[CR][SR] การใช้ชีวิตที่เกาหลี 30 วัน (ศัลยกรรมกับโรงพยาบาลมาอิน)

สวัสดีค่ะ หนูชื่อผักกาดนะค่ะจะมาเล่าประสบการณ์การ การใช้ชีวิตที่เกาหลีใน 30 วันให้ฟังกันค่ะ
ก่อนอื่นผักกาดขอเล่าคราวๆก่อนว่ามาทำอะไรและทำไมมาเกาหลีคือผักกาดได้ไปเจอเพจๆหนึ่ง เกี่ยวกับการศัลยกรรมความงามและพอดีเพจนั้นกำลังรับสมัครผู้เข้าร่วมประกวดโครงการศัลยกรรมพลิกชีวิตและผักกาดได้มาสมัครโดยลงชื่อส่งรูปและข้อมูลลงไปในเพจเพจเพจนี้มีชื่อว่าโรงพยาบาลศัลยกรรมมาอินแต่โรงพยาบาลนี้อยู่ที่ประเทศเกาหลี  ตอนนั้นผักกาดไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วเลยลองสมัครไปดู แต่ได้เข้ารอบจาก 300 คนสุดท้ายเหลือ 30 คน และ30 คนที่เหลือต้องมาคัดเลือกอีกทีแต่พอไปคัดตัวเรียบร้อยก็ปรากฏว่าได้ที่3ไม่ได้ไปศัลยกรรมฟรีแต่มีส่วนลดในการทำศัลยกรรมให้ในราคา50%ผักกาดเลยตัดสินใจมาทำที่เกาหลีเพราะตัวผักกาดเองอยากแก้จมูกอยู่แล้ว ส่วนตัวตัวเองทำงานด้านคลีนิกศัลยกรรมอยู่แล้วเลยรู้ว่าการแก้จมูกที่เกาหลีน่าจะโอเคกว่าแก้ที่ไทยเพราะเกาหลีเทคนิคการผ่าตัดและการทำของหมอจะมีแก้ปันหาที่ตรงจุดกว่าที่ไทยและต่างกว่าที่ไทยในหลายๆอย่างมาก  เรามาเข้าเรื่องต่อเลยละกันค่ะ พอจะมาที่เกาหลีผักกาดก็เตรียมตัวพร้อมที่จะบินละ โดยจะบินในวันที่ 1 พ.ย.2559 นี้ โดยไฟท์บินรอบเช้า08.00น.ก็เตรียมตัวออกจากบ้านแต่ตี5 เพื่อมาสนามบินเตรียมตัวเช็คอินก่อน7โมงเพราะเป็นการบินไปคนเดียวเลยมีความกลัวๆนิดหนึ่ง
โหลดกระเป๋าเรียบร้อยเตรียมตัวรอที่เกรสพร้อมบินค่ะ
เตรียมขึ้นเครื่องก็มีการเช็คพาสปอตเตรียมเอกสารเรียบร้อยก็มีเจ้าหน้าที่ประกาศให้เตรียมขึ้นเครื่องพร้อมเดินทาง
นี้เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งที่2บินออกนอกประเทศแต่รอบนี้ผักกาดบินสายเดี่ยวแบบมาคนเดียวไปไหนกัน 555+ขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยมาเที่ยวนี้ขึ้นเครื่องของสายการบินเอแอร์เชีย แอร์ไทยก็สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก 5555+ อันนี้พูดจริงค่ะแต่บางคนหน้าบึ่งไปหน่อย (เฉพาะบ้างคนนะค่ะ) เพราะเมืองไทยเราป็นเมืองสยามไม่ว่าอะไรก็ยิ้มเข้าไว้ค่ะ อิอิ  เครื่องจะออกละมาถึงช่วงเวลาจะหูอื้อ!ละซิ
บ๊าย บาย ! เมืองไทยเจอกันใหม่ในเดือนธันวานะค่ะ
