ดาวฤกษ์พ่นธาตุโลหะหนักออกมาไปเกิดเป็น สิ่งต่างๆ เช่นดวงดาว หนึ่งในธาตุที่มีมาคือ คาร์บอน มันเป็นธาตุสำคัญเพราะต่อเป็นโซ่ยาวๆ สลับซับซ้อนได้ สร้างเป็นโมเลกุลที่สลับซับซ้อนได้ ทำให้เป็นธาตุของสิ่งมีชีวิต ธาตุที่สำคัญในคนมีธาตุหลายอย่างแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือคาร์บอน นั้นเราจึงเป็นฝุ่นดาวมาจากฝุ่นดาว เราเป็นเอกภพ อาจเรียกได้ว่า เป็นเอกภพที่มี consciousness มาตระหนักรู้เอกภพเอง คนเป็นธาตุต่างๆรวมกันอยู่พักหนึ่ง ต้องการพลังงาน สุดท้ายก็จะสลายกลับไปเป็นสิ่งต่างๆ ธาตุแยกจากกัน นั้นธาตุที่ประกอบเปนเรานี้ครั้งหนึ่งอาจเคยเป็นธาตุในต้นไม้ ธาตุจากคนที่เคยตายไป ธาตุมาจากสารประกอบคาร์บอนอื่นๆ เมื่อตายไปแล้วก็สูญสลาย แล้วก็กลับมารวมใหม่ วนเวียนไปแบบนี้เรื่อยๆ แต่ไม่ตระหนักรู้ได้ว่าอดีตเคยเป็นอะไรมา เพราะ ตายแล้วก็ตายเลย ไม่มีวิญญาณอะไรหลงเหลือมาสืบทอดความทรงจำ ความจำ การคิดเกิดจากสมอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น พอตายสมองผุพังเน่าเปื่อย ความคิด ความจำ การเป็นเรา ของเราก็หมดไป ดับวูบไปตลอดกาล  

การที่ธาตุรวมกันและสลายและรวมกันนี้ วนเวียนไปเรื่อยนี้ น่าจะคล้องจองกับการกลับชาติมาเกิดที่สุดแล้ว โดยอธิบายแบบให้เป็นวิทยาศาสตร์ ปราศจากความเชื่อ

ปล คำว่าธาตุมาจาก element ในภาษาอังกฤษ ในทางวิชาเคมี ไม่ใช่ในความหมายของพุทธ คำว่าวิญญาณหมายถึงความหมายที่คนเข้าใจโดยทั่วไป ไม่ใช่ส่วนประกอบในขันธ์ 5 ของพุทธ

เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร ?