ท้าวความก่อนนะคะ ว่าแถวๆ บ้านเรา ค่อนข้างจะปลอดภัย เพราะรู้จักมักจี่กันแต่เก่าก่อน
เลยทำให้แต่ละบ้านไม่มีปัญหาต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ตามวิถีชนบท ปกติทั่วไป (แต่ถ้าบ้านใครมีเรื่องในบ้าน ก็เป็นเรื่องของบ้านเค้า ไม่เข้าไปยุ่ง)
ข้างบ้านเราด้านซ้ายจะไม่ติดบ้านใคร เป็นสวน แต่ด้านขวาติดกับรั้วที่มีบ้านสามหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่ารู้จักกันดี
รุ่นตายาย เป็นคนรุ่นเดียวกับพ่อแม่เรา (สนิทกันแต่เก่าก่อน) รุ่นพ่อแม่ เป็นคนรุ่นเดียวกับเรา (โตมาด้วยกัน แต่ผู้ชายเป็นเขยแต่งเข้ามา ก็เฉยๆ)
พอมีลูก เราถือว่าเป็นน้า ช่วยดู ช่วยเลี้ยงตอนยังเล็กๆ เห็นหน้าแทบไม่ได้ วิ่งมานั่งตัก นอนหนุนตัก ติดกันแจ
แต่ด้วยเรื่องการเมืองท้องถิ่น จึงทำให้กระอักกระอ่วนกันไป ห่างๆ กัน แต่ก็ทักทายกันด้วยตามมารยาทเท่านั้น เน้นว่าต่างคนต่างอยู่
ไม่ได้ทะเลาะกันใดๆ แต่เพราะหัวหน้าครอบครัว อยู่กันคนละขั้วอำนาจ หลังบ้านก็หมางเมินกันไป
ส่วนปัญหามันมาเกิดขึ้นตอนช่วงนี้ คือ
รุ่นหลาน
บ้านที่ติดกับบ้านเรามีลูกชาย 2 คน ซึ่งการเลี้ยงลูกสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เหมือนสมัยก่อน เลยทำให้เด็กเกเร (ตอนนี้ ก็ 20 กว่ากันหมดแล้ว)
ก็หนีไม่พ้นปัญหาเรื่องยาเสพติด ยาบ้า
ซึ่งก็ทราบเรื่องนี้ว่ามีมานานละ แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เลยเฉยๆ ไว้ เรื่องของครอบครัวเค้า เราก็ไม่ยุ่ง
แต่มาเมื่อเลยกลางปีที่แล้ว มีการบุกจับตอนตี 5 โดยการสนธิกำลังของทั้งทหารและตำรวจ (โดยที่เราไม่รู้เรื่อง มารู้ตอน 8 โมงเช้าว่ามีการบุกจับ)
ทราบว่าได้รวบตัวลูกชายบ้านนี้ ไปทั้งคู่ (พี่ชายน้องชาย) และได้ของกลาง ยาบ้าร้อยกว่าเม็ด (ตำรวจที่ทำคดีแจ้งให้ทราบ)
ไม่น่าจะมีคนแจ้ง แต่น่าจะเกิดจากการจับตาดูของตำรวจนอกพื้นที่อยู่ ระยะใหญ่ๆ
แต่ด้วยขั้วอำนาจการเมืองท้องถิ่น ทำให้เกิดการต่อรอง ทำให้คนพี่ถูกดำเนินคดีตามหลักฐาน แต่ปล่อยคนน้องออกมา
คนน้องก็กลับมาบ้านก็รวบรวมเพื่อนๆ มากินเหล้า เฮฮากัน รบกวนความสงบแถวๆ นี้มาก แต่ก็ทนๆ เอา
เรื่องที่เป็นปัญหาของวันนี้ คือ บ้านเราเลี้ยงหมา แล้วเวลาหมาดื้อ เราจะดุหมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง
ซึ่งวันนี้หมาดื้อ ก็เลยดุหมาว่าให้ลุกไปเข้ากรง "ไป...!" หมาก็เริ่มลุก เพราะเวลาดุเสียงเราเอาจริง
แต่ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ จากข้างบ้าน จากลูกชายคนน้องว่า "เฮี่ย! ไป ไอ้ด่าง" (ไอ้ด่างคือหมาข้างบ้าน) เข้าใจว่าเค้าก็คงดุหมาเหมือนกัน
เราก็เลยดุหมาต่อว่า "ลุก ไปได้แล้ว ... ไป!"