ถึงแล้ววววว!โกเรียที่รัก โอปป้าอ่ะห๊ะ 555+ ตื่นเต้นไปไหม ไม่จะอยากจะเอ่ยว่าหลับตั้งแต่ไทยถึงเกาหลีเพราะว่านอนดึกตื่นเช้าเลยเพลียหลับยาวเลย บินเที่ยวนี้ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงจากไทยมาเกาหลีเท่ากับกรุงเทพไปโคราชเลย (นั่งรถทัวร์)
พอลงจากเครื่องบินก้าวแรกที่ลงมาอยากจะบอกว่ามันหนาวมากกกก โอ้วมายกอด แล้วเดินไปเช็คอินที่ด้านตรวจคนเข้าเมืองนอกประเทศ เตรียมเอกสารพาสปอตและใบตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างรอคิวคือคนเยอะมากเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แล้วพอถึงคิวเราก็ยื่นเอกสารให้กับ ตม.ตรวจ อ่ะๆคือว่าเอกสารและข้อมูลผักกาดไม่ผ่านโดนเรียกให้ไปห้องรอสอบสวน และเชื่อไหมว่าติดอยู่ในห้องนั้น 4 ชม.กว่า แบบว่าโครตอึดอัดที่สุด ส่วนเรื่องประสบการณ์ที่ติดตม. ผักกาดเขียนลงไปในพันทิปเรื่องติดตม. รายละเอียดจะเป็นยังไงเข้าไปอ่านดูนะค่ะ ผักกาดขอข้ามเรื่องนี้ก่อนนะ  หลังจากรอดมาได้...คือตม.ให้เข้าไปประเทศได้ละก็ได้ออกมารับกระเป๋าเพราะโอปป้า จูมินมารอนานละตั้งแต่ลงเครื่องป่านนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้
โอปป้าจูมินคือใคร คือ ชื่อพี่แบงค์เป็นคนไทยทำงานที่เกาหลีเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่มารับและเป็นคนดูแลผักกาดในการศัลยกรรมครั้งนี้  
พอออกมาจากสนามบินได้แล้วพี่เขาก็มารออยู่พอเจอพี่เขาแค่นั้นและผักกาดรีบวิ่งไปกอดเลยด้วยความที่ว่าติดตม.เกาหลี อยู่ในนั้นอันแสนจะอึดอัด เครียด หิว ทรมาน และหลายๆอย่างที่อาจจะโดนตีกลับประเทศไป และยังมีชื่อติดแบล็คลิสไว้ด้วยถ้าโดนตีกลับอ่ะ
แต่ผักกาดไม่ได้เจอแค่พี่จูมินแต่เจอพี่หยกสาวที่ได้มาเปลี่ยนแปลง พลิกชีวิตที่เกาหลีคนที่ชนะการประกวดไปค่ะ
พอพวกเราได้เจอกันคือตอนนั้นผักกาดหิวมากกกกก แบบกินช้างได้ทั้งตัวพี่จูมินเลยพามากินข้าวในสนามบินกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านกัน
ระหว่างพวกเรารอรถเมลล์กลับที่พักเซลฟี่กันหน่อยยยยย
ถึงบ้านแล้วววววว คือที่พักผักกาดอยู่บ้านรองผู้จัดการโรงพยาบาลเป็นเกียติอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ที่นี้แต่ถ้าผักกาดมาอยู่โรงแรมหรือที่พักที่ต้องเช่าที่เกาหลีคงไม่ไหวเพราะที่พักที่นี้แพงมาก ตกคืนนึ่งเกือบ 3000บาทผักกาดต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี้30วันคิดดูแล้วไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าเช่าอยู่
