สวัสดีค่ะ 🙏 วันนี้เบียร์อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองกับการไปแก้จมูกที่เกาหลีค่ะ งั้นเบียร์ขอพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเบียร์เองก่อนนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงต้องไปแก้ที่เกาหลีด้วย
คือจุดเริ่มต้นเบียร์ไปเสริมจมูกมาค่ะที่ไทยส่วนชื่อคลินิกทุกที่เบียร์จะไม่ขอเอ่ยชื่อถึงนะคะ สุดท้ายผลลัพธ์ที่เบียร์ได้คือสันจมูกเบี้ยว แต่เบียร์ทำตามคำแนะนำของทางคลินิกทุกอย่าง ทุกขั้นตอนแล้วนะคะ ก็เลยต้องมีการแก้ครั้งที่สองเกิดขึ้นที่ไทยอีกก็หาคลินิกที่ใหม่ค่ะ
พอหลังจากทำครั้งที่สองเสร็จ หายบวมเรียบร้อยครั้งนี้ไม่ได้เบี้ยวแต่ปลายจมูกเวลาที่จับคือเบียร์รู้สึกได้ถึงตัวซิลิโคนแต่ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก แต่พอเริ่ม....หลังจากนั้นอีกสองปี คือปลายจมูกมันเริ่มมีอาการแปลกๆคือจับแล้วเจ็บ เนื้อเริ่มใส และเริ่มเห็นอะไรปูดออกมาคล้ายๆว่าจะเป็นตัวซิลิโคนที่กำลังจะทะลุ
ทีนี้ก็รีบหาคลินิกที่สามทันทีว่าจมูกเบียร์ต้องทำอะไรแก้ไขยังไงได้บ้าง ก็เข้าไปพบคุณหมอทันทีที่นัดคิวได้ แล้วคำตอบที่ได้ก็คือคุณหมอไม่รับทำเคสเบียร์เพราะปลายจมูกเบียร์บางมากๆแล้วคุณหมอไม่สามารถแก้ไขให้เบียร์ได้ นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าทำไมเบียร์ต้องไปแก้จมูกที่เกาหลีค่ะ
ปล.เรื่องศัลยกรรมเป็นความชอบส่วนบุคคลนะคะ คือเบียร์แค่อยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปแก้จมูกที่เกาหลี แชร์ความเป็นอยู่และมาเล่าเรื่องให้เพื่อนๆที่เผื่อจะกำลังสนใจการไปศัลยกรรมเกาหลีเอาไว้เป็นแนวทางในการไปเกาหลีกันค่ะ
เบียร์จะพูดถึงเรื่องตั๋วเครื่องบินก่อนนะคะ ส่วนตัวเบียร์ซื้อผ่านเอเจนซี่ Sky Scanner ไปกับสายการบิน Asina Airline ค่ะ เพราะราคาในวันที่เลือกไปถูกที่สุดด้วยค่ะเลยตกลงจองเลย วันที่เบียร์ไปคือ 21-28 มิถุนายน ปีที่แล้วนะคะ เป็นช่วงหน้าร้อนที่เกาหลีพอดีส่วนโรงแรมเบียร์พักที่โรงแรม OCloud Hotel อยู่ที่ถนนกังนัมเลยคือใกล้กับโรงพยาบาลด้วยและก็ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้งมากๆ
ยิ่งสำหรับร้านหมูย่างนี่โซนนี้มีให้เห็นทุกๆ 10 ก้าวเลยค่ะ ถ้าสำหรับคนที่กินง่ายๆก็มีพวกร้านสะดวกซื้อเยอะกว่าเซเว่นบ้านเราอีกเท่าตัวนึงได้ค่ะ คือไม่ต้องกลัวถ้าไม่มีอะไรแช่อยู่ในตู้เย็นเลย
การทำศัลยกรรมที่เกาหลีจะต้องมีการงดน้ำงดอาหารก่อนการเข้าผ่าตัดด้วยเพื่อความปลอดภัยระหว่างการผ่าตัดนะคะ ส่วนการแก้จมูกของเบียร์ต้องงดก่อนเวลาผ่าตัด 6ชั่วโมงค่ะ ตัวเบียร์ได้คิวผ่าตอน 12:00น. เพราะงั้นอาหารและน้ำมื้อสุดท้ายที่เบียร์กินได้คือ 4:00น. ค่ะ ที่ไม่ใช่ 6:00น.เพราะเบียร์เผื่อเวลาให้ร่างกายเบียร์ย่อยด้วย 2 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของตัวเบียร์เองนะคะ พอกินเสร็จตอนตีสี่เบียร์ก็แปรงฟันล้างหน้าให้เรียบร้อยแล้วก็นอนรอเวลาเพื่อไปโรงพยาบาลค่ะ
