ผู้หญิง เที่ยว ออสเตรเลียแบบ Road trip 14 วัน EP.1

สวัสดีค่ะวันนี้มีเรื่องราวมาแชร์อีกแล้ว 
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามาเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย เรามาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 พอถึงเดือนเมษายน
ประเทศออสเตรเลียก็ล็อคดาวน์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ที่บ้านเราเลยไม่ให้กลับบ้านเพราะกลัวเราจะติดโควิดระหว่างทาง
ซึ่งในตอนนี้ มกราคมปี 2021 เราก็ยังคงอยู่ที่ออสเตรเลียอยู่ ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8/12/2020-22/12/2020 
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้เราค่อยมาตั้งกระทู้กัน อีกทีเนาะ

https://ppantip.com/topic/40475307 ผู้หญิง เที่ยวออสเตรเลียแบบ Road Trip 14 วัน EP.2(คนเดียว)


เราอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์นะคะ ทริปนี้ของเราเลยตั้งใจจะขับรถไป ทางทิศตะวันออก East coast ไปไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้ แต่เนื่องจากค่าเช่ารถจากซิดนีย์แล้วไปคืนที่จุดหมาย แพงมากๆ เราก็เลยตัดสินใจ นั่งเครื่องบินจากซิดนีย์ไปลง บริสเบน แล้วก็เช่ารถตู้แบบรถบ้าน แล้วก็ขับลงมาคืนที่ซิดนีย์ เราได้รถตู้ในราคา ประมาณ 1300 AUD รถตู้ก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ข้างในก็จะมี ไมโครเวฟ ตู้เย็น เตาแก๊ส เหมือนบ้านหลังเล็กๆ ของเรานี้เอง

ที่นี่คือ Read cliff camp เป็นที่จอดที่แรกของเรา ลืมบอกว่า มีเพื่อนคนนึ่งไปกับเราด้วย แต่เขาจะไปลงที่ Byronbay ส่วนคุณลุงที่อยู่ตรงนั้นเขาเดินมาถามเราว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เนื่องจากเราดูทำอะไรไม่ค่อยเป็น กับรถ เขาเลยมาช่วย เปิดนั้นนี้ ช่วยเปิดไฟช่วยบอกว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน ซึ่งแกก็ช่วยได้มากเลยทีเดียวค่ะ
 

เข้าวันที่ 2 เรากับเพื่อนก็ตื่นเช้าไปเดินสำรวจรอบๆ บวกกับไปหาอาหารเช้ากินกัน  แล้วก็ออกเดินทางไปจุดหมายถัดไปค่ะ จุดหมายถัดไปของเราก็คือ 
Sunshine Coast และเราจะไป แคมปิ้งกันที่ Noosa 
 
นี้เป็นวิวระหว่างทาง อยากจะบอกว่าใครที่รักสัตว์รักธรรมชาติแนะนำให้มาอยู่ออสเตรเลีย จะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ


ระหว่างทางเราเจอป้าย Glass house mountain ก็เลยว่าจะแวะดูซักหน่อย ซึ่งพอเราไปถึง นี้คือที่หมาย

 
รอบๆจะเป็นภูเขารูปทรงต่างๆตามธรรมชาติ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะคะ 
หลังจากนั้นเราก็ขับรถกันต่อไปอีก 


เรามาถึง Sunshine Coat ก็ช่วงบ่ายกว่าๆแล้ว ก็เลยหาที่ทานข้าวเที่ยงกัน
เรามาแวะที่ Cotton tree park แต่รอบๆไม่ค่อยมีร้านอาหาร แล้วอากาศก็ร้อนมากกกกกกก
พอดีมีสลัดกับทูน่าอยู่ในตู้เย็น เราก็เลยทำสลัดง่ายๆแล้วเราก็ทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ค่ะ
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวในออสเตรเลีย เราสามารถปูผ้า ปูเสื่อ นั่งริมหาด ปิคนิคริมทะเล หรือสวนสาธารณะได้เลยแบบฟรีๆ
[แต่ไม่สามารถ ตั้งแคมป์ค้างคืนได้นะคะ]
***แต่เขาห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะนะคะ***
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเราก็ไปกันต่อ ระหว่างทางเราก็มีแวะ Sunshine Beach เป็นหาดที่ใหญ่มากๆ คลื่นก็แรงมากๆ มีคนแถวนั้นบอกเราว่า นี่เป็น 1 ในหาดที่ใหญ่ของออสเตรเลียเลยนะ  เราเชื่อค่ะ เพราะจากจุดที่เรายืนอยู่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหาดเลย

เนื่องจากใกล้จะค่ำแล้วเราเลยต้องรีบหาที่นอน เราหาที่พัก Campsite จากแอพ Thl Road trip 
(พนักงานรถเช่าแนะนำมาอีกทีค่ะ ในแอพก็จะมีบอก รายละเอียดตั้งแต่ ห้องน้ำ ที่ทำอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้ง ราคา มีตั้งแต่ฟรี ไปยัน เสียตัง ทั้งยังมีคนรีวิวเพื่อช่วยเราประกอบการตัดสินใจด้วย เราสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมตามเบอร์ที่เขาลงไว้ในแอพได้เลยด้วย บอกเลยว่าสะดวกสุด)

เราได้ที่พัก อยู่ที่ Cooroy เราเลือกที่นี่เพราะว่าใกล้ Noosa national park ละก็ดูเงียบสงบด้วยค่ะ พอถึงที่พักก็มืดแล้ว ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้
เรากับเพื่อนค่อนข้างชอบที่นี้ก็เลยว่าจะอยู่ต่ออีก 1 คืนค่ะ

วันที่ 3 พวกเราตั้งใจจะไป Noosa main beach และ Noosa national park
ตรงนี้เป็น หาดหลักนะคะเนื่องจากหาดอื่นๆ คลื่นค่อนข้างแรง ไม่เหมาะที่จะว่ายน้ำอาบแดดชิวๆ เรารู้สึกเหมือน คนทั้งเขตมารวมตัวกันอยู่ที่หาดนี้ คือคนเยอะมากๆแล้วก็ร้อนมากๆๆๆๆๆๆ ด้วยค่ะ

จากหาดหลังเดินต่อไปอีกนิดนึ่งจะเป็น Noosa national park ให้เราได้ปีนเขาชมธรรมชาติแล้วก็ได้ชมหลายๆหาดสวยของที่นี่ด้วย และต้องเดินเท่านั้นนะคะ ถ้าอยากจะชม ห้ามรถยนต์และจักรยานยนต์เข้าค่ะ นี้เป็นภาพบางส่วนที่เราเก็บมาได้ จริงๆระหว่างทางได้เจอฝูงโลมาด้วยแต่ถ่ายไว้ไม่ทัน 



ส่วนสระนี่ชื่อว่า Fairy pool ค่อนข้างมีชื่อเสียนะคะใครมาที่นี่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด แต่จะต้องปีนโขดหินเข้าไปค่อนข้างอันตราย
แล้วคนก็เยอะมากๆ ยื่นรอต่อคิวลงไปถ่ายรูป สวยมากๆ สมคำร่ำลือ


มาถึงตรงนี้ก็หมดไปเป็นวันแล้ว เดินรอบๆรวมๆก็หลายกิโลเหมือนกันค่ะ เนื่องจากร้อนมากเหนื่อยมาก ก็เลยกลับเข้าที่พักไปพักผ่อน ที่พักก็จะมีคนอื่นๆเขามาพักเหมือนเรา มาแบบรถบ้าน คนที่นี่อัธยาศัยดีมากๆ ระหว่างอยู่ที่พักจะมีคนเดินมาแวะเวียนทักทายอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นไม่เหงาแน่นอนค่ะ

