แม้หลายคนจะบอกว่าอาหารบนเครื่องบินมักมีรสชาติไม่อร่อยหรือคุณภาพแย่ แต่ในปัจจุบันสายการบินต่างๆ ได้พยายามปรับปรุงพัฒนาคุณภาพและรสชาติของอาหาร โดยเฉพาะสายการบินญี่ปุ่นที่เสิร์ฟอาหารที่ทั้งสด สะอาด และหน้าตาน่ารับประทานไม่แพ้ภัตตาคารหรู
สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) คือหนึ่งในสายการบินระดับโลกที่ใส่ใจทั้งคุณภาพและการให้บริการ โดยเฉพาะด้านอาหารซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้โดยสารประทับใจ
JAL Royal Catering (JRC) เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตและจัดเตรียมอาหารบนเครื่องบินให้กับ 10 เส้นทางบินหลักของเจแปนแอร์ไลน์ ยกตัวอย่างเช่นเที่ยวบินสู่ลอสแอนเจลิส ปารีส และลอนดอน
หน้าที่หลักของพวกเขาก็คือการจัดเตรียมและดูแลเรื่องความสะอาดของภาชนะ ประกอบอาหาร จัดอาหาร และส่งอาหารไปสู่สนามบิน ซึ่งทีมงาน RocketNews24 ได้มีโอกาสได้เข้าไปเยือนและสัมผัสกรรมวิธีต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมบันทึกภาพและเรื่องราวมาให้เราได้ชม
จัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือโรงงาน JRC ไม่ได้เต็มไปด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่นานาชนิดอย่างที่หลายคนคิด แต่เกือบทุกกรรมวิธีและขั้นตอนในโรงงานผลิตอาหารแห่งนี้เกิดขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือของมนุษย์
แน่นอนว่าเครื่องจักรที่ทันสมัยก็เป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน JRC ภาชนะทุกใบจะถูกล้างด้วยเครื่องล้างจานขนาดใหญ่ แต่หลังจากล้างออกมาแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเป็นคนตรวจสอบความสะอาด และถ้าหากยังไม่ได้มาตรฐานก็จะมีการล้างซ้ำอีกครั้งด้วยมือ
เป็นโรงครัวมากกว่าโรงงาน
บรรยากาศภายในโรงงานดูเหมือนโรงเรียนสอนทำอาหารหรือห้องครัวในร้านอาหารมากกว่าโรงงาน พนักงานจะจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะอย่างพิถีพิถัน ไม่เฉพาะแค่อาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจเท่านั้นแต่รวมถึงอาหารของที่นั่งชั้นประหยัดด้วย
ในแต่ละวัน JRC ผลิตอาหารที่แตกต่างกันมากกว่า 4,000 ชุด และอาหารแต่ละชุดจะต้องจัดเสิร์ฟบนเครื่องบินภายในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าหากเกิดปัญหาอย่างเช่นการเลื่อนเวลาการบิน อาหารทั้งหมดก็จะต้องถูกจัดเตรียมขึ้นใหม่อีกครั้งเพื่อความสดใหม่และถูกหลักอนามัย
อาหารแต่ละชนิดจะถูกทำให้สุก จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเพื่อรักษาคุณภาพ และทำการอุ่นด้วยอุณหภูมิที่กำหนดอีกครั้งก่อนการจัดเสิร์ฟ
ความพิเศษของ JAL
เมื่อถามถึงความแตกต่างของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์กับสายการบินอื่นๆ เช่นคู่แข่งอย่าง ออล นิปปอน แอร์เวย์ พนักงานทุกคนใน JRC ต่างมั่นใจว่าอาหารของพวกเขาหลากหลายและมีการพัฒนาคุณภาพอยู่เสมอ
ยกตัวอย่างเช่นทาง JAL จะร่วมมือกับเชฟหรือภัตตาคารชื่อดังเพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ขณะที่สายการบินอื่นก็มีการจัดโปรโมชั่นที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือสายการบินอื่นเพียงแค่รับเอาเมนูเหล่านั้นมาใช้ ส่วนเจแปนแอร์ไลน์จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายอย่างละเอียดถี่ถ้วน พวกเขาต้องทดลองทำอาหารร่วมกัน ปรับปรุงสูตร ส่งไปให้พาร์ทเนอร์ตรวจสอบ รับฟังคำแนะนำ จากนั้นก็ปรับปรุงอีกครั้ง จนกว่าจะได้อาหารที่ทั้งอร่อย คุณภาพดี และเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ
และนี่คือภาพถ่ายจากโรงงานผลิตอาหาร JRC ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์
ทุกขั้นตอนจะต้องเกิดขึ้นอย่างพิถีพิถัน
ล้างทำความสะอาดภาชนะโดยเครื่องที่ได้มาตรฐาน
ล้างเสร็จแล้วก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
การจัดเตรียมอาหารสำหรับชั้นธุรกิจ
ตู้แช่เย็น
เนื้อและเครื่องปรุงที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีเพื่อความสดสะอาด
ทุกขั้นตอนถูกจัดเตรียมในห้องเย็น
จากนั้นจึงนำไปประกอบอาหาร
เสร็จแล้วก็นำไปแช่ในตู้ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส
ผ่านขั้นตอนการทดสอบแบคทีเรีย
โรงครัวที่ไม่เหมือนโรงงาน
อาหารทุกจานต้องผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ
พร้อมส่งต่อ
บรรจุลงในถาด
อาหารพร้อมเสิร์ฟแล้ว
จากนั้นก็นำไปแช่ไว้เพื่อรอขึ้นเครื่องบิน
อุณหภูมิต้องต่ำกว่า 10 องศา
และก็ถึงเวลาเสิร์ฟความอร่อยให้ผู้โดยสารทุกท่าน
ที่มา: Rocketnews24
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.meekhao.com/foods/japan-airline-food
พาชม ภาพบรรยากาศภายใน “โรงงานผลิตอาหาร” ของสายการบินญี่ปุ่น!
สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) คือหนึ่งในสายการบินระดับโลกที่ใส่ใจทั้งคุณภาพและการให้บริการ โดยเฉพาะด้านอาหารซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้โดยสารประทับใจ
JAL Royal Catering (JRC) เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตและจัดเตรียมอาหารบนเครื่องบินให้กับ 10 เส้นทางบินหลักของเจแปนแอร์ไลน์ ยกตัวอย่างเช่นเที่ยวบินสู่ลอสแอนเจลิส ปารีส และลอนดอน
หน้าที่หลักของพวกเขาก็คือการจัดเตรียมและดูแลเรื่องความสะอาดของภาชนะ ประกอบอาหาร จัดอาหาร และส่งอาหารไปสู่สนามบิน ซึ่งทีมงาน RocketNews24 ได้มีโอกาสได้เข้าไปเยือนและสัมผัสกรรมวิธีต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมบันทึกภาพและเรื่องราวมาให้เราได้ชม
จัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือโรงงาน JRC ไม่ได้เต็มไปด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่นานาชนิดอย่างที่หลายคนคิด แต่เกือบทุกกรรมวิธีและขั้นตอนในโรงงานผลิตอาหารแห่งนี้เกิดขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือของมนุษย์
แน่นอนว่าเครื่องจักรที่ทันสมัยก็เป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน JRC ภาชนะทุกใบจะถูกล้างด้วยเครื่องล้างจานขนาดใหญ่ แต่หลังจากล้างออกมาแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเป็นคนตรวจสอบความสะอาด และถ้าหากยังไม่ได้มาตรฐานก็จะมีการล้างซ้ำอีกครั้งด้วยมือ
เป็นโรงครัวมากกว่าโรงงาน
บรรยากาศภายในโรงงานดูเหมือนโรงเรียนสอนทำอาหารหรือห้องครัวในร้านอาหารมากกว่าโรงงาน พนักงานจะจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะอย่างพิถีพิถัน ไม่เฉพาะแค่อาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจเท่านั้นแต่รวมถึงอาหารของที่นั่งชั้นประหยัดด้วย
ในแต่ละวัน JRC ผลิตอาหารที่แตกต่างกันมากกว่า 4,000 ชุด และอาหารแต่ละชุดจะต้องจัดเสิร์ฟบนเครื่องบินภายในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าหากเกิดปัญหาอย่างเช่นการเลื่อนเวลาการบิน อาหารทั้งหมดก็จะต้องถูกจัดเตรียมขึ้นใหม่อีกครั้งเพื่อความสดใหม่และถูกหลักอนามัย
อาหารแต่ละชนิดจะถูกทำให้สุก จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเพื่อรักษาคุณภาพ และทำการอุ่นด้วยอุณหภูมิที่กำหนดอีกครั้งก่อนการจัดเสิร์ฟ
ความพิเศษของ JAL
เมื่อถามถึงความแตกต่างของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์กับสายการบินอื่นๆ เช่นคู่แข่งอย่าง ออล นิปปอน แอร์เวย์ พนักงานทุกคนใน JRC ต่างมั่นใจว่าอาหารของพวกเขาหลากหลายและมีการพัฒนาคุณภาพอยู่เสมอ
ยกตัวอย่างเช่นทาง JAL จะร่วมมือกับเชฟหรือภัตตาคารชื่อดังเพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ขณะที่สายการบินอื่นก็มีการจัดโปรโมชั่นที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือสายการบินอื่นเพียงแค่รับเอาเมนูเหล่านั้นมาใช้ ส่วนเจแปนแอร์ไลน์จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายอย่างละเอียดถี่ถ้วน พวกเขาต้องทดลองทำอาหารร่วมกัน ปรับปรุงสูตร ส่งไปให้พาร์ทเนอร์ตรวจสอบ รับฟังคำแนะนำ จากนั้นก็ปรับปรุงอีกครั้ง จนกว่าจะได้อาหารที่ทั้งอร่อย คุณภาพดี และเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ
และนี่คือภาพถ่ายจากโรงงานผลิตอาหาร JRC ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์
ทุกขั้นตอนจะต้องเกิดขึ้นอย่างพิถีพิถัน
ล้างทำความสะอาดภาชนะโดยเครื่องที่ได้มาตรฐาน
ล้างเสร็จแล้วก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
การจัดเตรียมอาหารสำหรับชั้นธุรกิจ
ตู้แช่เย็น
เนื้อและเครื่องปรุงที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีเพื่อความสดสะอาด
ทุกขั้นตอนถูกจัดเตรียมในห้องเย็น
จากนั้นจึงนำไปประกอบอาหาร
เสร็จแล้วก็นำไปแช่ในตู้ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส
ผ่านขั้นตอนการทดสอบแบคทีเรีย
โรงครัวที่ไม่เหมือนโรงงาน
อาหารทุกจานต้องผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ
พร้อมส่งต่อ
บรรจุลงในถาด
อาหารพร้อมเสิร์ฟแล้ว
จากนั้นก็นำไปแช่ไว้เพื่อรอขึ้นเครื่องบิน
อุณหภูมิต้องต่ำกว่า 10 องศา
และก็ถึงเวลาเสิร์ฟความอร่อยให้ผู้โดยสารทุกท่าน
ที่มา: Rocketnews24 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้