และแล้วก็ถึงวันที่เบียร์รอคอย เป็นวันที่เบียร์จะเข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะตื่นเต้นมากๆ วันผ่าตัดไม่ต้องแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงไปเลยนะคะ เพราะเราต้องคลีนหน้าให้สะอาดที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัด รวมถึงพวกเครื่องประดับด้วยค่ะ ส่วนตัวเบียร์พกไปแค่โทรศัพท์กับเงินที่ต้องไปจ่ายค่าผ่าตัดค่ะ
พอเราเข้าไปถึงโรงพยาบาลขั้นตอนก็คือการยื่นพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ สักพักพนักงานก็จะเรียกชื่อเบียร์ เพื่อที่ไปถ่ายรูปก่อนทำศัลยกรรมเก็บไว้เป็นข้อมูลของทางโรงพยาบาลจะนำไปเก็บไว้เป็นประวัติการผ่าตัดของเบียร์ค่ะ
ถ่ายรูปเสร็จเบียร์ต้องเข้าเครื่องซีทีแสกนด้วยเนื่องจากเป็นการแก้จมูกครั้งที่3 แล้วจึงทำให้คุณหมอค่อนข้างกังวลว่าผิวหนังปลายจมูกของเบียร์เหลืออยู่มากน้อยขนาดไหนและซิลิโคนเป็นรูปทรงยังไงด้วยค่ะ
จากนั้นก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ แล้วก็เข้ามานั่งรอในห้องค่ะ ขั้นตอนแรกของการปรึกษาที่เกาหลีเราจะเจอผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมก่อนที่จะพบคุณหมอนะคะ เพื่อเป็นการถามความต้องการของตัวเราเพิ่มเติมและแนะนำในสิ่งที่เราควรทำเพิ่มด้วย ว่ามีอะไรที่เราควรทำเพิ่มอีกมั้ย
เราจะทำเลยหรือเก็บเอาไว้ทำครั้งหน้าอันนี้ตัดสินใจกันได้เลยนะคะ พอคุยกับที่ปรึกษาเสร็จบอกความต้องการไปคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอสักแปปนึงคุณหมอก็เข้ามาหาเราในห้อง แล้วก็เริ่มคุยกับเราถามเราว่าความสูงของดั้งสูงประมาณนี้พอมั้ย หรือต้องการสูงอีก ปลายจะเอาแบบไหน
ก็คือเข้ามาถามเรื่องทรงจมูกเพื่อความชัวร์อีกรอบแล้วคุณหมอก็ใส่รายละเอียดไว้ในแท็ปเล็ตที่เป็นข้อมูลของเราคนเดียว จากนั้นคุณหมอก็เริ่มดีไซน์จมูกของเบียร์คุณหมอก็ เล็งๆ วาดๆ แล้วก็จะถามเบียร์มีอะไรสงสัยอีกมั้ย พอบอกคุณหมอว่าไม่มีค่ะคุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวเจอกันในห้องผ่าตัดนะครับแล้วคุณหมอก็ออกจากห้องไปค่ะ
พอเสร็จจากคุณหมอเรียบร้อยคุณผู้เชี่ยวชาญก็กลับมาหาเราอีกครั้งนึงแต่ครั้งนี้มาเพื่อเป็นการคุยราคาตกลงราคากันในการแก้จมูกว่าของเบียร์มีต้องทำอะไรบ้างเพิ่มเติมตรงไหนก็จะชี้แจงรายละเอียดและราคาแต่ละจุดให้เรา พอคุยเรื่องราคากันเสร็จก็ออกไปจ่ายเงินที่ฝ่ายการเงิน ส่วนเรื่อง Tax Refund เราจะได้คืนประมาณ 7-8% จากยอดศัลยกรรมทั้งหมดของเรานะคะเบียร์จะสรุปราคาและค่าใช้จ่ายให้ในตอนท้ายนะคะ
นี่คือเครื่องซีทีแสกนที่แสกนจมูกของเบียร์ก่อนจะเจอคุณหมอค่ะ
นี่คือชุดของทางโรงพยาบาลก็จะเหมือนชุดโรงพยาบาลที่บ้านเราเลยค่ะ
นี่คือภาพตอนคุณหมอกำลังดีไซน์หน้าเบียร์ค่ะ
อันนี้คือรอยที่คุณหมอดีไซน์หน้าเบียร์เสร็จแล้วนะคะ
