ช่วงนี้ กระแส ลดน้ำหนักมาเยอะ มาก ถึงมากที่สุด มีทั้งที่กินแล้ว ตายบ้าง ใจเต้นสั่นบ้าง คอแห้งบ้าง
คนเราสมัยนี้ก็แปลกนะครับ ยอมทุกอย่าง เสียเงินเท่าไหรได้หมด ขออย่างเดียว ไม่อยากออกกำลังกายยยย --- หลายๆคนมาปรึกษา มักจะมีเงือนไขต่างๆนาๆในการเบี่ยงเบนความขี้เกียจของตัวเอง บอกไม่มีเวลา แต่มีเวลา อัพเฟส ของกิน ซะงั้น มาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับ
อาหารเสริมคือไม่ใช้ ยา เป็นสิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อน ก่อนจะไปเรื่องอาหารเสริม มารู้ก่อน ว่า ยา ที่ใช้ ลดน้ำหนัก ใน Clinic หรือ ที่เค้าแอบเอามาขายกันมันคืออะไร ยาตัวหลักเลยนะครับ ( ส่วนใหญ่มักจะเป็น ยาสูตร ผสม ใส่มา เป็นชุด ๆๆ มักจะมีพวกนี้ผสมกันทั้งนั้น )
1. Sibutramine - ตัวนี้เม้งโครต Hit เลย ขนาดไปเอาแอบใส่อาหารเสริมได้ สุดยอดมากเลย ตัวนี้ กลไกจะเข้าไปยับยั้งการเก็บกลับ ของสารสื่อประสาทซีโรโทนิน และ นอร์อีพิเนฟริน ส่งผลให้ความอยากอาหารลดลงและอิ่มเร็วขึ้น ตัวนี้สังเกตุไม่ยากครับ เวลากินเข้าไปจะมี ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ในหลายๆ Clinic เล่เหลี่ยมกว่านั้น เลยให้ คนไข้ กิน ยา กลุ่ม beta blocker เข้าไปเพื่อลด อาการ ใจแล้ว แล้วก็บอก คนไข้ตัวเองว่า เฮ้ย ยา clinic Kuดีนะ กินละไม่ใจสั้น แต่เม้งจะ ตาย คนไข้ เอานะครับ ต้องระวังให้มากกกก เจอประจำ มีการใส่ 2 ตัวนี้ไปในอาหารเสริมเพื่อลดอาการดังกล่าวทำให้ จับได้ยากขึ้น แต่ระวังจะ น๊อค เอานะครับ
คนที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจห้ามกินนะครับ เพราะจะทำให้หัวใจวายได้ครับ ***
2. thyroxine - ที่ให้ตัวนี้ไป เนืองจาก เอ้า กิน Sibutramine มาแล้ว ไม่อยากอาหารแล้ว มาเร่งการเผาพลาญกันเถอะพวกเรา ยาตัวนี้จะไปเพิ่ม metabolic rate ในร่างกาย กินไปสิ ยา thyroid เผาเม้งให้พังไปเลย ร่างกาย น้ำหนักที่ลงก็ลงจาก น้ำหนักตัวที่ปราศจากไขมัน(lean muscle mass ) ไม่ใช้ไขมันนะครับที่หายไป ( มันทำให้เกิด Negative nitrogen balance ) ตัวนี้ต้องห้ามกินคู่กับ phentermine นะครับเพราะผลข้างเคียงจะยิ่งหนัก จะตายเอาให้ ยิ่งต้องระวัง พวก เอามาแอบใส่อาหารเสริม ลดเร็วๆ 3-5 วัน ไรงี้