คราวนี้ละ ชัดเต็ม 2 หูเลย ตัวพ่อเค้าก็อยู่ตรงนั้น เสียงตะโกนว่าเราว่า "นั่นไง หรือว่ามันจะเอา" แล้วก็คุยกันเกี่ยวกับว่าเราว่าเค้า (ตัวลูก)
เราก็เอ๊ะ! คงเป็นฉันแล้วหล่ะ ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เรื่องของใครเรื่องของมันมาตลอด
กลั้นใจลากหมาเข้ากรง ไม่พูดไม่จา ไม่ทำอะไรโวยวาย ทำตัวปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือ มีของหล่นใส่หลังคาบ้าง กระทบผนังบ้านบ้าง เป็นระยะๆ เว้นช่วงสักพักก็มีเสียงอีก ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
จนกระทั้ง ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของคนลูกขี่ออกไป เสียงหลังคา เสียงผนังบ้านก็ไม่มีอีก
เลยทำตัวไม่ถูก คิดว่า เค้าคงว่าเราไปด่า ไปทำร้ายเค้า อาจจะจากผลของยาเสพติด
เราควรทำตัวอย่างไรดี
ถามว่ากลัวตายมั้ย ไม่กลัวเพราะลูกผัวไม่มี แต่กลัวพิการ ไม่อยากให้พ่อแม่ที่แก่เฒ่า มาเป็นกังวลเลี้ยงดูอีก
ดูๆ ไป การใช้ชีวิตในชนบทสมัยนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะซ้ายจะขวา ก็ติดขัดไปหมด
ปัญหาข้างบ้าน เกี่ยวกับยา และพฤติกรรมของคนเสพ ควรทำอย่างไรดี
เลยทำให้แต่ละบ้านไม่มีปัญหาต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ตามวิถีชนบท ปกติทั่วไป (แต่ถ้าบ้านใครมีเรื่องในบ้าน ก็เป็นเรื่องของบ้านเค้า ไม่เข้าไปยุ่ง)
ข้างบ้านเราด้านซ้ายจะไม่ติดบ้านใคร เป็นสวน แต่ด้านขวาติดกับรั้วที่มีบ้านสามหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่ารู้จักกันดี
รุ่นตายาย เป็นคนรุ่นเดียวกับพ่อแม่เรา (สนิทกันแต่เก่าก่อน) รุ่นพ่อแม่ เป็นคนรุ่นเดียวกับเรา (โตมาด้วยกัน แต่ผู้ชายเป็นเขยแต่งเข้ามา ก็เฉยๆ)
พอมีลูก เราถือว่าเป็นน้า ช่วยดู ช่วยเลี้ยงตอนยังเล็กๆ เห็นหน้าแทบไม่ได้ วิ่งมานั่งตัก นอนหนุนตัก ติดกันแจ
แต่ด้วยเรื่องการเมืองท้องถิ่น จึงทำให้กระอักกระอ่วนกันไป ห่างๆ กัน แต่ก็ทักทายกันด้วยตามมารยาทเท่านั้น เน้นว่าต่างคนต่างอยู่
ไม่ได้ทะเลาะกันใดๆ แต่เพราะหัวหน้าครอบครัว อยู่กันคนละขั้วอำนาจ หลังบ้านก็หมางเมินกันไป
ส่วนปัญหามันมาเกิดขึ้นตอนช่วงนี้ คือ
รุ่นหลาน
บ้านที่ติดกับบ้านเรามีลูกชาย 2 คน ซึ่งการเลี้ยงลูกสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เหมือนสมัยก่อน เลยทำให้เด็กเกเร (ตอนนี้ ก็ 20 กว่ากันหมดแล้ว)
ก็หนีไม่พ้นปัญหาเรื่องยาเสพติด ยาบ้า
