John Neff เป็นผู้จัดการกองทุนที่ยิ่งใหญ่คนนึง เค้าดูแลกองทุนที่มีชื่อว่า "Windsor"
ตลอด 30 กว่าปีที่เค้าดูแลกองทุน เค้าทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 13.7% ต่อปี
ในขณะที่ S&P500 ผลตอบแทนอยู่ที่ 10.6% ต่อปี
เนื้อหานี้เป็นเพียงบางส่วนของหนังสือ "ลงทุนแบบ จอห์น เนฟฟ์" เท่านั้น
- การจะประสบความสำเร็จใจการลงทุน ไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจหรืออยู่ในช่วงขาขึ้นเท่านั้น
การตัดสินใจและความอดทน คือสิ่งที่เรามี การวิเคราะห์ที่ดี คือโอกาส
- ก่อนที่จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดขายหุ้นถึงจะขาดทุนแสนสาหัสก็ตาม
- ผมไม่ได้ต่อสู้กับคนอื่น ผมสู้กับตลาด แม้จะเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นแตกต่างกับตลาด
- สิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจก็คือ ราคาหุ้นจะสะท้อนตัวแปรสองตัว
1. กำไรต่อหุ้น
2. ตัวคูณกำไรต่อหุ้น ซึ่งตลาดจะเป็นตัวกำหนด
- ให้เลือกบริษัทอุตสาหกรรมที่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการได้ ในภาวะอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ได้
- กองทุน Windsor ไม่เคยเพ้อฝัน ทำตามแฟชั่นหรือยอมจำนนต่อสภาพตลาด เรายึดมั่นในรูปแบบการลงทุนที่ใช้มานาน ไม่ว่าตลาดจะขึ้นจะลงหรือทรงตัว
- องค์ประกอบหลักของการลงทุนของ Windsor มีดังนี้
1. P/E ค่อนข้างต่ำ (ในหนังสือไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่)
2. Profit Growth > 7% ต่อปี
3. มีผลตอบแทนเงินปันผลเพิ่มขึ้น
4. ผลตอบแทนโดยรวมเมื่อเทียบกับราคาแล้วน่าสนใจ
5. หุ้นที่เป็น Cycle stock ต้องชดเชยด้วย P/E multiple
6. เป็นบริษัทที่มั่นคงแข็งแกร่งในอุตสาหากรรมที่กำลังเติบโต
7. มีปัจจัยพื้นฐานดี
- หากคุณเป็นนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นที่มี P/E ต่ำ
คุณต้องแยกแยะ "หุ้นที่ถูกขายในราคาส่วนลด (Bargain price) เพราะความเข้าใจผิดและถูกมองข้าม" กับ "หุ้นที่ไม่มีอนาคตให้ออก"
- แทนที่จะซื้อหุ้นที่กำลังร้อนแรงเช่นเดียวกับนักลงทุนส่วนใหญ่ เรากลับทำในสิ่งตรงข้าม
- Windsor ชอบหุ้นที่มีอัตราส่วนของผลตอบแทนโดยรวม หารด้วย P/E แล้วได้ผลมากกว่า 2 ต่อ 1
- Windsor ชอบหุ้นกลุ่ม "Less recognized growth" (หุ้นเติบโตที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม)
- ในช่วงตลาดไม่ดีเราจะซื้อ และเราจะขายเมื่อนักลงทุนอื่นๆ นิยมชมชอบ
- Windsor จะขายหุ้นด้วยหนึ่งในสองเหตุผลนี้
1. พื้นฐานแย่ลง
2. ราคาเท่ากับราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้
- หุ้นทุกหุ้นที่ Windsor เป็นเจ้าของ มีไว้เพื่อขายทั้งสิ้น
- โดยเฉลี่ย Windsor จะถือหุ้นไว้ประมาณ 3 ปี (เป็นเวลาของวงจรตลาด)
- ความสำเร็จของกองทุน Windsor ไม่มีอะไรที่ลึกลับ เรายึดมั่นในหลักการนำ P/E ต่ำมาใช้อย่างเคร่งครัด ประกอบกับการใช้ปัจจัยพื้นฐานและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
สรุปโดย Traveller's trade
https://www.facebook.com/TravellersTrade/