3. ยาขับปัสสาวะ หรือ ยาระบาย(แทบจะเจอทุกทีเลย แรงมากแรงน้อยแล้วแต่ความ ซาดิส ของคนคิดจะใส่มาในสูตร แค่คิดเม้งก็ผิดละ ) มีผลต่อการสูญเสียน้ำในร่างกายแล้วแต่ชนิด น้ำหนักจะลดลงเร็วในอาทิตย์แรกๆเลยครับ แต่เป็นน้ำที่หายไป ผลเสียก็ตามมามากมาย ทั้งภาวะ ขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ในร่างกาย สมดุลกรด เบส ร่างกายก็เสียไปด้วย ไม่ใช้ยาที่ควรเอามากินเล่นเลย
4. beta-blocker - ใส่มาเพื่อลดอาการข้างเคียงยา Sibutramine ในเรืองอาการใจสัน ( ผมไม่พูดถึงยา Clenbuterol ที่ใช้ในเพาะกาย ช่วง Cutting / Diet cycle นะครับ )
5. ยานอนหลับ - ตัวนี้ใส่มา คือ งี้ครับ -ยาเยอะ ใช่ไหม ฤทธ์แรงดีนัก ไม่ต้องกังวล กินยานอนหลับไปเลยละกัน แต่จริงๆ เค้าใส่มาเพื่อ เวลาให้ยาที่ใช้อนุพันธ์แอมเฟตามีน มันก็จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้นอนไม่หลับ เลยให้ตัวนี้ไปด้วย นะครับ
6. Orlistat ยาดักจับไขมันที่ขึ้นชื่อ กินที เข้ออกมาเป็นน้ำมันเลยทีเดียว ตัวนี้ เมืองไทยยังไม่มีการทดสอบ นะครับ หลายแบรนเลยจัดเลย
6 ตัวที่สรุปให้ข้างบน คือ มักจะจัดเป็นชุดๆๆ code ต่างๆของ แต่ละที ผมไม่ขอพูดนะครับ เดียวจะโดนฟ้องเอา
ไม่ใช้ยาที่ปลอดภัยเท่าไหรเลย พูดตรงๆครับ เจอ รพ / คลินิก ไหน หมอมีเมตตา ก็อาจจะ ให้ตามความจำเป็น แต่ส่วนใหญ่ที่ถามมา จัดเต็ม ไม่ลงกูก็จะเพิ่ม dose สิ กะเอาให้ตายกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เมืองนอกจะมีการใช้ CB1 blocker แต่เมืองไทย ไม่ให้ผ่านเนืองจาก ควบคุม การออกฤทธ์ไม่ได้
ผ่านไปละ เรืองยา รู้ไว้หน่อยนะครับ มาเข้า ฟิว ที่ผมจะมาพูดดีกว่า อาหารเสริม ลด น้ำหนัก โปรดจำไว้ก่อนว่า อาหารเสริมไม่ใช้ยา ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมี Clinical Trial ที่ดูดีแบบยา ผลก็ไปวัดเอาดาบหน้า ละกัน สมัยใหม่ๆนี้อาหารเสริมในกลุ่มลดน้ำหนัก มีสารเยอะมากมาย สารที่พอคาดหวังได้จริงๆ แทบจะได้ ขี้มด ครับ ย้ำว่าแค่ " พอคาดหวัง " นะครับ
ผมเชื่อว่า ขอให้เอา วิชาการ มาพูดแค่ไหน จะมีคนกลุ่มๆหนึ่งก็จะยังไม่เชื่อ ก็Guอยากจะกิน ใครจะทำไม แล้วถ้าจะกินจริงๆละจะกินอะไรละ ที่ปลอดภัย วันนี้ผมมาพูดประเด็นว่า สารอะไรที่พอจะช่วยไม่ช่วยบ้างดีกว่าครับ จะได้ เป็นแนวทาง สำหรับคนกลุ่มที่จะกินให้ได้ เพราะหลายคนที่เข้ามาปรึกษาคือก็จะกินอะ ห้ามไปก็เท่านั้น ไม่ฟัง แต่ส่วนตัวก็ไม่แนะนำให้กิน อยากให้ออกกำลังกายมากว่าครับ
เริ่มตัวแรกก่อนเพราะโดนถามมาเยอะ ว่า Chitosan ลดน้ำหนักดักจับไขมันได้ไหม -- สอบสั้นๆ คือได้น้อยมากหรือไม่ช่วยเลยจากการ รวบรวม งานวิจัย
เอาไปแดงไป ละกันครับ ทำไม ??
