มโนศาสตร์เกี่ยวกับการแตกพาร์ ราคาพาร์สำหรับหุ้นบางตัวก็ทำให้เราถือหุ้นดักทาง...ตั้งแค้มป์นอนรอการแตกพาร์ได้
พาร์บริษัท ปกติก็นิยมที่ 1 บาท ลองไปดูข้อมูลใน .set. ได้ส่วนใหญ่จะมีราคาพาร์ 1 บาท
แต่ บางบริษัท มีราคาพาร์ 2 บาท 5 บาท 10 บาท
หรือ มีราคาพาร์ไม่เต็มบาท เช่น 0.50 บาท 0.10 บาท อันนั้ราคาพาร์ต่ำบาทผมจะไม่ค่อยสนใจ เป็นหุ้นแตกพาร์จนเปื่อย
แล้วเราจะเลือกตัวไหนดี พี่แจ้มีแนวทางเลือกดังนี้
>>>>การแตกพาร์ก็เหมือนแตกเงิน มูลค่าเท่าเดิมแต่จำนวนเหรียญมากขึ้น
เพลงมา....
>>>>แต่สำหรับหุ้น.....การแตกพาร์เพิ่มจำนวนหุ้น มูลค่าอาจเพิ่มหรือลดก็ได้
แต่ถ้าหุ้นดีงามตามท้องเรื่อง...มูลค่าหุ้นก็จะเพิ่มในภายหลัง
หลักการส่องหาหุ้นที่จะแตกพาร์ แล้ว วิบวับ ตามหลักมโนศาสตร์
1.ต้องเป็นบริษัทที่มีราคาพาร์ มากกว่า 1 บาทขึ้นไป เช่น ราคาพาร์ 2 / 5/10 บาท
ถ้าไม่เต็มบาทจะไม่เลือกเลยเพราะแตกพาร์เป็นเหรียญสลึงมันสุดซอยแล้วที่จะได้ประโยชน์จากการแตกพาร์ท
ถ้าบริษัทไหน พาร์ไม่เต็มบาท ส่วนใหญ่จะช้ำจากการเก็งกำไร ราคาไม่ไปไหน
2.ต้องเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่โตจากโครงการใหม่ๆ บริษัทเล็กๆการแตกพาร์ก็เพื่อวิศวกรรมการหาเงินจากเม่าอย่างเราเท่านั้น
3. % free float ไม่เกิน 20-30 % เพราะแตกพาร์ทแล้วจะมีรายย่อยขายถล่มราคาลงมาน้อย ราคาจะไม่เหวี่ยงมาก
และจำนวนหุ้นไม่มาก 2-3 พันล้านหุ้น พอแตกออกมาจะได้หุ้น 4 พันล้านหุ้น - 2 หมื่นล้านหุ้น แล้วแต่ขนาดบริษัท
ราคาต่อหุ้นต่ำลง จำนวนหุ้นมากขึ้น ทำให้ซื้อง่าย ขายคล่อง มองดูราคาว่าต่อหุ้นไม่สูงเท่าก่อนแตก เจ้ามือดันราคาง่ายกว่าเดิม
4. มีรายชื่อกองทุน หรือ สถาบัน อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ แน่นอนเขาแสวงหากำไรจากการแตกพานและเขาทำเป็นครับ
5.งบการเงินกำไรค่อยๆเพิ่มทุกไตรมาส ไม่สะดุด ถ้างบสะดุดขาดทุนยากที่จะดันราคาหุ้นเพื่อแตกพาร์ท
6.มีโครงการใหม่ๆในแผนงานอนาตคที่ชัดเจน เช่น หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีแผนเพิ่มกำลังผลิต รับซื้อแน่นอน ในอนาคต
7.ก่อนแตกพาร์ประมาณ ครึ่งปี ราคาจะค่อยดีดเด้งไม่สนตลาดว่าจะขึ้นหรือลงราคาจะไต่ขึ้นไปหาเป้าหมายก่อนแตกพาร์