[CR] สรุปเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ "ลงทุนอย่าง John Neff"
ตลอด 30 กว่าปีที่เค้าดูแลกองทุน เค้าทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 13.7% ต่อปี
ในขณะที่ S&P500 ผลตอบแทนอยู่ที่ 10.6% ต่อปี
เนื้อหานี้เป็นเพียงบางส่วนของหนังสือ "ลงทุนแบบ จอห์น เนฟฟ์" เท่านั้น
- การจะประสบความสำเร็จใจการลงทุน ไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจหรืออยู่ในช่วงขาขึ้นเท่านั้น
การตัดสินใจและความอดทน คือสิ่งที่เรามี การวิเคราะห์ที่ดี คือโอกาส
- ก่อนที่จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดขายหุ้นถึงจะขาดทุนแสนสาหัสก็ตาม
- ผมไม่ได้ต่อสู้กับคนอื่น ผมสู้กับตลาด แม้จะเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นแตกต่างกับตลาด
- สิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจก็คือ ราคาหุ้นจะสะท้อนตัวแปรสองตัว
1. กำไรต่อหุ้น
2. ตัวคูณกำไรต่อหุ้น ซึ่งตลาดจะเป็นตัวกำหนด
- ให้เลือกบริษัทอุตสาหกรรมที่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการได้ ในภาวะอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ได้
- กองทุน Windsor ไม่เคยเพ้อฝัน ทำตามแฟชั่นหรือยอมจำนนต่อสภาพตลาด เรายึดมั่นในรูปแบบการลงทุนที่ใช้มานาน ไม่ว่าตลาดจะขึ้นจะลงหรือทรงตัว
- องค์ประกอบหลักของการลงทุนของ Windsor มีดังนี้
1. P/E ค่อนข้างต่ำ (ในหนังสือไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่)
2. Profit Growth > 7% ต่อปี
3. มีผลตอบแทนเงินปันผลเพิ่มขึ้น
4. ผลตอบแทนโดยรวมเมื่อเทียบกับราคาแล้วน่าสนใจ
5. หุ้นที่เป็น Cycle stock ต้องชดเชยด้วย P/E multiple
6. เป็นบริษัทที่มั่นคงแข็งแกร่งในอุตสาหากรรมที่กำลังเติบโต
7. มีปัจจัยพื้นฐานดี
- หากคุณเป็นนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นที่มี P/E ต่ำ
คุณต้องแยกแยะ "หุ้นที่ถูกขายในราคาส่วนลด (Bargain price) เพราะความเข้าใจผิดและถูกมองข้าม" กับ "หุ้นที่ไม่มีอนาคตให้ออก"
- แทนที่จะซื้อหุ้นที่กำลังร้อนแรงเช่นเดียวกับนักลงทุนส่วนใหญ่ เรากลับทำในสิ่งตรงข้าม
- Windsor ชอบหุ้นที่มีอัตราส่วนของผลตอบแทนโดยรวม หารด้วย P/E แล้วได้ผลมากกว่า 2 ต่อ 1
- Windsor ชอบหุ้นกลุ่ม "Less recognized growth" (หุ้นเติบโตที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม)
- ในช่วงตลาดไม่ดีเราจะซื้อ และเราจะขายเมื่อนักลงทุนอื่นๆ นิยมชมชอบ
- Windsor จะขายหุ้นด้วยหนึ่งในสองเหตุผลนี้
1. พื้นฐานแย่ลง
2. ราคาเท่ากับราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้
- หุ้นทุกหุ้นที่ Windsor เป็นเจ้าของ มีไว้เพื่อขายทั้งสิ้น
- โดยเฉลี่ย Windsor จะถือหุ้นไว้ประมาณ 3 ปี (เป็นเวลาของวงจรตลาด)
- ความสำเร็จของกองทุน Windsor ไม่มีอะไรที่ลึกลับ เรายึดมั่นในหลักการนำ P/E ต่ำมาใช้อย่างเคร่งครัด ประกอบกับการใช้ปัจจัยพื้นฐานและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
สรุปโดย Traveller's trade
https://www.facebook.com/TravellersTrade/