Chitosam เป็น polysaccharide ที่ได้จากพวกสัตว์ทะเล ครับ โดยเคลมว่าจะไปจับไขมันในอาหารในระดับทางเดินอาหารเรา แต่งานวิจัยหลายที่ก็บอกว่ามันไม่แตกต่างกับคนไม่กิน ส่วนยี่ห้อไหนที่บอกว่าเป็นอาหารเสริมแล้วใส Chitosan มาแล้วเข้เป็นมูกไขมันเลยทีเดียว อันนี้ต้องระวังว่าอาจจะแอบใส่ตัวอื่นมาด้วยนะครับ
แล้วที่เค้าอ้างงานวิจัยละว่าไหนว่า งานวิจัย บอกว่าช่วยได้ไงละ จขกท มั่วเปล่า 5555 คือเค้าคนหนึ่งรวบรวมงานวิจัย 13 ฉบับแล้วสรุปว่าจากที่รีวิวงานวิจัยมา เจ้าสารนี้มันจะช่วยลดน้ำหนักได้ 1.7 kg นะ ( และได้ผลระยะสั้นๆเท่านั้น ) แต่พอกลับไปดูงานวิจัยที่บอกว่าได้ คือ ห่วยแตก มากครับ คุณภาพงานวิจัยไม่ผ่านครับ เชื่อถือไม่ได้ ทำมาเพื่อขายของ แต่พอไปดูงานวิจัยที่คุณภาพดีๆๆ พบว่า มันไม่ช่วยในเรืองลดน้ำหนัก และ งานวิจัยทีรวบรวมดีๆ ก็สรุปไปทางเดียวกันว่าช่วยน้อยมากถึงไม่ช่วยเลย
ความปลอดภภัยของสารนี้ พบเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะมีอาการ มวนท้อง คลท้นไส้ ท้องผูก อาหารไม่ค่อยย่อยได้ครับ คนที่แพ้อาหารทะเลก็ไม่ควรกินนะครับ
สรุป Chitosan ไม่ช่วยดักจับไขมันหรือลดน้ำหนักนะครับ
มาพูดถึงตัวที่เราคาดหวังได้มากที่สุดกันดีกว่าครับ คือ ชาเขียว นั้นเอง งานวิจัยตัวนี้ค่อนข้างดี มีคุณภาพ เมื่อเทียบกับ สารอื่นๆ มาเรียนรู้เกี่ยวกับ ชาเขียวสักหน่อยละกันครับ
สารออกฤทธ์ที่จะช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนักได้แก่ caffeine และ catechins(ตรงนี้ต้องระวังเรื่องการชงชาด้วยครับ เพราะถ้านานไป ก็จะได้ tannin ที่มากขึ้นแทนด้วย ) ซึ่งจะมีฤทธ์ต่อ energy expenditure (มันจะไปเกี่ยวกับ Cal out ของเราค่อยว่ากันครับ) กับ fat oxidation
โดยใน 1 ถ้วยชา เราจะได้ Catechins ประมาณ 240–320 mg catechins และ Caffeine ประมาณ 40-45 mg
จากงานวิจัยระดับ systematic review และ meta-analysis (เป็นอะไรที่เชื่อถือได้มากที่สุดครับ) พบว่า green tea catechins ร่วมกับ caffeine ช่วยลดน้ำหนัก 1.38 kg ใน 12 อาทิตย์ (หลายคนไม่ชอบตรงนี้ละครับ 555 นานมาก เม้งลดได้ 1.38 kg ) น่าสนใจที่ว่า จากการรีวิวงานวิจัยมานี้ พบว่า ชาที่มีแค่ Catechins อย่างเดียวไม่มี caffeine พบว่าไม่ช่วยลด น้ำหนักได้เท่าที่ควร
โดยงานวิจัยระดับที่น่าเชื่อถือสูงๆหลายชนิดชี้ไปทางเดียวกันว่า green tea สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ครับ ( แต่มันไม่ได้ลด เร็ว ทันใจคนไทยเนี้ยละ ถึงต้องไปหายา กินกันไง )
dose นะครับ
caffeine (39–83 mg/day)
catechins (576–690 mg/day)
ก็ประมาณ จิบ ชาเขียว 2 แก้ว ต่อวัน ครับ ไม่ต้องไปซื้ออะไรอาหารเสริมมาแพงเลย
ผลข้างเคียงสำหรับ ชาเขียว นะครับ คลื้นไส้ ท้องผูก ไม่สบายท้อง ในบางรายพบว่ามีความดันสูงร่วมด้วย
=== ส่วนผสมที่ชอบใส่ในอาหารเสริมลดน้ำหนัก ===
ผม สรุป สั้นๆ ให้ตามรูปนี้นะครับ (ที่กากบาท คือไม่ช่วย นะครับไม่แนะนำ )
อย่าลืมว่าถ้าจะกิน dose ที่กินค่อนข้างสูงในแต่ละตัวด้วยนะครับ ถ้าเทียบเมืองไทยที่ใส่กันคือน้อยมากครับ
สำหรับ L-carnitine ผมสรุป ให้ในรูปนะครับ ตัวนี้กิน เหมือนดาบ 2 คม นะครับ
ณ ปุจจุบัน ชาเขียวยังเป็นตัวที่คาดหวังผลได้มากที่สุดครับ จะกินอะไรเข้าไป ต้องอ้างอิงหลักฐานที่เชื่อถือได้นะครับ เพราะเข้าปากเรา ซวยก็คือเรา เงินก็เงินเรา ครับ
สำหรับผม การออกกำลัง กาย ครับ ผมเชื่อว่าการออกกำลังกาย นอกจาก น้ำหนักที่ลดลงแล้ว ยังช่วยให้กระชับและสุขภาพดีขึ้นด้วยครับ ผมไม่พูดถึงประเด็นนี้นะครับ เพราะคงต้อง พูดกันยาวววมากกกก ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ แต่สิ่งที่ได้มามันก็คุ้ม
ฝากรูปสุดท้ายให้นะครับ
credit ภาพจากเพจ ไข่แมว นะครับ
วันนี้ขอ จบ แค่นี้ละกันครับ
ฝากสำหรับ ความเข้าใจผิดๆ เรื่อง Vitamin C ตาม link นี้นะครับ
https://ppantip.com/topic/35286993
ไว้จะมา update การเลือกกิน อาหารเสริม ในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องต่อไปนะครับ
หากใครมีคำถามก็โพสถามได้เลย
สุดท้ายหวังว่า ที่ผมโพสไปจะให้ เพือนๆ พี่ๆ น้องๆ ในห้อง สามารถ นำไปใช้และบอกต่อเพื่อให้เข้าใจตรงกันในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ
By Darkman
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Darkmanfitandwell
ยาลดน้ำหนักตาม clinic เค้าใส่อะไร ?? Chitosan ดีจริงหรือแค่ขายฝัน??มารู้ส่วนผสมอาหารเสริมลดน้ำหนัก ?? By darkmanเจ้าเดิม
คนเราสมัยนี้ก็แปลกนะครับ ยอมทุกอย่าง เสียเงินเท่าไหรได้หมด ขออย่างเดียว ไม่อยากออกกำลังกายยยย --- หลายๆคนมาปรึกษา มักจะมีเงือนไขต่างๆนาๆในการเบี่ยงเบนความขี้เกียจของตัวเอง บอกไม่มีเวลา แต่มีเวลา อัพเฟส ของกิน ซะงั้น มาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับ
อาหารเสริมคือไม่ใช้ ยา เป็นสิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อน ก่อนจะไปเรื่องอาหารเสริม มารู้ก่อน ว่า ยา ที่ใช้ ลดน้ำหนัก ใน Clinic หรือ ที่เค้าแอบเอามาขายกันมันคืออะไร ยาตัวหลักเลยนะครับ ( ส่วนใหญ่มักจะเป็น ยาสูตร ผสม ใส่มา เป็นชุด ๆๆ มักจะมีพวกนี้ผสมกันทั้งนั้น )