รองผู้จัดการโรงพยาบาลชื่อคุณเคทรี่ คุณเคทรี่เธออยู่กับสามีและลูกชายของเธอบ้านของเธออยู่แถวยงอินโดยผักกาดได้ไปอยู่ด้วยกันกับพี่หยกสาวน้อยที่ได้เคยเล่าให้ฟังไปแล้ว เราสองคนอยู่ที่บ้านคุณเคทรี่ด้วยกันพักห้องเดียวกัน
ผักกาดขอเล่าการมาอยู่ที่เกาหลีเป็นสัปดาห์ไปน่ะค่ะเราจะมาเจอกันทุกวันศุกด์นะสำหรับผู้ที่ติดตามผักกาดยังไงก็ฝากติดตามได้ทางเพจโรงพยาบาล ชื่อเพจ โรงพยาบาลศัลยกรรมมาอินและเฟดบุ๊คของผักกาด Yanapa Saengpuk
ตามนี้เลยนะค่ะ และสัปดาห์แรกเลยที่ได้มาอยู่ที่นี้ได้ขึ้นรถไฟฟ้าจากบ้านมาที่โรงพยาบาลเพื่อมาดูโรงพยาบาลศัลยกรรมมาอิน ที่เราจะผ่าตัดด้วย มาอยู่ที่นี้ต่างจากการอยู่เมืองไทยไม่ว่าจะเป็นคน วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่เขาเจริญกว่าบ้านเรามากการคมนาคมก็ดีกว่าบ้านเรามาก สรรพยากรที่นี้ไม่ค่อยมีมรพิษควันจากอุสาหกรรมก็ไม่ค่อยมี แต่ที่นี้ติดอันดับค่าครองชีพสูงอันดับที่ 9ของโลกคือของจะแพงกว่าบ้านเราเยอะเพราะค่าเงินบ้านเราอ่อนกว่าเขาเราเลยดูราคาเงินต่ำกว่ามาก
พอช่วงเวลา8.00น.เราเตรียมตัวออกจากบ้านละ เพื่อที่จะมาขึ้นรถไฟฟ้าแต่ระยะทางจากบ้านมาขึ้นรถไฟฟ้าก็ไม่ไกลมากทุกเช้าผักกาดกับพี่หยกจะเดินมากันบ้างวันสามีคุณเคทรี่มาส่งขึ้นรถไฟฟ้าบ้างเพราะเป็นทางผ่านไปยังที่ทำงานของเขา

ก่อนผ่าตัดเราก็มาเรียนรู้การผ่าตัดกันก่อนว่าคุณหมอจะผ่าตัดให้เรายังไงแบบไหนต่างจากที่ไทยยังไง คือผักกาดเจอปฎิบัติมาแล้วทั้งทำตัวเอง(เสริมจมูก)และช่วยหมอผ่าตัดส่งเครื่องมือมาแล้ว(เป็นผู้ช่วยหมอในห้องผ่าตัด)เลยรู้เลยว่าการผ่าตัดที่เกาหลีมีความละเอียดอ่อนมากสามารถแก้ปันหาได้ตรงจุดด้วยเพราะศัลยกรรมที่ผักกาดเคยเจอจะไม่ค่อยเน้นแก้แต่จะเน้นถือหลักความสวยอย่างเดียว ศัลยกรรมไม่ว่าอะไรถ้าพลาดหรือมีปันหาขึ้นมาจะแก้ปันหายาก เช่นจมูกถ้าเคยทำมาแล้วเบี้ยวพอจะมาแก้อีกอาจจะเบี้ยวอีกได้ อันนี้คือที่ไทยแต่หมอที่เกาหลีจะลื้อรากฐานการเบี้ยวยันกระดูกฐานจมูกเลย และทำไม่ให้เบี้ยวกับคืน

วันนี้เป็นวันเกิดของโอปป้าจูมินพวกเราเลยมาซื้อของขวัญให้ 555+ คงจะชอบนะค่ะ
วันนี้โอปป้าพามาเลี้ยงข้าวด้วย ทีเด็ดของร้านที่ชอบมากคือปลาหมึกทอดกรอบกับไก่ย่างเทอริยากิ อร่อยมากกก และขอบคุณมากเช่นกันค่ะ