อันนี้คือปลายจมูกที่บอกว่ามันรั้งขึ้นมากๆแล้วก็ปลายบางมากๆก่อนแก้ไขนะคะคือเหมือนจมูกหมูเลยค่ะ
อันนี้คือปลายจมูกที่บอกว่ามันรั้งขึ้นมากๆแล้วก็ปลายบางมากๆก่อนแก้ไขนะคะ คือเหมือนจมูกหมูเลยค่ะ
ขอสูดอากาศระหว่างรอเข้าห้องผ่าตัดนิดนึงค่ะตื่นเต้นกว่าที่ไทยเยอะเลยเพราะที่เกาหลีใช้ยาสลบไม่ได้ใช้ยาชาเหมือนบ้านเรา
พอเรานั่งรอสักพักเจ้าหน้าที่ก็มาเรียกชื่อเราเพื่อเข้าห้องผ่าตัด ระหว่างทางก็จะมีนางพยาบาลมาพาเดินไปที่เตียงของเรา ให้เรานอนลงบนเตียง เอาที่รัดผมมารัดผมเลยไว้ แล้วก็พวกน้ำยาฆ่าเชื้อมั้งค่ะมาทาที่หน้าเราทั้งหมดเพื่อทำความสะอาด จากนั้นนางพยาบาลก็จะโกนขนจมูกของเราค่ะ พอโกนจนเสร็จนางพยาบาลก็จะเอายาฆ่าเชื้อล้วงเข้าไปในรูจมูกเราอีกทีค่ะเพื่อทำความสะอาดรูจมูกของเรา แล้วก็มีการเจาะสายน้ำเกลือเข้าที่เส้นเลือดค่ะ ทุกๆอย่างที่เบียร์เล่าให้ฟังคือทำแทบจะพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกันเลย หลังจากที่เจาะสายน้ำเกลือเสร็จสักพักเบียร์ไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ
รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้วและนี่ก็คือสภาพหลังจากที่เปลี่ยนชุดอะไรเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวกำลังจะกลับโรงแรมค่ะ แนะนำให้ใส่เสื้อที่มีกระดุมหรือซิปนะคะเพราะตอนเปลี่ยนชุดจะได้เปลี่ยนง่ายๆค่ะ
อาการก็จะประมาณนี้นะคะ นี่แค่จุดเริ่มต้นของความบวมนะคะในช่วงสามวันหลังจากนี้เบียร์บวมขึ้นจากในรูปอีกเยอะเลยค่ะ 55555 ที่สำคัญหลังจากทำศัลยกรรมที่เกาหลีไม่ควรนอนอยู่ที่โรงแรมเฉยๆนะคะเพราะจะยิ่งทำให้เราหายช้าเข้าไปใหญ่ เบียร์ขอบอกเลยว่าการเดินเป็นการช่วยลดบวมได้ดีที่สุดเลย ผ่าตัดเสร็จแล้วแนะนำให้เดินเยอะๆค่ะ
คำแนะนำหลังจากทำจมูกที่เกาหลีนะคะ
1.หายาที่ง่วงๆพกไปด้วยค่ะสำหรับคืนแรกเพราะคืนแรกจะนอนยากที่สุดนะคะสำหรับเบียร์
2.เบียร์ตัดปีกจมูกด้วยช่วง 7 วันแรกเบียร์เลยทานแต่น้ำฟักทองกับโจ๊กฟักทองนะคะ
3.ออกไปเดินเล่น เดินช็อปปิ้งเยอะๆค่ะเพราะส่วนตัวเบียร์มันช่วยลดบวมได้ดีมากๆเลย
4.ไม่ควรส่องกระจกนะค่ะช่วง 7 วันแรกเพราะเรามีจะมีอะไรไม่รู้เต็มหน้าไปหมดมันทำให้เรานอยได้ค่ะ
5.นอนหมอนสูงๆ เอาหมอนมาซ้อนกันแล้วนอนค่ะช่วยเรื่องความบวมได้
6.งดอาหารที่มีรสจัด เค็ม เผ็ดและอาหารดอง ในช่วงสามวันแรกนะคะเพราะจะทำให้เราบวมมากขึ้นค่ะ
7.พักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
หลังจากนั้นก็เหลือแค่รอเวลาให้จมูกหายบวมแล้วเข้าที่นะคะ รูปนี่คือจมูกของเบียร์หลังจากทำแล้วประมาณ 6 เดือนนะคะ จะเป็นเวลาที่เห็นทรงจมูกชัดมากที่สุดค่ะ
เบียร์ขอแนะนำการเตรียมตัว และควรพกอะไรไปบ้าง
1.พาสปอร์ตที่อายุมากกว่า 6เดือน ไปทำได้เลยตามสถานที่ระบุไว้เดี๋ยวนี้ได้ไวมากค่ะมีให้เลือกแบบไปรับเอง กับส่งมาที่บ้าน
2.เงินเกาหลี ส่วนตัวเบียร์ตอนนั้นแลก Super rich ไปนะคะ ตอนที่เบียร์ไปเรทเงิน 0.0292 นะคะ
3.หัวแปลงปลั๊กไฟ เพราะที่เกาหลีรูเสียบเป็นรูกลมๆไม่เหมือนบ้านเรานะคะ
4.หมอนรองคอสำหรับนอนบนเครื่องขาไปค่ะ แต่ขากลับเบียร์ไม่ได้ใช้เพราะคุณหมอใช้กระดูกหลังหูด้วยทำให้เจ็บเวลาใส่ค่ะ
5.เสื้อที่จะใส่เข้าและถอดออกได้สบายๆ สำหรับการเปลี่ยนชุดหลังการผ่าตัดเสร็จ พวกเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุมมีซิปรูด แต่ดูให้เหมาะกับฤดูของช่วงที่เราจะไปด้วยนะคะ เพราะหน้าร้อนที่เกาหลีก็ร้อนมากไม่ต่างจากบ้านเราเลยเดี๋ยวจะเตรียมชุดไปผิดฤดูกันค่ะ เพราะส่วนตัวเบียร์ไปหน้าร้อนพอดีค่ะ บางวันร้อนกว่าที่บ้านเราอีก
6.ยาบำรุงส่วนตัวหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จเพราะการทำที่เกาหลีจะบวมนานมากๆ นานกว่าที่ไทยค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนตัวเบียร์ใช้ทานยาจีนช่วยบำรุงก่อนผ่าสองวัน และหลังจากผ่าก็กินตามยาที่โรงพยาบาลสั่งเลยค่ะ
7.งดทานยาและอาหารเสริมก่อนวันที่เราผ่าตัดสองอาทิตย์ เพราะอาหารเสริมบางตัวอาจทำให้เรามีปัญหาระหว่างผ่าตัดได้ค่ะ
8.แกะผมปลอมและเล็บเจลออกให้หมดก่อนไปทำ เพราะสองอย่างนี้จะทำให้การวัดชีพจรของเราไม่เสถียรอันตรายมากๆนะคะ
9.โจ๊ก มาม่า ซอสปรุงรส สำหรับคนที่ติดรสชาติอาหารไทยนะคะเพราะรสชาติอาหารเกาหลีสำหรับตัวเบียร์คือมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าอร่อยก็คืออร่อยเลย แต่ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้จริงๆค่ะ
10.Internet จะเป็นแบบ pocket wifi หรือ travel sim ก็ได้เหมือนกันค่ะแต่ถ้าไปกันหลายคน pocket wifi จะคุ้มกว่านะคะเพราะหารกันได้
ถ้าเตรียมตัวได้พร้อมอย่าง 10 ข้อที่เบียร์บอกไปทุกคนก็สามารถไปศัลยกรรมที่เกาหลีกันได้เลยค่ะส่วนข้อสุดท้ายคือเตรียมตัวเตรียมใจกันให้พร้อมกับการผ่าตัดเท่านั้นค่ะและก็เคลียร์งาน เคลียร์วันว่างกันให้พร้อมแล้วลุยเลยค่า
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเบียร์นะคะ
เบียร์ขอบอกเรื่องราคาที่เกาหลีเค้าจะคิดเป็นจุดๆเลยนะคะอย่างจมูกเบียร์โรงพยาบาลคิดมาให้แบบนี้ค่ะ
1.การแก้ไขจมูกครั้งที่ 2 (ทำครั้งที่3) 9,000,000 วอน ยิ่งเราแก้หลายครั้งมากเท่าไหร่ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวนที่เราแก้ไขไปนะคะ
2.กระดูกซี่โครงบริจาค 1,000,000 วอน
3.กระดูกอ่อนหลังหู 1,000,000 วอน
4.ตัดปีกจมูก 1,000,000 วอน
ราคารวม 12,000,000 วอน แต่ต่อรองกับทางโรงพยาบาลได้ส่วนมา 10% ค่ะ เป็นราคา 10,800,000วอน เบียร์ได้ Tax refund คืนที่สนามบิน 777,600 วอน เป็นราคาที่เบียร์จ่ายจริงๆคือ 10,022,400 วอน (292,654บาท) จากราคา 12,000,000วอน (350,400บาท) คือเบียร์ได้ส่วนต่างคืนทั้งหมด 57,746บาทนะคะ
ส่วนราคาโรงแรม Ocloud Hotel ที่เบียร์พักตกคืนละ 3,000 บาท เบียร์นอนที่เกาหลีทั้งหมด7คืนนะคะรวม 21,000 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน Asiana Airline ที่เบียร์ได้มาราคา 15,381 บาท