8.เราต้องมโนใจเจ้าของบริษัทว่าเขาหวังราคาหุ้นหลังแตกพาร์ไว้กีบาท
เช่นหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท เขาหวังราคาแตกพาร์ทไว้เริ่มที่ 30 บาท/หุ้น
ราคาก่อนแตกพาร์ท 250 บาท เขาต้องดันไปที่ราคาใกล้ 300 บาท
พอแตกพาร์ 300/10 = 30 บาท ราคาจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นสภาพตลาด
9.ทุกอย่างจะล่มสลายหมดถ้าหุ้นจะดันแตกพาร์ เกิด กำไรลด ขาดทุน
สต็อกสินค้าหาย เศรษฐกิจขาลง เจ้าของเปลี่ยนใจไม่แตกพาร์
แต่หุ้นเจ้า หุ้นเม่านิยม หุ้นขาดทุนซ้ำซาก เกิดประกาศแตกพาร์ให้
สันนิฐานว่าเขากำลังทำวิศกรรมทางการเงินดึงเงินจากเม่า สมัยพี่แจ้
เข้าตลาดใหม่ๆนิยมทำกันมาก แตกพาร์ แจกวอร์ เพิ่มทุน
10.การแตกพาร์ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน จนกว่าเจ้าของจะแจ้งต่อตลาด
ดังนั้นอาจรอนานเป็น 10 ปี หรือบางตัวภายใน 2-3 ปี หลังจาก IPO
อันนี้มโนล้วนๆ แต่สังเกตจากราคาวิ่งแบบไม่อ่านกลุ่มไลด์
กำไรดี และใกล้ๆจะลงมือจะมีบทวิเคราะห์ออกมา
อันนี้เอาหุ้น โรงฟ้า Gulf มาให้ดู เริ่ม IPO วันที่ 6 ธค 2560 ที่พาร์ 5 บาท
แตกพาร์ มาที่ 1 บาท วันที่ 16 เมย 2563 ใช้เวลา 2 ปี กว่าในการแตกพาร์
ก่อนแตกพาร์ก็ดันสุดซอย ดันแล้วถอย ถอยแล้วดัน ผมเดาว่าจะดันไป 200 บาท ก่อนแตกพาร์
แต่ดัชนีไหลลงก็ไปไม่ถึงเป้า 200 บาท แต่หลังแตกพาร์เขาก็เด้งมาสูงสุดได้ 39.75 * 5 = 198.75 บาท/หุ้นก่อนแตกพาร์
ถ้าหุ้นหลังแตกพาร์ ไป 50 บาท จะได้มูลค่า 50 * 5= 250 บาท/หุ้นก่อนแตกพาร์
ถ้าดันไป 75 บาท หรือ 100 บาท ลองคำนวนดูว่าเจ้าของจะ วิบ วับ ขนาดไหน มันก็ขึ้นอยู่กับกำไรและโครงการใหม่ๆ
ขนาดผมซื้อ ที่ 68.85 บาท/หุ้น จำนวน 10,000 หุ้น ยังได้กินเหลาเลย พวกที่มีหุ้นเยอะๆจะวิบวับขนาดไหน
>>>ลายแทงตอนนี้ก็มีหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีพาร์เกิน 1 บาท ก็มี Gxxx และ Bxxx เข้าข่ายแต่ไม่รู้เวลาไหนน่ะนะ
ลองดูว่ามันเข้าหลักที่มโนศาสตร์ 10 ข้อหรือไม่หรืออาจจะไม่แตกก็ได้ 555
สรุป การแตกพาร์ก็เป็นจุดเปลี่ยนของพอร์ท
ถ้าเป็นหุ้นใหญ่ กำไรดี แตกพาร์ ผู้ถือหุ้น ก็
วิบวับ
ถ้าเป็นหุ้นเน่า ราคาพาร์ไม่เต็มบาท ผู้ถือหุ้นก็
วอดวาย
สบายดี....
