เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้ยินข่าว หุ้นดังตัวหนึ่งที่มีมติกกรมการในเรื่อง
การแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ซึ่งรอเข้าที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเร็วๆ นี้
มีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วแตกพาร์คืออะไร ยังไง
ราคาพาร์ (Par value)
คือ ราคาที่เราไปจดทะเบียนตั้งบริษัท โดยแจ้งว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ แล้วจะมีกี่หุ้น
ราคาพาร์ = ทุนจดทะเบียน / จำนวนหุ้น
ลองดูตัวอย่าง บริษัทชูใจจำกัด
เข้าจดทะเบียนด้วยทุนจดทะเบียน 100,000 บาท
มีจำนวนหุ้น 10,000 หุ้น
ราคาพาร์ 10 บาท
(100,000/10,000)
ถ้าเราจะซื้อหุ้นแต่ละครั้งขั้นต่ำ 100 หุ้น ก็ใช้เงิน 1,000 บาท
ต่อมาบริษัทของชูใจมีรายได้ เอาไปขยายบริษัท
อีก 10 ปีต่อมา ราคาหุ้นของบริษัทชูใจ
ก็กลายเป็นหุ้นละ 400 บาท
(ถ้าเราจะซื้อ 100 หุ้น ใช้เงิน 40,000 บาท)
เพื่อให้คนซื้อขายง่ายขึ้น ชูใจเลยแตกพาร์ คือ
เพิ่มจำนวนหุ้นจากเดิมมีแค่ 10,000 หุ้น ก็เป็น 100,000 หุ้น
(เพิ่ม 10 เท่า) สักเลย
ราคาพาร์ก็จะเหลือ 1 บาท
เพราะทุนจดทะเบียนเดิม 100,000 บาท
หาร 100,000 หุ้น (เพิ่มจากเดิม 10 เท่า)
ทำให้ราคาหุ้นเดิม 400 บาท ก็เหลือ 40 บาท (หารด้วย 10 เหมือนกัน)
ก็จะซื้อขายคล่องขึ้นกว่าหุ้นละ 400 บาท
การแตกพาร์ เพื่อเป็นการทำให้ซื้อขายหุ้นให้คล่องขึ้นแค่นั้นเอง!!
ไม่ได้ทำให้ราคาของทั้งกิจการเปลี่ยนไปเลย
แบบนี้
เวลาเราซื้อขายหุ้นจึงควรมองทั้งกิจการ ไม่ควรมองแค่ที่ราคาหุ้นแต่ละตัว
เพราะไม่อย่างนั้นจะคิดว่า หุ้นละร้อยกว่าบาทลงมาเป็นหลักสิบ
จะนึกว่ามันถูกลง ทั้งๆที่มันเป็นแค่ก็แตกพาร์
ถ้าเรามีหุ้นอยู่เดิม มูลค่าหุ้นของเราจะเท่าเดิม เพราะถึงราคาต่อหุ้นของเราจะลดลง
แต่เราจะได้หุ้นมาเพิ่ม แบบนี้
หุ้นของบริษัทชูใจก่อนแตกพาร์ หุ้นละ 400 บาท จำนวนหุ้นทั้งหมด 10,000 หุ้น (ตัวอย่างเดิมนะ)
หลังแตกพาร์ เหลือหุ้นละ 40 บาท หุ้นทั้งหมดกลายเป็น 100,000 หุ้น
ถ้าเรามีหุ้นนี้ 100 หุ้น หุ้นละ 400 บาทก่อนแตกพาร์ มูลค่าหุ้นทั้งหมด คือ 40,000 บาท
พอแตกพาร์เหลือหุ้นละ 40 บาท แต่เราจะได้หุ้นมาเพิ่มอีก 10 เท่าคือมีหุ้นเป็น 1,000 หุ้น
ดังนั้นรวมมูลค่าหุ้นทั้งหมดเราเท่าเดิมคือ 40,000 บาท
ดังนั้นมูลค่าหุ้นในมือเราไม่ได้เปลี่ยนไปเลยเช่นกัน
ไม่ได้มีผลกับมูลค่ากิจการ ไม่มีผลกับมูลค่าหุ้นที่เราถืออยู่เลย
แล้วการแตกพาร์มันส่งผลยังไงกับหุ้นตัวนี้บ้าง?
มันส่งผลต่อค่านี้
กำไรสุทธิต่อหุ้น
EPS = กำไรสุทธิ/ จำนวนหุ้น
จะเห็นว่าพอแตกพาร์จะทำให้ตัวหารหรือจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น จึงทำให้ EPS ลดลง แบบนี้
กำไรสุทธิไม่ได้ลดลง แต่เนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มจึงทำให้ EPS ลดลง
ดังนั้นเวลาดู EPS ถ้าเห็นว่าลดลง ควรลองดูกำไรสุทธิด้วยว่าเป็นอย่างไร
เพราะกำไรของบริษัทอาจไม่ได้แย่ลง แต่เป็นเพราะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
การแตกพาร์ไม่ได้ทำให้หุ้นถูกลงจริงๆ แค่ทำให้ดูเหมือนถูกลง และไม่ได้ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นที่เราถืออยู่ในมือ
เพียงแค่ทำให้ EPS ลดลง
FBpage: หมอยุ่องอยากมีเวลา
www.facebook.com/DoctorWantTime
เมื่อหุ้นดังจะแตกพาร์
การแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ซึ่งรอเข้าที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเร็วๆ นี้
มีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วแตกพาร์คืออะไร ยังไง
ราคาพาร์ (Par value)
คือ ราคาที่เราไปจดทะเบียนตั้งบริษัท โดยแจ้งว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ แล้วจะมีกี่หุ้น
ราคาพาร์ = ทุนจดทะเบียน / จำนวนหุ้น
ลองดูตัวอย่าง บริษัทชูใจจำกัด
เข้าจดทะเบียนด้วยทุนจดทะเบียน 100,000 บาท
มีจำนวนหุ้น 10,000 หุ้น
ราคาพาร์ 10 บาท
(100,000/10,000)
ถ้าเราจะซื้อหุ้นแต่ละครั้งขั้นต่ำ 100 หุ้น ก็ใช้เงิน 1,000 บาท
ต่อมาบริษัทของชูใจมีรายได้ เอาไปขยายบริษัท
อีก 10 ปีต่อมา ราคาหุ้นของบริษัทชูใจ
ก็กลายเป็นหุ้นละ 400 บาท
(ถ้าเราจะซื้อ 100 หุ้น ใช้เงิน 40,000 บาท)
เพื่อให้คนซื้อขายง่ายขึ้น ชูใจเลยแตกพาร์ คือ
เพิ่มจำนวนหุ้นจากเดิมมีแค่ 10,000 หุ้น ก็เป็น 100,000 หุ้น
(เพิ่ม 10 เท่า) สักเลย
ราคาพาร์ก็จะเหลือ 1 บาท
เพราะทุนจดทะเบียนเดิม 100,000 บาท
หาร 100,000 หุ้น (เพิ่มจากเดิม 10 เท่า)
ทำให้ราคาหุ้นเดิม 400 บาท ก็เหลือ 40 บาท (หารด้วย 10 เหมือนกัน)
ก็จะซื้อขายคล่องขึ้นกว่าหุ้นละ 400 บาท
การแตกพาร์ เพื่อเป็นการทำให้ซื้อขายหุ้นให้คล่องขึ้นแค่นั้นเอง!!
ไม่ได้ทำให้ราคาของทั้งกิจการเปลี่ยนไปเลย
แบบนี้
เวลาเราซื้อขายหุ้นจึงควรมองทั้งกิจการ ไม่ควรมองแค่ที่ราคาหุ้นแต่ละตัว
เพราะไม่อย่างนั้นจะคิดว่า หุ้นละร้อยกว่าบาทลงมาเป็นหลักสิบ
จะนึกว่ามันถูกลง ทั้งๆที่มันเป็นแค่ก็แตกพาร์
ถ้าเรามีหุ้นอยู่เดิม มูลค่าหุ้นของเราจะเท่าเดิม เพราะถึงราคาต่อหุ้นของเราจะลดลง
แต่เราจะได้หุ้นมาเพิ่ม แบบนี้
หุ้นของบริษัทชูใจก่อนแตกพาร์ หุ้นละ 400 บาท จำนวนหุ้นทั้งหมด 10,000 หุ้น (ตัวอย่างเดิมนะ)
หลังแตกพาร์ เหลือหุ้นละ 40 บาท หุ้นทั้งหมดกลายเป็น 100,000 หุ้น
ถ้าเรามีหุ้นนี้ 100 หุ้น หุ้นละ 400 บาทก่อนแตกพาร์ มูลค่าหุ้นทั้งหมด คือ 40,000 บาท
พอแตกพาร์เหลือหุ้นละ 40 บาท แต่เราจะได้หุ้นมาเพิ่มอีก 10 เท่าคือมีหุ้นเป็น 1,000 หุ้น
ดังนั้นรวมมูลค่าหุ้นทั้งหมดเราเท่าเดิมคือ 40,000 บาท
ดังนั้นมูลค่าหุ้นในมือเราไม่ได้เปลี่ยนไปเลยเช่นกัน
ไม่ได้มีผลกับมูลค่ากิจการ ไม่มีผลกับมูลค่าหุ้นที่เราถืออยู่เลย
แล้วการแตกพาร์มันส่งผลยังไงกับหุ้นตัวนี้บ้าง?
มันส่งผลต่อค่านี้
กำไรสุทธิต่อหุ้น
EPS = กำไรสุทธิ/ จำนวนหุ้น
จะเห็นว่าพอแตกพาร์จะทำให้ตัวหารหรือจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น จึงทำให้ EPS ลดลง แบบนี้
กำไรสุทธิไม่ได้ลดลง แต่เนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มจึงทำให้ EPS ลดลง
ดังนั้นเวลาดู EPS ถ้าเห็นว่าลดลง ควรลองดูกำไรสุทธิด้วยว่าเป็นอย่างไร
เพราะกำไรของบริษัทอาจไม่ได้แย่ลง แต่เป็นเพราะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
การแตกพาร์ไม่ได้ทำให้หุ้นถูกลงจริงๆ แค่ทำให้ดูเหมือนถูกลง และไม่ได้ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นที่เราถืออยู่ในมือ
เพียงแค่ทำให้ EPS ลดลง
FBpage: หมอยุ่องอยากมีเวลา
www.facebook.com/DoctorWantTime