วันที่ 4 เราขับรถลงมาจาก Noosa ไปเที่ยวตามทาง
ตอนแรกเรากะจะไปไกลที่สุดเท่าที่ไปได้ แต่ด้วยอากาศไม่ค่อยดี(หลังแดดร้อนจัดพายุเข้าเฉยเลย) บวกกับ โซนบ้านเราที่ซิดนีย์ เกิดล็อคดาวเนื่องจากโควิดเริ่มระบาดด้วย เลยทำให้เรากังวล กลัวจจะกลับบ้านไม่ได้ เนื่องจาก Noosa อยู่รัฐ Queensland แต่บ้านเราอยู่รัฐ New South Wales ถ้าเขาปิดจะกลับไม่ได้ แทนที่จะขึ้นเหนือเราเลยตัดสินใจ ขับรถลงใต้แทน พักเรื่องเครียดกลับไปเรื่องเที่ยวต่อค่ะ ><

ระหว่างทางก็มีแวะ Kondalilla National park เขาบอกว่าที่นี่มีน้ำตกสวยมากๆ แต่พอเราไป น้ำมันไม่ตกอะ แห้งเชียว แล้วก็ต้องปีนเขาชันมากๆ
คือเกือบตายอะวันนี้ ตรงรูปแรกยังไม่ถึงครึ่งทางเลย เราเดินไม่ไหวก็เลย ตัดสินใจเดินกลับ

ออกมาจาก Kondalilla National park เราก็ไปกันต่อ

คืนที่4นี้เราจะไปพักกันที่ Bribie Island 
Bribie Island เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สร้างขึ้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของอ่าวมอร์ตันรีฐควีนส์แลนด์ มีความยาว34 กม และกว้างที่สุด 8 กม ซึ่งชื่อเกาะมาจากภาษาท้องถิ่นแปลว่าโคอาล่า 

รอบๆเกาะก็มีหาดต่างๆค่ะ ที่สำคัญต้องมีรถส่วนตัวที่จะขับวนรอบเกาะเราไม่แน่ใจว่ามีรถเมล์บนเกาะไหม แต่ถึงยังไงรถยนต์ก็สะดวกมากกว่าค่ะ อีกอย่างบนเกาะถึงจะเล็กๆ แต่ก็มีห้างร้านค้าร้านอาหาร สวกสบายทีเดียวค่ะ ที่คนน้อยเนื่องจากอากาศไม่ค่อยดีค่ะ ฝนพึ่งหยุดตกและเหมือนจะตกอีกระรอกหนึ่ง


วันที่ 5 ขับรถลงไป Gold coast
เนื่องจากอากาศแย่มาก ฝนตกตลอตั้งแต่กลางคืน เนื่องจากนอนกันในรถบ้านแน่นอนว่ายังไงมันก็ไม่สบายตัว. ถมได้ยินเสียงฝนตลอดทั้งคืนหนาวก็หนาว ณ จุดนั้น นั่งคิดกันว่าพากันมาลำบากอะไรที่นี่เนี่ย ทำให้เรากับเพื่อนรู้สึกหมดกำลังเที่ยวไปด้วย แต่ก็คิดว่าไหนๆก็มาแล้ว ก็ต้องไปต่อ เหลืออีกตั้งหลายวัน ก็เลยพากันไปต่อค่ะ 
มาถึง Gold Coast ก็พายุหนักมาก แต่อยากมีรูปของสถานที่ ก็เลยฝ่าฝนไปถ่ายวิวสักหน่อย รอบๆหาดก็จะมีแต่ตึกสูงๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ  
Gold Coast เป็นสวรรค์สำหรับนักเสริฟ surfer เนื่องจากมีคลื่นแรง และ ยังเป็นบ้านเกิดของนักเสริฟระดับโลกอย่าง Mic Fanning (เคยมีข่าวโดยฉลามโจมตีขณะแข่งขันเมื่อหลายปีก่อน) 

จากนั้นเราก็ไปกันต่อ กะว่าจะเข้าที่พักเลยพากันหาที่พักแบบ เจออันไหนเอาอันนั้นเลย ไม่ได้คิดว่าจะได้เที่ยวหรือเจออะไรที่ตื่นเต้นแล้ว อีกอย่างไม่รู้ฝนจะตกไปอีกกี่วัน ขอไปพักเอาแรงก่อน