1. Sibutramine - ตัวนี้เม้งโครต Hit เลย ขนาดไปเอาแอบใส่อาหารเสริมได้ สุดยอดมากเลย ตัวนี้ กลไกจะเข้าไปยับยั้งการเก็บกลับ ของสารสื่อประสาทซีโรโทนิน และ นอร์อีพิเนฟริน ส่งผลให้ความอยากอาหารลดลงและอิ่มเร็วขึ้น ตัวนี้สังเกตุไม่ยากครับ เวลากินเข้าไปจะมี ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ในหลายๆ Clinic เล่เหลี่ยมกว่านั้น เลยให้ คนไข้ กิน ยา กลุ่ม beta blocker เข้าไปเพื่อลด อาการ ใจแล้ว แล้วก็บอก คนไข้ตัวเองว่า เฮ้ย ยา clinic Kuดีนะ กินละไม่ใจสั้น แต่เม้งจะ ตาย คนไข้ เอานะครับ ต้องระวังให้มากกกก เจอประจำ มีการใส่ 2 ตัวนี้ไปในอาหารเสริมเพื่อลดอาการดังกล่าวทำให้ จับได้ยากขึ้น แต่ระวังจะ น๊อค เอานะครับ
คนที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจห้ามกินนะครับ เพราะจะทำให้หัวใจวายได้ครับ ***
2. thyroxine - ที่ให้ตัวนี้ไป เนืองจาก เอ้า กิน Sibutramine มาแล้ว ไม่อยากอาหารแล้ว มาเร่งการเผาพลาญกันเถอะพวกเรา ยาตัวนี้จะไปเพิ่ม metabolic rate ในร่างกาย กินไปสิ ยา thyroid เผาเม้งให้พังไปเลย ร่างกาย น้ำหนักที่ลงก็ลงจาก น้ำหนักตัวที่ปราศจากไขมัน(lean muscle mass ) ไม่ใช้ไขมันนะครับที่หายไป ( มันทำให้เกิด Negative nitrogen balance ) ตัวนี้ต้องห้ามกินคู่กับ phentermine นะครับเพราะผลข้างเคียงจะยิ่งหนัก จะตายเอาให้ ยิ่งต้องระวัง พวก เอามาแอบใส่อาหารเสริม ลดเร็วๆ 3-5 วัน ไรงี้
3. ยาขับปัสสาวะ หรือ ยาระบาย(แทบจะเจอทุกทีเลย แรงมากแรงน้อยแล้วแต่ความ ซาดิส ของคนคิดจะใส่มาในสูตร แค่คิดเม้งก็ผิดละ ) มีผลต่อการสูญเสียน้ำในร่างกายแล้วแต่ชนิด น้ำหนักจะลดลงเร็วในอาทิตย์แรกๆเลยครับ แต่เป็นน้ำที่หายไป ผลเสียก็ตามมามากมาย ทั้งภาวะ ขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ในร่างกาย สมดุลกรด เบส ร่างกายก็เสียไปด้วย ไม่ใช้ยาที่ควรเอามากินเล่นเลย
4. beta-blocker - ใส่มาเพื่อลดอาการข้างเคียงยา Sibutramine ในเรืองอาการใจสัน ( ผมไม่พูดถึงยา Clenbuterol ที่ใช้ในเพาะกาย ช่วง Cutting / Diet cycle นะครับ )
5. ยานอนหลับ - ตัวนี้ใส่มา คือ งี้ครับ -ยาเยอะ ใช่ไหม ฤทธ์แรงดีนัก ไม่ต้องกังวล กินยานอนหลับไปเลยละกัน แต่จริงๆ เค้าใส่มาเพื่อ เวลาให้ยาที่ใช้อนุพันธ์แอมเฟตามีน มันก็จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้นอนไม่หลับ เลยให้ตัวนี้ไปด้วย นะครับ
6. Orlistat ยาดักจับไขมันที่ขึ้นชื่อ กินที เข้ออกมาเป็นน้ำมันเลยทีเดียว ตัวนี้ เมืองไทยยังไม่มีการทดสอบ นะครับ หลายแบรนเลยจัดเลย
6 ตัวที่สรุปให้ข้างบน คือ มักจะจัดเป็นชุดๆๆ code ต่างๆของ แต่ละที ผมไม่ขอพูดนะครับ เดียวจะโดนฟ้องเอา
นอกจากนี้ เมืองนอกจะมีการใช้ CB1 blocker แต่เมืองไทย ไม่ให้ผ่านเนืองจาก ควบคุม การออกฤทธ์ไม่ได้