#### ที่สุดของชาวสวน #### วิบวับ วิบวับ จากการแตกพาร์
พาร์บริษัท ปกติก็นิยมที่ 1 บาท ลองไปดูข้อมูลใน .set. ได้ส่วนใหญ่จะมีราคาพาร์ 1 บาท
แต่ บางบริษัท มีราคาพาร์ 2 บาท 5 บาท 10 บาท
หรือ มีราคาพาร์ไม่เต็มบาท เช่น 0.50 บาท 0.10 บาท อันนั้ราคาพาร์ต่ำบาทผมจะไม่ค่อยสนใจ เป็นหุ้นแตกพาร์จนเปื่อย
แล้วเราจะเลือกตัวไหนดี พี่แจ้มีแนวทางเลือกดังนี้
>>>>การแตกพาร์ก็เหมือนแตกเงิน มูลค่าเท่าเดิมแต่จำนวนเหรียญมากขึ้น
เพลงมา....
>>>>แต่สำหรับหุ้น.....การแตกพาร์เพิ่มจำนวนหุ้น มูลค่าอาจเพิ่มหรือลดก็ได้
แต่ถ้าหุ้นดีงามตามท้องเรื่อง...มูลค่าหุ้นก็จะเพิ่มในภายหลัง
หลักการส่องหาหุ้นที่จะแตกพาร์ แล้ว วิบวับ ตามหลักมโนศาสตร์
1.ต้องเป็นบริษัทที่มีราคาพาร์ มากกว่า 1 บาทขึ้นไป เช่น ราคาพาร์ 2 / 5/10 บาท
ถ้าไม่เต็มบาทจะไม่เลือกเลยเพราะแตกพาร์เป็นเหรียญสลึงมันสุดซอยแล้วที่จะได้ประโยชน์จากการแตกพาร์ท
ถ้าบริษัทไหน พาร์ไม่เต็มบาท ส่วนใหญ่จะช้ำจากการเก็งกำไร ราคาไม่ไปไหน
2.ต้องเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่โตจากโครงการใหม่ๆ บริษัทเล็กๆการแตกพาร์ก็เพื่อวิศวกรรมการหาเงินจากเม่าอย่างเราเท่านั้น
3. % free float ไม่เกิน 20-30 % เพราะแตกพาร์ทแล้วจะมีรายย่อยขายถล่มราคาลงมาน้อย ราคาจะไม่เหวี่ยงมาก
และจำนวนหุ้นไม่มาก 2-3 พันล้านหุ้น พอแตกออกมาจะได้หุ้น 4 พันล้านหุ้น - 2 หมื่นล้านหุ้น แล้วแต่ขนาดบริษัท
ราคาต่อหุ้นต่ำลง จำนวนหุ้นมากขึ้น ทำให้ซื้อง่าย ขายคล่อง มองดูราคาว่าต่อหุ้นไม่สูงเท่าก่อนแตก เจ้ามือดันราคาง่ายกว่าเดิม
4. มีรายชื่อกองทุน หรือ สถาบัน อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ แน่นอนเขาแสวงหากำไรจากการแตกพานและเขาทำเป็นครับ
5.งบการเงินกำไรค่อยๆเพิ่มทุกไตรมาส ไม่สะดุด ถ้างบสะดุดขาดทุนยากที่จะดันราคาหุ้นเพื่อแตกพาร์ท
6.มีโครงการใหม่ๆในแผนงานอนาตคที่ชัดเจน เช่น หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีแผนเพิ่มกำลังผลิต รับซื้อแน่นอน ในอนาคต
7.ก่อนแตกพาร์ประมาณ ครึ่งปี ราคาจะค่อยดีดเด้งไม่สนตลาดว่าจะขึ้นหรือลงราคาจะไต่ขึ้นไปหาเป้าหมายก่อนแตกพาร์