คืนนี้พวกเราได้ที่พักชื่อว่า Mt Nimmel Lodge Campground ที่นี่ค่อนข้างอยู่ไกลจากทะเล

[เราลืมบอกไปอย่างหนึ่งค่ะ เที่ยวออสเตรเลีย ที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะติดกับทะเล ทุกรัฐในออสเตรเลียผู้คนจะอาศัยอยู่ใกล้ๆทะเล ส่วนในกลางๆประเทศเป็นทะเลทราย ถึงผู้คนจะอาศัยอยู่ไกลจากทะเล ก็ไม่ไกลมาก ขับรถไม่กี่ ชม ก็ถึงค่ะ ใครชอบทะเล ว่ายน้ำ กีฬาทางน้ำต่างแนะนำให้มาที่ออสเตรเลียไม่ผิดหวังค่ะ แถมน้ำอากาศยังใสสะอาดและปลอดภัยด้วยค่ะ]

พอเรามาถึงที่พักก็พากันไปอาบน้ำกินข้าว เขามีโซนให้นั่งเล่นเราก็เลยไปนั่งหลบฝน แต่สิ่งที่เราเจอ คือ!!!!!!!!!!
โคอาล่า

วอลาบี (หน้าตาเหมือนจิงโจ้แต่ตัวเล็กกว่า)

คุ๊กกาบารา Kookburra แล้วก็นกอีกหลายๆแบบ


คือขอบอกทุกคนเลยว่า การมาแคมป์ที่นี่ คุ้มมากๆ ซึ่งไม่ใช่ทุกที่ๆเราจะโชคดีเห็นสัตว์หลายๆชนิดพร้อมกันในที่เดียวแบบนี้ นอกจากสวนสัตว์ 
ถึงแม้วันนี้แทปจะไม่ได้เห็นอะไรเลย แต่ก็ยังคุ้มที่ได้มาเห็นน้องๆที่นี่ หายเหนื่อยไปเปราะนึ่ง แฮ่กๆ

วันที่ 6-10 ไป Byron Bay
เนื่องจากว่าเราตั้งใจจะไปเรียน เสริฟ เลยว่าจะหยุดอยู่สัก 4 วัน 4 วันหลังจากนี้ เราจะโชว์ทุกคนรอบ Byron bay นะคะ  ว่าเขามีดีอะไรตรงไหนทำไมถึงเป็นที่นิยม

Byron bayป็นเมืองริมชายหาด ค่อนข้างที่จะเป็นที่นิยมในการมาพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน  ผู้คนส่วนมากเป็นวัยรุ่น (ในความเห็นเรานะคะ) เนื่องจากผู้คนค่อนข้าง ฮิปปี้ ไม่ว่าจะเป็น เสือผ้า เครื่องประดับ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย วันรุ่นจะชอบมากๆ ยิ่งใครชอบปาร์ตี้ ต้องมาเลยคะ สนุกสุดๆ  แต่ค่าครองชีพค่อนข้างสูงทีเดียวเชียว เนื่องจากบ้านที่เราอยู่ที่ ซิดนีย์ เราอาศัยอยู่โซนแมนลี่ ซึ่งชาวออสเตรเลียเขาบอกว่า แมนลี่คือสถานที่ๆค่าครองชีพแพงที่สุดในออสเตรเลีย แต่ขอบอกเลยว่า ไยรอนเบแพงกว่า 2-3% หรือมากกว่าค่ะ(ใครอยากให้รีวิวแมนลี่บอกน้า เดียวมาตั้งกระทู้อีกที)

 รูปคราวๆ ของหาดรอบๆไบรอนเบนะคะ หลังพายุเข้า มีหลายๆหาดปิดไปเพราะเสียหายเยอะเหมือนกันแต่ยังโชคดีที่ยังมีบางหาดให้เรามาเดินเล่นได้ค่ะ
[img]https://f.ptcdn.info/357/072/000/qnfy1ai2ab
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่