ผ่านไปละ เรืองยา รู้ไว้หน่อยนะครับ มาเข้า ฟิว ที่ผมจะมาพูดดีกว่า อาหารเสริม ลด น้ำหนัก โปรดจำไว้ก่อนว่า อาหารเสริมไม่ใช้ยา ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมี Clinical Trial ที่ดูดีแบบยา ผลก็ไปวัดเอาดาบหน้า ละกัน สมัยใหม่ๆนี้อาหารเสริมในกลุ่มลดน้ำหนัก มีสารเยอะมากมาย สารที่พอคาดหวังได้จริงๆ แทบจะได้ ขี้มด ครับ ย้ำว่าแค่ " พอคาดหวัง " นะครับ
ผมเชื่อว่า ขอให้เอา วิชาการ มาพูดแค่ไหน จะมีคนกลุ่มๆหนึ่งก็จะยังไม่เชื่อ ก็Guอยากจะกิน ใครจะทำไม แล้วถ้าจะกินจริงๆละจะกินอะไรละ ที่ปลอดภัย วันนี้ผมมาพูดประเด็นว่า สารอะไรที่พอจะช่วยไม่ช่วยบ้างดีกว่าครับ จะได้ เป็นแนวทาง สำหรับคนกลุ่มที่จะกินให้ได้ เพราะหลายคนที่เข้ามาปรึกษาคือก็จะกินอะ ห้ามไปก็เท่านั้น ไม่ฟัง แต่ส่วนตัวก็ไม่แนะนำให้กิน อยากให้ออกกำลังกายมากว่าครับ
เริ่มตัวแรกก่อนเพราะโดนถามมาเยอะ ว่า Chitosan ลดน้ำหนักดักจับไขมันได้ไหม -- สอบสั้นๆ คือได้น้อยมากหรือไม่ช่วยเลยจากการ รวบรวม งานวิจัย
Chitosam เป็น polysaccharide ที่ได้จากพวกสัตว์ทะเล ครับ โดยเคลมว่าจะไปจับไขมันในอาหารในระดับทางเดินอาหารเรา แต่งานวิจัยหลายที่ก็บอกว่ามันไม่แตกต่างกับคนไม่กิน ส่วนยี่ห้อไหนที่บอกว่าเป็นอาหารเสริมแล้วใส Chitosan มาแล้วเข้เป็นมูกไขมันเลยทีเดียว อันนี้ต้องระวังว่าอาจจะแอบใส่ตัวอื่นมาด้วยนะครับ
แล้วที่เค้าอ้างงานวิจัยละว่าไหนว่า งานวิจัย บอกว่าช่วยได้ไงละ จขกท มั่วเปล่า 5555 คือเค้าคนหนึ่งรวบรวมงานวิจัย 13 ฉบับแล้วสรุปว่าจากที่รีวิวงานวิจัยมา เจ้าสารนี้มันจะช่วยลดน้ำหนักได้ 1.7 kg นะ ( และได้ผลระยะสั้นๆเท่านั้น ) แต่พอกลับไปดูงานวิจัยที่บอกว่าได้ คือ ห่วยแตก มากครับ คุณภาพงานวิจัยไม่ผ่านครับ เชื่อถือไม่ได้ ทำมาเพื่อขายของ แต่พอไปดูงานวิจัยที่คุณภาพดีๆๆ พบว่า มันไม่ช่วยในเรืองลดน้ำหนัก และ งานวิจัยทีรวบรวมดีๆ ก็สรุปไปทางเดียวกันว่าช่วยน้อยมากถึงไม่ช่วยเลย
ความปลอดภภัยของสารนี้ พบเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะมีอาการ มวนท้อง คลท้นไส้ ท้องผูก อาหารไม่ค่อยย่อยได้ครับ คนที่แพ้อาหารทะเลก็ไม่ควรกินนะครับ
สรุป Chitosan ไม่ช่วยดักจับไขมันหรือลดน้ำหนักนะครับ
มาพูดถึงตัวที่เราคาดหวังได้มากที่สุดกันดีกว่าครับ คือ ชาเขียว นั้นเอง งานวิจัยตัวนี้ค่อนข้างดี มีคุณภาพ เมื่อเทียบกับ สารอื่นๆ มาเรียนรู้เกี่ยวกับ ชาเขียวสักหน่อยละกันครับ
สารออกฤทธ์ที่จะช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนักได้แก่ caffeine และ catechins(ตรงนี้ต้องระวังเรื่องการชงชาด้วยครับ เพราะถ้านานไป ก็จะได้ tannin ที่มากขึ้นแทนด้วย ) ซึ่งจะมีฤทธ์ต่อ energy expenditure (มันจะไปเกี่ยวกับ Cal out ของเราค่อยว่ากันครับ) กับ fat oxidation