ส่วนพวกค่ากิน ค่าเที่ยวก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะคะ
[CR] จมูกจะทะลุ....แชร์ประสบการณ์แก้จมูกที่เกาหลี !! จมูกใหม่ชีวิตใหม่
คือจุดเริ่มต้นเบียร์ไปเสริมจมูกมาค่ะที่ไทยส่วนชื่อคลินิกทุกที่เบียร์จะไม่ขอเอ่ยชื่อถึงนะคะ สุดท้ายผลลัพธ์ที่เบียร์ได้คือสันจมูกเบี้ยว แต่เบียร์ทำตามคำแนะนำของทางคลินิกทุกอย่าง ทุกขั้นตอนแล้วนะคะ ก็เลยต้องมีการแก้ครั้งที่สองเกิดขึ้นที่ไทยอีกก็หาคลินิกที่ใหม่ค่ะ
พอหลังจากทำครั้งที่สองเสร็จ หายบวมเรียบร้อยครั้งนี้ไม่ได้เบี้ยวแต่ปลายจมูกเวลาที่จับคือเบียร์รู้สึกได้ถึงตัวซิลิโคนแต่ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก แต่พอเริ่ม....หลังจากนั้นอีกสองปี คือปลายจมูกมันเริ่มมีอาการแปลกๆคือจับแล้วเจ็บ เนื้อเริ่มใส และเริ่มเห็นอะไรปูดออกมาคล้ายๆว่าจะเป็นตัวซิลิโคนที่กำลังจะทะลุ
ทีนี้ก็รีบหาคลินิกที่สามทันทีว่าจมูกเบียร์ต้องทำอะไรแก้ไขยังไงได้บ้าง ก็เข้าไปพบคุณหมอทันทีที่นัดคิวได้ แล้วคำตอบที่ได้ก็คือคุณหมอไม่รับทำเคสเบียร์เพราะปลายจมูกเบียร์บางมากๆแล้วคุณหมอไม่สามารถแก้ไขให้เบียร์ได้ นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าทำไมเบียร์ต้องไปแก้จมูกที่เกาหลีค่ะ
ปล.เรื่องศัลยกรรมเป็นความชอบส่วนบุคคลนะคะ คือเบียร์แค่อยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปแก้จมูกที่เกาหลี แชร์ความเป็นอยู่และมาเล่าเรื่องให้เพื่อนๆที่เผื่อจะกำลังสนใจการไปศัลยกรรมเกาหลีเอาไว้เป็นแนวทางในการไปเกาหลีกันค่ะ
เบียร์จะพูดถึงเรื่องตั๋วเครื่องบินก่อนนะคะ ส่วนตัวเบียร์ซื้อผ่านเอเจนซี่ Sky Scanner ไปกับสายการบิน Asina Airline ค่ะ เพราะราคาในวันที่เลือกไปถูกที่สุดด้วยค่ะเลยตกลงจองเลย วันที่เบียร์ไปคือ 21-28 มิถุนายน ปีที่แล้วนะคะ เป็นช่วงหน้าร้อนที่เกาหลีพอดีส่วนโรงแรมเบียร์พักที่โรงแรม OCloud Hotel อยู่ที่ถนนกังนัมเลยคือใกล้กับโรงพยาบาลด้วยและก็ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้งมากๆ
ยิ่งสำหรับร้านหมูย่างนี่โซนนี้มีให้เห็นทุกๆ 10 ก้าวเลยค่ะ ถ้าสำหรับคนที่กินง่ายๆก็มีพวกร้านสะดวกซื้อเยอะกว่าเซเว่นบ้านเราอีกเท่าตัวนึงได้ค่ะ คือไม่ต้องกลัวถ้าไม่มีอะไรแช่อยู่ในตู้เย็นเลย
การทำศัลยกรรมที่เกาหลีจะต้องมีการงดน้ำงดอาหารก่อนการเข้าผ่าตัดด้วยเพื่อความปลอดภัยระหว่างการผ่าตัดนะคะ ส่วนการแก้จมูกของเบียร์ต้องงดก่อนเวลาผ่าตัด 6ชั่วโมงค่ะ ตัวเบียร์ได้คิวผ่าตอน 12:00น. เพราะงั้นอาหารและน้ำมื้อสุดท้ายที่เบียร์กินได้คือ 4:00น. ค่ะ ที่ไม่ใช่ 6:00น.เพราะเบียร์เผื่อเวลาให้ร่างกายเบียร์ย่อยด้วย 2 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของตัวเบียร์เองนะคะ พอกินเสร็จตอนตีสี่เบียร์ก็แปรงฟันล้างหน้าให้เรียบร้อยแล้วก็นอนรอเวลาเพื่อไปโรงพยาบาลค่ะ
