่เขตมณฑล NORDLAND ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ โดยมีเกาะ ใหญ่หลัก ๆ ได้แก่ AUSTVAGOYA, GIMSOYA, VESTVAGOYA, FLAKSTADOYA และ MOSKENESOYA เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10
ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม แซมด้วยบ้านชาวประมง (Rorbuer) สีแดง การเต้นระบำของแสงเหนือ บนท้องฟ้าในหน้าหนาว คือส่วนหนึ่งของมหัศจรรย์ธรรมชาติที่รังสรรค์ ให้โลโฟเทนมีทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย
หมู่เกาะโลโฟเทน มีทุกอย่างที่คุณ ต้องการในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นทะเล หาดทราย หมู่บ้านประมงดั้งเดิม ภูเขา ทุ่งหญ้าสะวันน่า แสงเหนือ ฯลฯ
และด้วยความเป็นหมู่เกาะจึงมีทะเลที่ล้อมรอบหมู่เกาะแห่งแบบ 360° หมู่เกาะแห่งนี้เป็นต้นแบบของอาณาจักร Arendelle ของเจ้าหญิง Elsa และ Anna ในภาพยนตร์เรื่อง Frozen ด้วย
ที่มา : นิตยสาร My World Vol.113 MAY - JUNE 2018
Yosemite National Park
อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก 1,189 ตารางไมล์ หรือ 3,081 ตารางกิโลเมตรจรดทะเลทรายเนวาดา
โยเซมิตี เป็นอุทยานที่รู้จักกันในชื่อของหน้าผาหินแกรนิต ที่นี่มีจุดที่น่าสนใจเพียบทั้ง ยอดเขาโดมครึ่งซีก (Half dome) น้ำตกขนาดใหญ่หลายน้ำตก
ที่เด่นๆคือน้ำตกโยเซมิตี (Yosemite Falls) เป็นน้ำตกที่สวยเห็นโดดเด่นแต่ไกล เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
โยเซมิตีถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอเมริกาและอุทยานแห่งนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
Matobo Hills
Matobo Hills ตั้งอยู่ในประเทศซิมบับเว (Zimbabwe) โดยลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาหินแกรนิต ประกอบไปด้วยก้อนหินรูปร่างแปลกตา
ที่โดดเด่นไม่แพ้สิ่งอื่นๆก็คงจะเป็นหินที่มีรูปร่างกลม หรือรี โดย Matobo Hills มีลักษณะเป็นธรรมชาติที่มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมอาชีพมนุษย์ตั้งแต่ยุคหินตอนต้น ถึงยุคประวัติศาสตร์ตอนต้น
ที่นี่สามารถศึกษาจิตรกรรมหิน เทือกเขาแสดงความสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาเชื่อมโยงกับประเพณี กิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจของชุมชน Matobo มีความหมายว่า 'หัวโล้น' ได้รับการขนานนามจากกษัตริย์ Ndebele ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Mzilikazi กษัตริย์องค์นี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าถูกฝังอยู่ในภูเขา Matobo
ชูการ์ โลฟ
ชูการ์โลฟ (Sugarloaf) เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณปากอ่าวกัวนาบาราที่ยืนออกไปบนคาบสมุทรแอตแลนติก ด้วยความสูงกว่า 396 เมตร ว่ากันว่าชื่อชูการ์โลฟแสนหวานนั้นมาจากรูปร่างของภูเขาที่สมัยก่อนนี้มีลักษณะเหมือนกองน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เข้มข้นขนาดใหญ่
ชูการ์โลฟเป็นการก่อตัวของหินแกรนิตขนาดใหญ่และหินควอทซ์มีคุณค่าทางธรณีวิทยาและยังได้รับการดูแลคุ้มครองถายใต้องค์กรอนุสาวรีย์ธรรมชาติและยังได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งชูการ์โลฟนั้นเป็นดั่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ตั้งอยู่กลางทะเลมาช้านานหลายศตวรรษ ถือเป็นเอกลักษณ์ของบราซิล
นอกจากทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ชูการ์โลฟยังโด่งดังในเรื่องของ “กระเช้าเคเบิล” ระหว่าง Morro da Urca ซึ่งเป็นพื้นที่จากด้านล่างไปสู่ยอดสูงสุดของภูเขาชูการ์โลฟ โดยจะเดินทางทุกๆ 20 นาที ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิวของปากอ่าวกัวนาบาราและทิวทัศน์ของชูการ์โลฟได้ในทุกมุมมอง
ที่มา wikipedia.org
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
หินแกรนิตในธรรมชาติสร้างสรร
ภาพ Lifes an adventure
Cr.http://realmetro.com/remarkable-rocks-in-australia/
หินส่วนใหญ่ที่พบบริเวณหมู่เกาะสิมิลันเป็นหินอัคนีชนิดแกรนิต ในยุค Cretaceous มีอายุประมาณ 145-65 ล้านปี จากลักษณะหมู่เกาะที่ห่างไกลจากชายฝั่ง ทำให้สภาพธรรมชาติของหมู่เกาะสิมิลันมความสมบูรณ์มากทั้งบนบกและในน้ำ
เกาะแปด นับได้ว่าเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่หินเรือใบและน้ำทะเลสีฟ้าใสที่น่าจะใสที่สุดในประเทศไทย ทั้งหาดทรายก็นับได้ว่าเป็นที่สุดของประเทศเช่นกัน
ที่มา MU KOH SIMILAN NATIONAL PARK
ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม แซมด้วยบ้านชาวประมง (Rorbuer) สีแดง การเต้นระบำของแสงเหนือ บนท้องฟ้าในหน้าหนาว คือส่วนหนึ่งของมหัศจรรย์ธรรมชาติที่รังสรรค์ ให้โลโฟเทนมีทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย
หมู่เกาะโลโฟเทน มีทุกอย่างที่คุณ ต้องการในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นทะเล หาดทราย หมู่บ้านประมงดั้งเดิม ภูเขา ทุ่งหญ้าสะวันน่า แสงเหนือ ฯลฯ
ที่เด่นๆคือน้ำตกโยเซมิตี (Yosemite Falls) เป็นน้ำตกที่สวยเห็นโดดเด่นแต่ไกล เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
โยเซมิตีถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอเมริกาและอุทยานแห่งนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย