OR ปี 67 “คาเฟ่อเมซอน” โต 400 ล้านแก้ว ลุยต่อปีนี้รักษาตำแหน่ง “ผู้นำค้าน้ำมันไทย”
OR เปิดผลงานปี 2567 กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ยังแกร่ง รายได้เพิ่มขึ้น 8.2% โชว์”คาเฟ่อเมซอน“ ยอดขายโตกว่า 400 ล้านแก้ว ด้านปีนี้ทุ่มงบ 1.8 หมื่นล้าน รุกธุรกิจ Mobility สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าน้ำมันในไทยและดึง Market share กลับมา
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 45,783 ล้านบาท หรือลดลง 5.9% จากปี 2566
โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงและราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยรายได้ขายลดลง 7.4% สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น 8.2% ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม
โดยในปี 2567 Café Amazon มียอดขายรวมกว่า 400 ล้านแก้ว ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก และมี EBITDA จำนวน 17,666 ล้านบาท อ่อนตัวจากกลุ่มธุรกิจ Mobility แต่ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังแข็งแกร่งโดยปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มธุรกิจ Global ก็ปรับเพิ่มขึ้นโดยหลักจากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์
ภาพรวมค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิปกติยังปรับลดลง 11.7% โดยหลักจากค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายพิเศษ
เนื่องจากใช้กลยุทธ์การทบทวน Portfolio ยุติธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ทำกำไรและมีโอกาสเติบโตในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของ OR ในระยะยาว สำหรับกำไรสุทธิ มีจำนวน 7,650 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 3,444 ล้านบาท หรือลดลง 31.0%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ปรับดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้ขายและบริการ 185,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,773 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้า
โดยเพิ่มขึ้นจากทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มี EBITDA จำนวน 4,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,124 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4,608 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100%
สำหรับปี 2568 คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยหลักจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุน โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใกล้เคียงระดับปกติ โดยมุ่งเน้นการใช้ Digitalization & Innovation เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าน้ำมันในประเทศไทยและดึง Market share กลับมา มุ่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคและเป็นพาร์ทเนอร์ในการเดินทางสำหรับทุกคน (Mobility Partner) ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมในการขยายจากธุรกิจน้ำมันสู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (New Energy-Based) เพื่อรองรับแนวโน้มพลังงานสะอาดในอนาคต
เช่น การสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) รวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จะยังคงรักษาความแข็งแกร่งของ Café Amazon ตลอด Value Chain รวมทั้งหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) และธุรกิจไลฟ์สไตล์อื่น ๆ เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นแม่เหล็ก (Magnet) ในการดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจหลักของ OR
รวมถึงการศึกษาธุรกิจด้าน Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกรูปแบบและยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ยังคงสานต่อนโยบายในการขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชาในฐานะที่เป็น Second Home Base เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงมี Demand สำหรับสินค้าและบริการของ OR รวมถึงแสวงหาโอกาสการเติบโตไปยังประเทศใหม่
โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุนต่อยอดในธุรกิจปัจจุบันมุ่งหวังสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต โดยในปี 2568 จะใช้งบลงทุนรวม 18,886.9 ล้านบาท
แบ่งเป็นลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mobility จำนวน 7,656.7 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จำนวน 7,280.4 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Global จำนวน 2,771.8 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business อีกจำนวน 1,178.0 ล้านบาท หม่อมหลวงปีกทอง กล่าวเสริม
https://www.prachachat.net/economy/news-1753183#google_vignette
OR ปี 67 “คาเฟ่อเมซอน” โต 400 ล้านแก้ว ลุยต่อปีนี้รักษาตำแหน่ง “ผู้นำค้าน้ำมันไทย”
OR เปิดผลงานปี 2567 กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ยังแกร่ง รายได้เพิ่มขึ้น 8.2% โชว์”คาเฟ่อเมซอน“ ยอดขายโตกว่า 400 ล้านแก้ว ด้านปีนี้ทุ่มงบ 1.8 หมื่นล้าน รุกธุรกิจ Mobility สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าน้ำมันในไทยและดึง Market share กลับมา
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 45,783 ล้านบาท หรือลดลง 5.9% จากปี 2566
โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงและราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยรายได้ขายลดลง 7.4% สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น 8.2% ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม
โดยในปี 2567 Café Amazon มียอดขายรวมกว่า 400 ล้านแก้ว ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก และมี EBITDA จำนวน 17,666 ล้านบาท อ่อนตัวจากกลุ่มธุรกิจ Mobility แต่ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังแข็งแกร่งโดยปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มธุรกิจ Global ก็ปรับเพิ่มขึ้นโดยหลักจากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์
ภาพรวมค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิปกติยังปรับลดลง 11.7% โดยหลักจากค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายพิเศษ
เนื่องจากใช้กลยุทธ์การทบทวน Portfolio ยุติธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ทำกำไรและมีโอกาสเติบโตในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของ OR ในระยะยาว สำหรับกำไรสุทธิ มีจำนวน 7,650 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 3,444 ล้านบาท หรือลดลง 31.0%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ปรับดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้ขายและบริการ 185,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,773 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้า
โดยเพิ่มขึ้นจากทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มี EBITDA จำนวน 4,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,124 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4,608 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100%
สำหรับปี 2568 คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยหลักจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุน โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใกล้เคียงระดับปกติ โดยมุ่งเน้นการใช้ Digitalization & Innovation เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าน้ำมันในประเทศไทยและดึง Market share กลับมา มุ่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคและเป็นพาร์ทเนอร์ในการเดินทางสำหรับทุกคน (Mobility Partner) ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมในการขยายจากธุรกิจน้ำมันสู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (New Energy-Based) เพื่อรองรับแนวโน้มพลังงานสะอาดในอนาคต
เช่น การสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) รวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จะยังคงรักษาความแข็งแกร่งของ Café Amazon ตลอด Value Chain รวมทั้งหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) และธุรกิจไลฟ์สไตล์อื่น ๆ เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นแม่เหล็ก (Magnet) ในการดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจหลักของ OR
รวมถึงการศึกษาธุรกิจด้าน Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกรูปแบบและยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ยังคงสานต่อนโยบายในการขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชาในฐานะที่เป็น Second Home Base เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงมี Demand สำหรับสินค้าและบริการของ OR รวมถึงแสวงหาโอกาสการเติบโตไปยังประเทศใหม่
โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุนต่อยอดในธุรกิจปัจจุบันมุ่งหวังสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต โดยในปี 2568 จะใช้งบลงทุนรวม 18,886.9 ล้านบาท
แบ่งเป็นลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mobility จำนวน 7,656.7 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จำนวน 7,280.4 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Global จำนวน 2,771.8 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business อีกจำนวน 1,178.0 ล้านบาท หม่อมหลวงปีกทอง กล่าวเสริม
https://www.prachachat.net/economy/news-1753183#google_vignette