ร้านนี้เลยค่ะ เผื่อใครมาเกาหลีแล้วมาแถวโซลก็แวะร้านนี้ได้ค่ะ
ผักกาดผ่าตัดวันที่3 ก็เตรียมตัวออกจากบ้านเช้าหน่อยและก่อนผ่าตัดต้องงดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืนแต่ผ่าตัดบ่าย2โมงแต่ได้เข้าห้องผ่าตัดจริงเกือบ4โมงครึ่งแหน่ะทั้งวันคือหิวข้าวมาก สงสัยไหมค่ะทำไมต้องงดน้ำงดอาหารเพราะที่เกาหลีจะผ่าตัดแบบวางยาสลบทั้งหมดเลยไม่ว่าจะผ่าตัดเล็กหรือผ่าตัดตัดใหญ่ค่ะจะช่วยลดอาการเจ็บได้มากและพักฟื้นไม่นาน พอได้เวลาพบคุณหมอ4โมงเย็นก็คุยกับคุณหมอก่อนเข้าผ่าตัดผักกาดเเก้จมูกโดยคุณหมอจะเอากระดูกอ่อนหน้าหูมาเสริมปลายให้ด้วยเพราะผักกาดเป็นคนไม่มีปลายจมูกและเนื้อจมูกน้อยคุณหมอเลยจะใส่ส่วนของซิลิโคนแค่ตรงสันจมูกส่วนปลายจะใช้กระดูกอ่อนหน้าหูและเอากระดูกอ่อนตรงสันจมูกมาเสริม+เพิ่มให้อีกและเย็บเก็บปีกจมูกให้ด้วยการผ่าตัดจะผ่าตัดแบบ open คือเปิดแผลใหญ่เลย ทีแรกผักกาดจะเสริมแก้แค่จมูกแต่พอมาเจอรีวิว+กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีแต่คนสวยๆที่เคยทำศัลยกรรมกับคุณหมอมาแล้วยิ่งทำให้ผักกาดอยากทำทั้งหน้าด้วยซ้ำแต่งบคงจะไม่พอ อิอิ เลยปรึกษาคุณหมอเพิ่มเกี่ยวกับทำตา2ชั้น และผักกาดเป้นคนมีปัญหาอยู่แล้วที่ตาซ้ายคือมีก้อนไขมันที่หัวตาประมาณ5ซม.แล้วทำให้ตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันเลยขอให้คุณหมอเอาออกให้ผักกาดเคยปรึกษาคุณหมอมาหลายท่านแล้ว หมอหูตาคอจมูก ก็แนะนำให้ผ่าออกแต่ถ้าผ่าออกตาผักกาดก็จะไม่เท่ากันอยู่กว่าเดิมเพราะหมอผ่าออกอีกข้างไม่ได้ผ่า
พอคุยกับคุณหมอที่จะเสริมจมูกให้ผักกาดแล้วก็ปรึกษาคุณหมอที่จะทำตาให้ต่อคุณหมอบอกว่าเคสของผักกาดยากมากเพราะถ้าเอาออกก็จะเอาออกไม่หมดเพราะกลัวเป็นอันตรายด้วยถ้าเอาออกเยอะตาจะไม่เท่ากันทั้งสองข้างด้วย และคุณหมอก็ถามอยากได้ทรงอะไรยังไง ผักกาดอยากได้แบบแบ๋วๆตาโตๆ แต่คุณหมอแนะนำถ้าเอาขึ้นสูงเกินหน้าจะดูแก่และไม่สวยไม่เข้ากับหน้า ผักกาดเป็นคนมีตาสองชั้นอยู่แล้วแต่ตาจะหลบในเลยหมอจะเอาแบบเกาหลี เย็บแบบไม่กรีดและทำให้ตาดูมีชั้นขึ้น ผักกาดตกลงเอาตามที่คุณหมอบอกเลย พอคุยกับคุณหมอเสร็จก็เตรียมซักประวัติจากพยาบาลและเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด
เวลาที่รอคอยก็มาถึงในห้องผ่าตัดหนาวมากเย็นเฉียบ ในความรู้สึกตอนนั้นคือเคยทำให้แต่กับคนไข้วันนี้เจอกับตัวเองซะแล้ว แต่มีพี่จูมินให้กำลังใจข้างๆเพราะพี่จูมินต้องเข้าห้องผ่าตัดด้วยต้องมาแปลภาษา (ล่าม)ให้กับผักกาด
พยาบาลติดอุปกรณ์เตรียมตัวเราเลยและแทงน้ำเกลือให้ผักกาดด้วยพยาบาลก็บอกอย่าเกร็งนะค่ะตอนนั้นแบบตื้นเต้นมากเพราะโนรุมด้วยพยาบาลประมาน5คนได้ 5555+ พูดแล้วคิดถึงตัวเองตอนทำงานรู้เลยว่าความรู้สึกคนไข้เป็นยังไง
พยาบาลทำความสะอาดรูจมูกเราและเพ้นทายาฆ่าเชื้อ พอน้ำยาเข้ารูจมูกแค่นั้นและแสบมากไหลเข้ามาที่คอแล้วพยาบาลก็ให้กลื่นช่วงเวลานนั้นเป็นเวลาที่อยากจะหลับมากคือทรมานแสบคอหรือเป็นเพราะเราตื่นเต้นกันแน่ เรานับ1-10ก็แล้ว แล้วหมอดมยาก็บอกจะให้หลับนะค่ะ เราก็หลับไปเลยตื่นอีกทีก็โดนพยาบาลกับพี่จูมินปลุกสะและ ความรู้สึกตอนตื่น มึนๆเดินเซและเจ็บคอมาก หายใจลำบากนิดหนึ่งเพราะคุณหมอใส่สำลีอุดรูจมูกห้ามเลือดไว้เลยต้องหายใจทางปากแทน และมานอนห้องพักฟื้นต่ออีก2 ชม. ก่อนจะย้ายลงวอดชั้น 5
หลังออกจากห้องผ่าตัด
หลังออกจากห้องผ่าตัดก็ยังรู้สึก งงๆอยู่เพราะมึนยาสลบแต่ผ่าตัดครั้งนี้บอกเลยว่าไม่จบเลยค่ะ วันแรกวันที่2ก็รู้สึกตึงๆที่จมูกมีเจ็บนิดหน่อยแต่ไม่มากแต่ที่ตากับหูไม่เจ็บเลย ผักกาดผ่าตัดใช้กระดูกหน้าหูมาเสริมที่ปลายจมูกด้วยเลยต้องมีแผลที่หูด้วยตาคุณหมอบอกว่าเอาไขมันออกให้ได้3ซม. แต่ยังเหลือไว้อยู่วันแรกตาไม่ค่อยบวม วันที่2บวมหน่อยจะบวมมากก็ข้างซ้ายเพราะเอาไขมันออก
วันที่1หลังผ่าตัด เริ่มบวมแล้วค่ะ
พอผ่านมาวันที่2และ3ก็เริ่มออกมาเดินเล่นหาอะไรกินที่เมียงดงแล้วเพราะรู้สึกจะเบื่อที่ต้องนอนพักฟื้นบนเตียงทั้งวัน
โดยไกด์ของเราก็คือพี่จูมินและเพื่อนพี่จูมินอีกคนนั้นเอง พี่จูมินดูแลดีมากไม่ว่าจะในเวลางานหรือนอกเวลา
พี่เขาพาไปเที่ยวเมียนดงและคลองชองยเคช้อคด้วย ผักกาดเลยเก็บภาพเอามาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยยยยยย
นี่สภาพหน้าผักกาดไม่อยากให้ดูสักเท่าไหร่แต่จะได้เชื่อว่ามาจริง แฮ่ๆ ดูมิได้เลยใช่ไหมล่ะ
               
คลองช็องกเยช็อน
ตาครบ4วันตัดไหม และมาเปลี่ยนผ้าพันแผลที่จมูก
สำหรับกระทู้ในสัปดาห์นี้ที่ลงไปผักกาดขอลงไว้เท่านี้ก่อนนะค่ะ จะอัพเดทต่อเรื่อยๆ รอติดตามนะค่ะแต่จะขอลงรวบรัดเลยค่ะจากเป็นสัปดาห์ๆก็จะขอลงต่อๆกันนะค่ะ
ชื่อสินค้า:   โรงพยาบาลศัลยกรรม มาอิน - MINE Plastic Surgery
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่