สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มีนิสัยไม่ชอบการต่อรองมาตั้งแต่เกิด
ตอนอยู่เมืองไทยไปตลาดสดตลาดนัดแทบนับครั้งได้เพราะไม่ชอบซื้อของที่ต้องเอ่ยปากถามราคาเองและต้องต่อรองราคา
ชอบให้ตรงไปตรงมา ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ถ้าเป็นต่างประเทศที่เจริญแล้วเค้าจะชัดเจนมาก
ประเภทติดป้าย ครึ่งโลห้าสิบบาท แต่เขียนคำว่า ครึ่ง ตัวเล็กๆให้อ่านไม่ออกแล้วมาเคลมทีหลังตอนซื้อแล้วว่าโลละร้อยบาท
แบบนี้เคยเห็นแต่ในเมืองไทย หรือการสั่งอาหารแล้วไม่เช็ครายละเอียดในบิลให้ดีๆก็อาจถูกฉวยโอกาสโกง เพิ่มรายการอาหาร
หรือเพิ่มราคาอาหารแบบเนียนๆทำให้เราจ่ายเพิ่มไปฟรีๆแบบนี้ก็เคยโดนแต่ในเมืองไทย ไปอยู่เมืองไหนๆไม่เคยโดน
…และอีกเรื่องที่ใหญ่มากๆคือการที่รถยนต์ในไทยไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย
เหตุผลมีแค่นี้จริงๆค่ะ ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องเจอในชีวตประจำวันแบบเลี่ยงไม่ได้
ถ้าสะสมเข้ามากๆมันจะน่าหงุดหงิดอย่างยิ่ง ถ้าอยู่แล้วต้องรู้สึกหงุดหงิด
หรือรู้สึกว่าทำอะไรต้องเช็คแล้วเช็คอีกเพราะอาจถูกโกงเล็กโกงน้อยได้ทุกครั้งที่เผลอ
ก็รู้สึกว่าเครียดและเหมือนมีพันธนาการ ถ้าต้องรู้สึกแบบนี้ทุกวันก็ไม่อยากอยู่ล่ะค่ะ
สรุปว่า มันแล้วแต่ค่านิยมส่วนตัวของแต่ละบุคคล
บางคนอาจชอบเมืองไทยมากเพราะชอบเดินซื้อของชอบต่อราคาสินค้าและดีใจว่าได้ของถูก
แต่สำหรับดิฉันแล้วไม่ใช่ ไม่ชอบ อึดอัด ทำไมต้องบอกผ่าน
ทำไมไม่พูดกันตรงๆครั้งเดียวจบ ทำไมต้องถามว่าจะให้เท่าไร ทำไมไม่มีราคามาตรฐานที่ไม่ว่าหน้าไหนมาซื้อก็ต้องราคาเท่ากัน
ส่วนเรื่องการปรับตัววัฒนธรรมภาษา เป็นเรื่องรองๆลงไป ไม่ใช่เรื่องยาก
เว้นแต่จะให้ไปอยู่ในประเทศอย่างซาอุที่ห้ามผู้หญิงขับรถหรือออกนอกบ้านคนเดียว
ถ้าแบบนั้นดิฉันคงเลือกอยู่เมืองไทย ยอมอึดอัดเรื่องต่อราคาของและเรื่องเสี่ยงตายบนทางม้าลายดีกว่า
ตอนอยู่เมืองไทยไปตลาดสดตลาดนัดแทบนับครั้งได้เพราะไม่ชอบซื้อของที่ต้องเอ่ยปากถามราคาเองและต้องต่อรองราคา
ชอบให้ตรงไปตรงมา ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ถ้าเป็นต่างประเทศที่เจริญแล้วเค้าจะชัดเจนมาก
ประเภทติดป้าย ครึ่งโลห้าสิบบาท แต่เขียนคำว่า ครึ่ง ตัวเล็กๆให้อ่านไม่ออกแล้วมาเคลมทีหลังตอนซื้อแล้วว่าโลละร้อยบาท
แบบนี้เคยเห็นแต่ในเมืองไทย หรือการสั่งอาหารแล้วไม่เช็ครายละเอียดในบิลให้ดีๆก็อาจถูกฉวยโอกาสโกง เพิ่มรายการอาหาร
หรือเพิ่มราคาอาหารแบบเนียนๆทำให้เราจ่ายเพิ่มไปฟรีๆแบบนี้ก็เคยโดนแต่ในเมืองไทย ไปอยู่เมืองไหนๆไม่เคยโดน
…และอีกเรื่องที่ใหญ่มากๆคือการที่รถยนต์ในไทยไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย
เหตุผลมีแค่นี้จริงๆค่ะ ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องเจอในชีวตประจำวันแบบเลี่ยงไม่ได้
ถ้าสะสมเข้ามากๆมันจะน่าหงุดหงิดอย่างยิ่ง ถ้าอยู่แล้วต้องรู้สึกหงุดหงิด
หรือรู้สึกว่าทำอะไรต้องเช็คแล้วเช็คอีกเพราะอาจถูกโกงเล็กโกงน้อยได้ทุกครั้งที่เผลอ
ก็รู้สึกว่าเครียดและเหมือนมีพันธนาการ ถ้าต้องรู้สึกแบบนี้ทุกวันก็ไม่อยากอยู่ล่ะค่ะ
สรุปว่า มันแล้วแต่ค่านิยมส่วนตัวของแต่ละบุคคล
บางคนอาจชอบเมืองไทยมากเพราะชอบเดินซื้อของชอบต่อราคาสินค้าและดีใจว่าได้ของถูก
แต่สำหรับดิฉันแล้วไม่ใช่ ไม่ชอบ อึดอัด ทำไมต้องบอกผ่าน
ทำไมไม่พูดกันตรงๆครั้งเดียวจบ ทำไมต้องถามว่าจะให้เท่าไร ทำไมไม่มีราคามาตรฐานที่ไม่ว่าหน้าไหนมาซื้อก็ต้องราคาเท่ากัน
ส่วนเรื่องการปรับตัววัฒนธรรมภาษา เป็นเรื่องรองๆลงไป ไม่ใช่เรื่องยาก
เว้นแต่จะให้ไปอยู่ในประเทศอย่างซาอุที่ห้ามผู้หญิงขับรถหรือออกนอกบ้านคนเดียว
ถ้าแบบนั้นดิฉันคงเลือกอยู่เมืองไทย ยอมอึดอัดเรื่องต่อราคาของและเรื่องเสี่ยงตายบนทางม้าลายดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
ถามคนที่ไม่คิดจะกลับมาอยู่เมืองไทยเลยนะครับไม่อยากกลับมาอยู่ จะได้เหตุผลสาเหตุใดก็ตามทั้งไม่มีระเบียบวินัยหรือไม่น่าอยู่
เอาแบบที่ว่า จะใช้ชีวิตในต่างประเทศตลอดไป เลยและจะไม่กลับมาประเทศไทยอีกเลยนะครับ จะด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป เช่น เพื่อจะมาทำงานหาเงิน ถ้ามีเงินมากพอ ที่คิดว่าชีวิตที่น้นที่มั่นคงแล้ว แต่ละท่าน พบเจออุปสรรคอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการปรับตัว ที่จะต้องไปอยู่ในที่ซึ่งมีประเพณี วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมของเค้าที่จะต้องไปอยู่ และจะต้องมีวินัยในชีวิตอย่างไรบ้างครับ
และคิดว่า การวางแผนชีวิตที่นั้นดีแล้ว หรือยัง
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ ครับ