และแล้วก็ถึงวันที่เบียร์รอคอย เป็นวันที่เบียร์จะเข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะตื่นเต้นมากๆ วันผ่าตัดไม่ต้องแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงไปเลยนะคะ เพราะเราต้องคลีนหน้าให้สะอาดที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัด รวมถึงพวกเครื่องประดับด้วยค่ะ ส่วนตัวเบียร์พกไปแค่โทรศัพท์กับเงินที่ต้องไปจ่ายค่าผ่าตัดค่ะ
พอเราเข้าไปถึงโรงพยาบาลขั้นตอนก็คือการยื่นพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ สักพักพนักงานก็จะเรียกชื่อเบียร์ เพื่อที่ไปถ่ายรูปก่อนทำศัลยกรรมเก็บไว้เป็นข้อมูลของทางโรงพยาบาลจะนำไปเก็บไว้เป็นประวัติการผ่าตัดของเบียร์ค่ะ
ถ่ายรูปเสร็จเบียร์ต้องเข้าเครื่องซีทีแสกนด้วยเนื่องจากเป็นการแก้จมูกครั้งที่3 แล้วจึงทำให้คุณหมอค่อนข้างกังวลว่าผิวหนังปลายจมูกของเบียร์เหลืออยู่มากน้อยขนาดไหนและซิลิโคนเป็นรูปทรงยังไงด้วยค่ะ
จากนั้นก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ แล้วก็เข้ามานั่งรอในห้องค่ะ ขั้นตอนแรกของการปรึกษาที่เกาหลีเราจะเจอผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมก่อนที่จะพบคุณหมอนะคะ เพื่อเป็นการถามความต้องการของตัวเราเพิ่มเติมและแนะนำในสิ่งที่เราควรทำเพิ่มด้วย ว่ามีอะไรที่เราควรทำเพิ่มอีกมั้ย
เราจะทำเลยหรือเก็บเอาไว้ทำครั้งหน้าอันนี้ตัดสินใจกันได้เลยนะคะ พอคุยกับที่ปรึกษาเสร็จบอกความต้องการไปคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอสักแปปนึงคุณหมอก็เข้ามาหาเราในห้อง แล้วก็เริ่มคุยกับเราถามเราว่าความสูงของดั้งสูงประมาณนี้พอมั้ย หรือต้องการสูงอีก ปลายจะเอาแบบไหน
ก็คือเข้ามาถามเรื่องทรงจมูกเพื่อความชัวร์อีกรอบแล้วคุณหมอก็ใส่รายละเอียดไว้ในแท็ปเล็ตที่เป็นข้อมูลของเราคนเดียว จากนั้นคุณหมอก็เริ่มดีไซน์จมูกของเบียร์คุณหมอก็ เล็งๆ วาดๆ แล้วก็จะถามเบียร์มีอะไรสงสัยอีกมั้ย พอบอกคุณหมอว่าไม่มีค่ะคุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวเจอกันในห้องผ่าตัดนะครับแล้วคุณหมอก็ออกจากห้องไปค่ะ
พอเสร็จจากคุณหมอเรียบร้อยคุณผู้เชี่ยวชาญก็กลับมาหาเราอีกครั้งนึงแต่ครั้งนี้มาเพื่อเป็นการคุยราคาตกลงราคากันในการแก้จมูกว่าของเบียร์มีต้องทำอะไรบ้างเพิ่มเติมตรงไหนก็จะชี้แจงรายละเอียดและราคาแต่ละจุดให้เรา พอคุยเรื่องราคากันเสร็จก็ออกไปจ่ายเงินที่ฝ่ายการเงิน ส่วนเรื่อง Tax Refund เราจะได้คืนประมาณ 7-8% จากยอดศัลยกรรมทั้งหมดของเรานะคะเบียร์จะสรุปราคาและค่าใช้จ่ายให้ในตอนท้ายนะคะ
นี่คือเครื่องซีทีแสกนที่แสกนจมูกของเบียร์ก่อนจะเจอคุณหมอค่ะ
นี่คือชุดของทางโรงพยาบาลก็จะเหมือนชุดโรงพยาบาลที่บ้านเราเลยค่ะ
นี่คือภาพตอนคุณหมอกำลังดีไซน์หน้าเบียร์ค่ะ
อันนี้คือรอยที่คุณหมอดีไซน์หน้าเบียร์เสร็จแล้วนะคะ
อันนี้คือปลายจมูกที่บอกว่ามันรั้งขึ้นมากๆแล้วก็ปลายบางมากๆก่อนแก้ไขนะคะคือเหมือนจมูกหมูเลยค่ะ