8.เราต้องมโนใจเจ้าของบริษัทว่าเขาหวังราคาหุ้นหลังแตกพาร์ไว้กีบาท
เช่นหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท เขาหวังราคาแตกพาร์ทไว้เริ่มที่ 30 บาท/หุ้น
ราคาก่อนแตกพาร์ท 250 บาท เขาต้องดันไปที่ราคาใกล้ 300 บาท
พอแตกพาร์ 300/10 = 30 บาท ราคาจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นสภาพตลาด
9.ทุกอย่างจะล่มสลายหมดถ้าหุ้นจะดันแตกพาร์ เกิด กำไรลด ขาดทุน
สต็อกสินค้าหาย เศรษฐกิจขาลง เจ้าของเปลี่ยนใจไม่แตกพาร์
แต่หุ้นเจ้า หุ้นเม่านิยม หุ้นขาดทุนซ้ำซาก เกิดประกาศแตกพาร์ให้
สันนิฐานว่าเขากำลังทำวิศกรรมทางการเงินดึงเงินจากเม่า สมัยพี่แจ้
เข้าตลาดใหม่ๆนิยมทำกันมาก แตกพาร์ แจกวอร์ เพิ่มทุน
10.การแตกพาร์ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน จนกว่าเจ้าของจะแจ้งต่อตลาด
ดังนั้นอาจรอนานเป็น 10 ปี หรือบางตัวภายใน 2-3 ปี หลังจาก IPO
อันนี้มโนล้วนๆ แต่สังเกตจากราคาวิ่งแบบไม่อ่านกลุ่มไลด์
กำไรดี และใกล้ๆจะลงมือจะมีบทวิเคราะห์ออกมา
อันนี้เอาหุ้น โรงฟ้า Gulf มาให้ดู เริ่ม IPO วันที่ 6 ธค 2560 ที่พาร์ 5 บาท
แตกพาร์ มาที่ 1 บาท วันที่ 16 เมย 2563 ใช้เวลา 2 ปี กว่าในการแตกพาร์
ก่อนแตกพาร์ก็ดันสุดซอย ดันแล้วถอย ถอยแล้วดัน ผมเดาว่าจะดันไป 200 บาท ก่อนแตกพาร์
แต่ดัชนีไหลลงก็ไปไม่ถึงเป้า 200 บาท แต่หลังแตกพาร์เขาก็เด้งมาสูงสุดได้ 39.75 * 5 = 198.75 บาท/หุ้นก่อนแตกพาร์
ถ้าหุ้นหลังแตกพาร์ ไป 50 บาท จะได้มูลค่า 50 * 5= 250 บาท/หุ้นก่อนแตกพาร์
ถ้าดันไป 75 บาท หรือ 100 บาท ลองคำนวนดูว่าเจ้าของจะ วิบ วับ ขนาดไหน มันก็ขึ้นอยู่กับกำไรและโครงการใหม่ๆ
ขนาดผมซื้อ ที่ 68.85 บาท/หุ้น จำนวน 10,000 หุ้น ยังได้กินเหลาเลย พวกที่มีหุ้นเยอะๆจะวิบวับขนาดไหน
>>>ลายแทงตอนนี้ก็มีหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีพาร์เกิน 1 บาท ก็มี Gxxx และ Bxxx เข้าข่ายแต่ไม่รู้เวลาไหนน่ะนะ
ลองดูว่ามันเข้าหลักที่มโนศาสตร์ 10 ข้อหรือไม่หรืออาจจะไม่แตกก็ได้ 555
สรุป การแตกพาร์ก็เป็นจุดเปลี่ยนของพอร์ท
ถ้าเป็นหุ้นใหญ่ กำไรดี แตกพาร์ ผู้ถือหุ้น ก็ วิบวับ
ถ้าเป็นหุ้นเน่า ราคาพาร์ไม่เต็มบาท ผู้ถือหุ้นก็ วอดวาย
สบายดี....