ผมเป็นตัวแทนของบริษัทพี.อาร์.บางบอน หนึ่งในผู้นำเข้าเหล็กเอชบีมจากประเทศจีนครับ

สืบเนื่องจากประเด็นที่ว่า บริษัท เหล็กสยามยามาโตะร้องขอให้มีการออกมาตรการปกป้อง (SAFE GUARD) บนเหล็กโครงรูปพรรณรีดร้อนเจืออัลลอยรูปตัวเอช ในอัตรา 31.8% เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ซึ่งทางบริษัทสยามยามาโตะ ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการปกป้องผู้ผลิตในประเทศนั้น ผมมองว่าทางบริษัทเหล็กสยามฯนั้นทำไปเพื่อให้เกิดการ 'ผูกขาดในตลาด' มากกว่า เนื่องจากบริษัทเหล็กสยามฯเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถผลิตชนิดนี้ได้ครับ

ข้อมูลอ้างอิงจากกระทู้: https://ppantip.com/topic/35997298/ ครับ

ทาง บริษัท พี.อาร์.บางบอน ทราบดีว่าหากมีมาตรการปกป้องออกมานั้น แน่นอนว่าทางบริษัทจะไม่สามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เข้ามาได้อีก ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทครับ ซึ่งหลังจากที่บริษัทไม่สามารถนำเข้าสินค้ามาได้แล้ว คาดว่าบริษัทสยามฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวและมีคนไทยถือหุ้นเพียง 10% คงจะขึ้นราคาเหล็กเอชบีมชนิดที่เรียกว่า ‘ตามใจชอบ’ เพราะไม่มีใครมาเป็นคู่แข่งอีกต่อไป ดังเช่นในอดีตที่ผ่านมาก่อนมีการนำเข้า (ในอดีตก่อนมีการนำเข้าราคา 27-28 บาท/กิโลกรัม หลังจากมีการนำเข้าราคา 20-21 บาท/กิโลกรัม)

ผมขอแชร์ข้อเท็จจริงต่างๆผ่านทางข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 19 – วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2560 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ครับ


เรื่องการกำหนดมาตรการปกป้อง(SAFE GUARD)นั้นกระทบต่อพวกเราทุกคนโดยตรงเพราะว่าเหล็กคือปัจจัยพื้นฐานในการก่อสร้างทั้งหมดครับ ถ้าตลาดเหล็กมีการผูกขาดคนที่เสียผลประโยชน์ก็คือพวกเราทุกคนครับ

ในขณะนี้ผมได้ยื่นหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้การพิจารณาไต่สวนการกำหนดมาตรการปกป้องนั้นตกไปครับ