ซึ่งก็ทราบเรื่องนี้ว่ามีมานานละ แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เลยเฉยๆ ไว้ เรื่องของครอบครัวเค้า เราก็ไม่ยุ่ง
แต่มาเมื่อเลยกลางปีที่แล้ว มีการบุกจับตอนตี 5 โดยการสนธิกำลังของทั้งทหารและตำรวจ (โดยที่เราไม่รู้เรื่อง มารู้ตอน 8 โมงเช้าว่ามีการบุกจับ)
ทราบว่าได้รวบตัวลูกชายบ้านนี้ ไปทั้งคู่ (พี่ชายน้องชาย) และได้ของกลาง ยาบ้าร้อยกว่าเม็ด (ตำรวจที่ทำคดีแจ้งให้ทราบ)
ไม่น่าจะมีคนแจ้ง แต่น่าจะเกิดจากการจับตาดูของตำรวจนอกพื้นที่อยู่ ระยะใหญ่ๆ
แต่ด้วยขั้วอำนาจการเมืองท้องถิ่น ทำให้เกิดการต่อรอง ทำให้คนพี่ถูกดำเนินคดีตามหลักฐาน แต่ปล่อยคนน้องออกมา
คนน้องก็กลับมาบ้านก็รวบรวมเพื่อนๆ มากินเหล้า เฮฮากัน รบกวนความสงบแถวๆ นี้มาก แต่ก็ทนๆ เอา
เรื่องที่เป็นปัญหาของวันนี้ คือ บ้านเราเลี้ยงหมา แล้วเวลาหมาดื้อ เราจะดุหมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง
ซึ่งวันนี้หมาดื้อ ก็เลยดุหมาว่าให้ลุกไปเข้ากรง "ไป...!" หมาก็เริ่มลุก เพราะเวลาดุเสียงเราเอาจริง
แต่ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ จากข้างบ้าน จากลูกชายคนน้องว่า "เฮี่ย! ไป ไอ้ด่าง" (ไอ้ด่างคือหมาข้างบ้าน) เข้าใจว่าเค้าก็คงดุหมาเหมือนกัน
เราก็เลยดุหมาต่อว่า "ลุก ไปได้แล้ว ... ไป!"
คราวนี้ละ ชัดเต็ม 2 หูเลย ตัวพ่อเค้าก็อยู่ตรงนั้น เสียงตะโกนว่าเราว่า "นั่นไง หรือว่ามันจะเอา" แล้วก็คุยกันเกี่ยวกับว่าเราว่าเค้า (ตัวลูก)
เราก็เอ๊ะ! คงเป็นฉันแล้วหล่ะ ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เรื่องของใครเรื่องของมันมาตลอด
กลั้นใจลากหมาเข้ากรง ไม่พูดไม่จา ไม่ทำอะไรโวยวาย ทำตัวปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือ มีของหล่นใส่หลังคาบ้าง กระทบผนังบ้านบ้าง เป็นระยะๆ เว้นช่วงสักพักก็มีเสียงอีก ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
จนกระทั้ง ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของคนลูกขี่ออกไป เสียงหลังคา เสียงผนังบ้านก็ไม่มีอีก
เลยทำตัวไม่ถูก คิดว่า เค้าคงว่าเราไปด่า ไปทำร้ายเค้า อาจจะจากผลของยาเสพติด
เราควรทำตัวอย่างไรดี
ถามว่ากลัวตายมั้ย ไม่กลัวเพราะลูกผัวไม่มี แต่กลัวพิการ ไม่อยากให้พ่อแม่ที่แก่เฒ่า มาเป็นกังวลเลี้ยงดูอีก
ดูๆ ไป การใช้ชีวิตในชนบทสมัยนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะซ้ายจะขวา ก็ติดขัดไปหมด