อันนี้คือปลายจมูกที่บอกว่ามันรั้งขึ้นมากๆแล้วก็ปลายบางมากๆก่อนแก้ไขนะคะ คือเหมือนจมูกหมูเลยค่ะ
ขอสูดอากาศระหว่างรอเข้าห้องผ่าตัดนิดนึงค่ะตื่นเต้นกว่าที่ไทยเยอะเลยเพราะที่เกาหลีใช้ยาสลบไม่ได้ใช้ยาชาเหมือนบ้านเรา
พอเรานั่งรอสักพักเจ้าหน้าที่ก็มาเรียกชื่อเราเพื่อเข้าห้องผ่าตัด ระหว่างทางก็จะมีนางพยาบาลมาพาเดินไปที่เตียงของเรา ให้เรานอนลงบนเตียง เอาที่รัดผมมารัดผมเลยไว้ แล้วก็พวกน้ำยาฆ่าเชื้อมั้งค่ะมาทาที่หน้าเราทั้งหมดเพื่อทำความสะอาด จากนั้นนางพยาบาลก็จะโกนขนจมูกของเราค่ะ พอโกนจนเสร็จนางพยาบาลก็จะเอายาฆ่าเชื้อล้วงเข้าไปในรูจมูกเราอีกทีค่ะเพื่อทำความสะอาดรูจมูกของเรา แล้วก็มีการเจาะสายน้ำเกลือเข้าที่เส้นเลือดค่ะ ทุกๆอย่างที่เบียร์เล่าให้ฟังคือทำแทบจะพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกันเลย หลังจากที่เจาะสายน้ำเกลือเสร็จสักพักเบียร์ไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ
รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้วและนี่ก็คือสภาพหลังจากที่เปลี่ยนชุดอะไรเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวกำลังจะกลับโรงแรมค่ะ แนะนำให้ใส่เสื้อที่มีกระดุมหรือซิปนะคะเพราะตอนเปลี่ยนชุดจะได้เปลี่ยนง่ายๆค่ะ
อาการก็จะประมาณนี้นะคะ นี่แค่จุดเริ่มต้นของความบวมนะคะในช่วงสามวันหลังจากนี้เบียร์บวมขึ้นจากในรูปอีกเยอะเลยค่ะ 55555 ที่สำคัญหลังจากทำศัลยกรรมที่เกาหลีไม่ควรนอนอยู่ที่โรงแรมเฉยๆนะคะเพราะจะยิ่งทำให้เราหายช้าเข้าไปใหญ่ เบียร์ขอบอกเลยว่าการเดินเป็นการช่วยลดบวมได้ดีที่สุดเลย ผ่าตัดเสร็จแล้วแนะนำให้เดินเยอะๆค่ะ
คำแนะนำหลังจากทำจมูกที่เกาหลีนะคะ
1.หายาที่ง่วงๆพกไปด้วยค่ะสำหรับคืนแรกเพราะคืนแรกจะนอนยากที่สุดนะคะสำหรับเบียร์
2.เบียร์ตัดปีกจมูกด้วยช่วง 7 วันแรกเบียร์เลยทานแต่น้ำฟักทองกับโจ๊กฟักทองนะคะ
3.ออกไปเดินเล่น เดินช็อปปิ้งเยอะๆค่ะเพราะส่วนตัวเบียร์มันช่วยลดบวมได้ดีมากๆเลย
4.ไม่ควรส่องกระจกนะค่ะช่วง 7 วันแรกเพราะเรามีจะมีอะไรไม่รู้เต็มหน้าไปหมดมันทำให้เรานอยได้ค่ะ
5.นอนหมอนสูงๆ เอาหมอนมาซ้อนกันแล้วนอนค่ะช่วยเรื่องความบวมได้
6.งดอาหารที่มีรสจัด เค็ม เผ็ดและอาหารดอง ในช่วงสามวันแรกนะคะเพราะจะทำให้เราบวมมากขึ้นค่ะ
7.พักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
หลังจากนั้นก็เหลือแค่รอเวลาให้จมูกหายบวมแล้วเข้าที่นะคะ รูปนี่คือจมูกของเบียร์หลังจากทำแล้วประมาณ 6 เดือนนะคะ จะเป็นเวลาที่เห็นทรงจมูกชัดมากที่สุดค่ะ
เบียร์ขอแนะนำการเตรียมตัว และควรพกอะไรไปบ้าง
1.พาสปอร์ตที่อายุมากกว่า 6เดือน ไปทำได้เลยตามสถานที่ระบุไว้เดี๋ยวนี้ได้ไวมากค่ะมีให้เลือกแบบไปรับเอง กับส่งมาที่บ้าน
2.เงินเกาหลี ส่วนตัวเบียร์ตอนนั้นแลก Super rich ไปนะคะ ตอนที่เบียร์ไปเรทเงิน 0.0292 นะคะ
3.หัวแปลงปลั๊กไฟ เพราะที่เกาหลีรูเสียบเป็นรูกลมๆไม่เหมือนบ้านเรานะคะ