โดยใน 1 ถ้วยชา เราจะได้ Catechins ประมาณ 240–320 mg catechins และ Caffeine ประมาณ 40-45 mg
จากงานวิจัยระดับ systematic review และ meta-analysis (เป็นอะไรที่เชื่อถือได้มากที่สุดครับ) พบว่า green tea catechins ร่วมกับ caffeine ช่วยลดน้ำหนัก 1.38 kg ใน 12 อาทิตย์ (หลายคนไม่ชอบตรงนี้ละครับ 555 นานมาก เม้งลดได้ 1.38 kg ) น่าสนใจที่ว่า จากการรีวิวงานวิจัยมานี้ พบว่า ชาที่มีแค่ Catechins อย่างเดียวไม่มี caffeine พบว่าไม่ช่วยลด น้ำหนักได้เท่าที่ควร
โดยงานวิจัยระดับที่น่าเชื่อถือสูงๆหลายชนิดชี้ไปทางเดียวกันว่า green tea สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ครับ ( แต่มันไม่ได้ลด เร็ว ทันใจคนไทยเนี้ยละ ถึงต้องไปหายา กินกันไง )
dose นะครับ
caffeine (39–83 mg/day)
catechins (576–690 mg/day)
ก็ประมาณ จิบ ชาเขียว 2 แก้ว ต่อวัน ครับ ไม่ต้องไปซื้ออะไรอาหารเสริมมาแพงเลย
ผลข้างเคียงสำหรับ ชาเขียว นะครับ คลื้นไส้ ท้องผูก ไม่สบายท้อง ในบางรายพบว่ามีความดันสูงร่วมด้วย
=== ส่วนผสมที่ชอบใส่ในอาหารเสริมลดน้ำหนัก ===
ผม สรุป สั้นๆ ให้ตามรูปนี้นะครับ (ที่กากบาท คือไม่ช่วย นะครับไม่แนะนำ )
อย่าลืมว่าถ้าจะกิน dose ที่กินค่อนข้างสูงในแต่ละตัวด้วยนะครับ ถ้าเทียบเมืองไทยที่ใส่กันคือน้อยมากครับ
สำหรับ L-carnitine ผมสรุป ให้ในรูปนะครับ ตัวนี้กิน เหมือนดาบ 2 คม นะครับ
ณ ปุจจุบัน ชาเขียวยังเป็นตัวที่คาดหวังผลได้มากที่สุดครับ จะกินอะไรเข้าไป ต้องอ้างอิงหลักฐานที่เชื่อถือได้นะครับ เพราะเข้าปากเรา ซวยก็คือเรา เงินก็เงินเรา ครับ
สำหรับผม การออกกำลัง กาย ครับ ผมเชื่อว่าการออกกำลังกาย นอกจาก น้ำหนักที่ลดลงแล้ว ยังช่วยให้กระชับและสุขภาพดีขึ้นด้วยครับ ผมไม่พูดถึงประเด็นนี้นะครับ เพราะคงต้อง พูดกันยาวววมากกกก ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ แต่สิ่งที่ได้มามันก็คุ้ม
ฝากรูปสุดท้ายให้นะครับ
credit ภาพจากเพจ ไข่แมว นะครับ
วันนี้ขอ จบ แค่นี้ละกันครับ
ฝากสำหรับ ความเข้าใจผิดๆ เรื่อง Vitamin C ตาม link นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/35286993
ไว้จะมา update การเลือกกิน อาหารเสริม ในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องต่อไปนะครับ
หากใครมีคำถามก็โพสถามได้เลย
สุดท้ายหวังว่า ที่ผมโพสไปจะให้ เพือนๆ พี่ๆ น้องๆ ในห้อง สามารถ นำไปใช้และบอกต่อเพื่อให้เข้าใจตรงกันในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ
By Darkman
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้