4.หมอนรองคอสำหรับนอนบนเครื่องขาไปค่ะ แต่ขากลับเบียร์ไม่ได้ใช้เพราะคุณหมอใช้กระดูกหลังหูด้วยทำให้เจ็บเวลาใส่ค่ะ
5.เสื้อที่จะใส่เข้าและถอดออกได้สบายๆ สำหรับการเปลี่ยนชุดหลังการผ่าตัดเสร็จ พวกเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุมมีซิปรูด แต่ดูให้เหมาะกับฤดูของช่วงที่เราจะไปด้วยนะคะ เพราะหน้าร้อนที่เกาหลีก็ร้อนมากไม่ต่างจากบ้านเราเลยเดี๋ยวจะเตรียมชุดไปผิดฤดูกันค่ะ เพราะส่วนตัวเบียร์ไปหน้าร้อนพอดีค่ะ บางวันร้อนกว่าที่บ้านเราอีก
6.ยาบำรุงส่วนตัวหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จเพราะการทำที่เกาหลีจะบวมนานมากๆ นานกว่าที่ไทยค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนตัวเบียร์ใช้ทานยาจีนช่วยบำรุงก่อนผ่าสองวัน และหลังจากผ่าก็กินตามยาที่โรงพยาบาลสั่งเลยค่ะ
7.งดทานยาและอาหารเสริมก่อนวันที่เราผ่าตัดสองอาทิตย์ เพราะอาหารเสริมบางตัวอาจทำให้เรามีปัญหาระหว่างผ่าตัดได้ค่ะ
8.แกะผมปลอมและเล็บเจลออกให้หมดก่อนไปทำ เพราะสองอย่างนี้จะทำให้การวัดชีพจรของเราไม่เสถียรอันตรายมากๆนะคะ
9.โจ๊ก มาม่า ซอสปรุงรส สำหรับคนที่ติดรสชาติอาหารไทยนะคะเพราะรสชาติอาหารเกาหลีสำหรับตัวเบียร์คือมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าอร่อยก็คืออร่อยเลย แต่ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้จริงๆค่ะ
10.Internet จะเป็นแบบ pocket wifi หรือ travel sim ก็ได้เหมือนกันค่ะแต่ถ้าไปกันหลายคน pocket wifi จะคุ้มกว่านะคะเพราะหารกันได้
ถ้าเตรียมตัวได้พร้อมอย่าง 10 ข้อที่เบียร์บอกไปทุกคนก็สามารถไปศัลยกรรมที่เกาหลีกันได้เลยค่ะส่วนข้อสุดท้ายคือเตรียมตัวเตรียมใจกันให้พร้อมกับการผ่าตัดเท่านั้นค่ะและก็เคลียร์งาน เคลียร์วันว่างกันให้พร้อมแล้วลุยเลยค่า
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเบียร์นะคะ
เบียร์ขอบอกเรื่องราคาที่เกาหลีเค้าจะคิดเป็นจุดๆเลยนะคะอย่างจมูกเบียร์โรงพยาบาลคิดมาให้แบบนี้ค่ะ
1.การแก้ไขจมูกครั้งที่ 2 (ทำครั้งที่3) 9,000,000 วอน ยิ่งเราแก้หลายครั้งมากเท่าไหร่ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวนที่เราแก้ไขไปนะคะ
2.กระดูกซี่โครงบริจาค 1,000,000 วอน
3.กระดูกอ่อนหลังหู 1,000,000 วอน
4.ตัดปีกจมูก 1,000,000 วอน
ราคารวม 12,000,000 วอน แต่ต่อรองกับทางโรงพยาบาลได้ส่วนมา 10% ค่ะ เป็นราคา 10,800,000วอน เบียร์ได้ Tax refund คืนที่สนามบิน 777,600 วอน เป็นราคาที่เบียร์จ่ายจริงๆคือ 10,022,400 วอน (292,654บาท) จากราคา 12,000,000วอน (350,400บาท) คือเบียร์ได้ส่วนต่างคืนทั้งหมด 57,746บาทนะคะ
ส่วนราคาโรงแรม Ocloud Hotel ที่เบียร์พักตกคืนละ 3,000 บาท เบียร์นอนที่เกาหลีทั้งหมด7คืนนะคะรวม 21,000 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน Asiana Airline ที่เบียร์ได้มาราคา 15,381 บาท
ส่วนพวกค่ากิน ค่าเที่ยวก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้